โลกในทุกวันนี้อยู่ได้ด้วย ‘คอนเทนต์’ นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้แบรนด์ต้องละทิ้งภาพจำการทำคอนเทนต์แบบเดิม ๆ แล้วหันมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้น่าสนใจมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโจทย์ยากของหลายแบรนด์เลยทีเดียวว่าจะทำคอนเทนต์อย่างไรให้สนุก และมีความ Friendly กับคนดู แถมยังสร้างยอดขายได้ด้วย
วันนี้ RAiNMaker เลยขอนำเสนอ 10 ไอเดียทำคอนเทนต์สำหรับแบรนด์มาฝากสำหรับคนที่ทำคอนเทนต์แบรนด์จนตัน หรือสำหรับแบรนด์ที่อยากฉีกแนวและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น มาออกจากกรอบคอนเทนต์แพตเทิร์นเดิม ๆ แล้วต่อยอดทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ ผ่านไอเดียเหล่านี้กันเถอะ!
เล่าความสำเร็จ และความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่สินค้าหรือบริการอย่างเดียวที่ผู้บริโภคสนใจ แต่เรื่องเล่าของแบรนด์ เช่น ความสำเร็จ ความผิดพลาด หรือเส้นทางของแบรนด์ก็กลายเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคดูจะให้ความสนใจมากขึ้น
นอกจากจะเป็นการเล่าเรื่องแบรนด์ให้ผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ (Trust), ความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) รวมถึงยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และเป็น Case Study ให้คนอื่นที่อาจจะเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเองได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ทางอ้อมจากเราเช่นกัน
คำแนะนำสำหรับคนเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ
ต่อเนื่องจากข้อแรก แต่คอนเทนต์ประเภทนี้จะมีการลงลึกเกี่ยวกับรายละเอียดที่ถอดบทเรียนมาจากประสบการณ์จริงในการทำแบรนด์ เพื่อเป็นข้อคิดหรือข้อแนะนำให้กับหลายคนที่อยากทำหรือทำแบรนด์อยู่
ทั้งเพื่อเป็นแนวทางและเป็นการแชร์ Brand Story และทำให้คนรู้สึกเชื่อมั่นและมองว่าแบรนด์เรามีความเป็นผู้นำในวงการมากขึ้นอีกด้วย
โดยเนื้อหาคอนเทนต์อาจมีการสอดแทรกเทรนด์หรือ Data ที่เกี่ยวกับแวดวงธุรกิจที่แบรนด์ทำอยู่มาแชร์เป็นเกร็ดความรู้ รวมถึงการแชร์ POV เกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็ช่วยเพิ่มยอดเอนเกจเมนต์ให้แบรนด์ได้มากขึ้นเช่นกัน
แชร์กระบวนการการทำงานที่แตกต่างจากที่อื่น
หากมั่นใจว่าแบรนด์ตัวเองมีจุดเด่น ควรดึงจุดแข็งตรงนั้นมาใช้ เพื่อตอกย้ำเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเราแตกต่างและมีความพิเศษจากแบรนด์อื่น ๆ เช่น หากเป็นแบรนด์ที่คำนึงถึงเรื่อง ESG ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการผลิต ก็นำเรื่องนี้มาเล่าที่มาที่ไปกว่าจะออกมาเป็นสินค้าหรือบริการแต่ละชิ้น เป็นต้น
โดยจุดสำคัญในการแชร์กระบวนการของแบรนด์ ไม่ได้เพื่อบลัฟแบรนด์อื่น ๆ แต่เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างและสร้างตัวตนให้แบรนด์เป็นที่จดจำในด้านที่ถนัดมากกว่า
ทำ Testimonial ของผู้ใช้จริง
นอกจากคอนเทนต์ที่พูดถึงแบรนด์ตัวเองว่าสินค้าหรือบริการของเราดีอย่างไร การนำฟีดแบ็กของผู้ใช้จริงมาแชร์ให้ทุกคนเห็นก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้ไม่น้อย
แถมการนำ Testinonial ยังเป็นการทำให้ผู้ใช้จริงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์ ซึ่งส่งผลทำให้พวกเขามี Brand Love และเลื่อนขั้นไปเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์เลยก็ได้
นอกจาก Testimonial แล้ว การมีส่วนร่สม หรือการนำ UGC ที่เป็นคอนเทนต์ที่ผลิตโดยผู้ใช้จริงมาแชร์ ก็ช่วยทำให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วม และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
จัด Q&A Live Session
ในยุคที่คนมี Interact กับคอนเทนต์ประเภทวิดีโอและไลฟ์มากขึ้น การจัดไลฟ์เพื่อพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายแบบเรียลไทม์ เช่น การเปิด Q&A Session ให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสถามตอบ พูดคุย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดช่องว่างระหว่างแบรนด์และผู้ใช้ได้มากขึ้น
เนื่องจากเป็นการติดต่อสื่อสารกันแบบเรียลไทม์ โดยที่ผู้บริโภคไม่ต้องเข้าไปทักหาแบรนด์และรอคำตอบนั่นเอง รวมถึงการไลฟ์จะทำให้คนได้เห็นรายละเอียดสินค้าแบบ 360 องศา อีกด้วย
Collab กับแบรนด์อื่น
ช่วงหลังมานี้ เราจะเห็นการคอลแลบกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์กับแบรนด์ หรือแบรนด์กับครีเอเตอร์ ซึ่งการคอลแลบถือเป็นการช่วยสร้างสรรค์สินค้าและบริการ รวมไปถึงคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ที่สำคัญยังเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กับแบรนด์ได้ดีเลยทีเดียว เพราะแบรนด์เองก็จะได้ฐานลูกค้าจากอีกฝ่ายที่คอลแลบด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ หากเราจับมือกับแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญหรือเป็นผู้นำในวงการนั้น ๆ ก็จะช่วยสร้างภาพจำให้แบรนด์น่าเชื่อถือมากขึ้นตามไปด้วย
แนะนำการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการแบบ Step by Step
สาเหตุที่หลายคนต้องไปดูคอนเทนต์รีวิวจากผู้ใช้จริงส่วนหนึ่งก็เพราะคอนเทนต์เหล่านั้นมีการบอกรายละเอียด หรือแนะนำวิธีการใช้งานที่ครอบคลุมกว่า เพราะฉะนั้นหากแบรนด์ทำคอนเทนต์แนะนำเองแบบละเอียด ก็จะดูน่าเชื่อถือ แถมช่วยเพิ่มยอดเอนเกจเมนต์ให้แบรนด์อีกด้วย
ข้อแนะนำในการทำคอนเทนต์ประเภทนี้ แบรนด์อาจต้องลองมองในมุมมองผู้ใช้งานให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ Pain Point ในการใช้งาน และลดความทางการเพื่อให้คอนเทนต์มีความ Friendly และเข้าถึงง่ายมากขึ้น
แก้ความเชื่อผิด ๆ ที่คนพูดถึงแบรนด์
เชื่อว่าหลายแบรนด์ต้องเคยเผชิญข่าวลือหรือความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับแบรนด์ เพราะฉะนั้นแบรนด์เองก็ควรมีการชี้แจง หรืออธิบายปรับความเข้าใจ เพื่อลบภาพจำที่ไม่ดีหรือไม่ถูกต้องออกไป
เนื่องจากข่าวลือด้านลบบนโลกออนไลน์มักจะแพร่กระจายไปได้รวดเร็ว การที่แบรนด์ Take Action ได้เร็วเท่าไหร่ และสามารถทำคอนเทนต์ไขข้อสงสัยหรือความเข้าใจผิดให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการรักษาและกอบกู้ภาพลักษณ์แบรนด์กลับมาได้ดีเท่ามากเท่านั้น
แชร์เครื่องมือหรือแหล่งที่มาที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
นอกจากเล่าเรื่อง Brand Story หรือประสบการณ์ต่าง ๆ แล้ว การแชร์เคล็ดลับ หรือทริกต่าง ๆ ที่เป็นตัวช่วยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ เช่น รายงาน, Data หรือแม้กระทั่งบุคคลที่คอยซัพพอร์ต
ก็เป็นการสร้างความน่าสนใจ รวมถึงทำให้แบรนด์ดูมีความเป็นผู้นำและเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ มากยิ่งขึ้น แถมการแชร์เครื่องมือต่าง ๆ ยิ่งอาจทำให้แบรนด์อื่น ๆ มองเราเป็น Trendsetter ได้อีกต่างหาก
บทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในวงการ
แค่คอนเทนต์ที่เจ้าของแบรนด์ พรีเซนเตอร์ หรือผู้ใช้จริงมาพูดอย่างเดียวคงไม่พอ การนำคอนเทนต์ที่รวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในวงการนั้น ๆ มา ถือเป็นการช่วยตอกย้ำความเป็นผู้รู้ในธุรกิจนั้น ๆ
โดยเฉพาะบทสัมภาษณ์ที่ให้ข้อมูลความรู้ที่คนสงสัย ไม่ว่าจะเป็น บทความ หรือวิดีโอสัมภาษณ์ ล้วนแต่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และความเป็น Professional ให้กับแบรนด์ได้มากขึ้น เปรียบเสมือนเป็นการการันตีว่าแบรนด์เรามีข้อดีและเชื่อถือได้นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 10 ไอเดียคอนเทนต์สำหรับแบรนด์ หากใครยังไม่เคยลองข้อไหน ลองนำไปปรับใช้ดูว่าเวิร์กหรือไม่ก็ไม่เสียหาย เพราะอย่าลืมว่ายุคนี้คอนเทนต์สำคัญ!
อ้างอิง: SocialMediaToday