คงจะดีไม่น้อยถ้าหากเราจะมีอะไรสักหนึ่งอย่างเพื่อให้ผู้ติดตามสร้างความจดจำ หากเห็นเเล้ว ต้องนึกถึงเราอย่างเเน่นอน ในยุคนี้มีองค์ประกอบหลายอย่างที่สามารถเป็นตัวช่วยให้เรามีความโดดเด่น แต่หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “โลโก้” เป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ต้องมี และแน่นอนยังรวมไปถึงกลุ่ม creator ด้วยค่ะ เรียกได้ว่า “โลโก้” ถือเป็นตัวเเทนของเราเลยก็ได้
1. Simplification – ทำให้เข้าใจง่ายไว้ก่อน
สุดท้ายเเล้วความเรียบง่ายก็ฆ่าไม่ตาย เป็นอีกหนึ่งแบบที่ยังได้รับความนิยมอยู่เสมอมา กับการออกแบบด้วยการลดความซับซ้อน เปลี่ยนเป็นการทำตัวอักษรให้อ่านง่ายขึ้น เเละมีความสะอาด โดยข้อดีของแบบนี้ก็คือ ผู้ติดตามเราสามารถอ่านเเล้วรู้ได้เลยว่าสื่อถึงอะไร เป็นเพจหรือช่องของใคร
2. Original geometry – งัดรูปทรงเรขาคณิตออกมาใช้
รูปทรงเรขาคณิตเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร จากการใช้รูปทรงของสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม หรือเส้นหนาบางต่างๆ มาดัดแปลงเข้าด้วยกัน จนเกิดความหมายที่ต้องการจะสื่อ
3. Unusual fonts – สร้างความแปลก เปลี่ยนให้เป็นดีไซน์
การใช้ตัวอักษรที่มีความ unique มาจัดวางรวมกัน สร้างความแตกต่างแต่ลงตัวได้อย่างชัดเจน เปรียบเหมือนการทำโลโก้กึ่งกราฟิกไปในตัว ใครที่อยากหนีรูปแบบเดิมๆ แนะนำเลยค่ะ ไม่ซ้ำใครแน่นอน
4. Gradients – ไล่สีสันให้ดูสะดุดตา
หากถามถึงการสร้างโลโก้แบบทันสมัยตอนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นโลโก้แบบไล่สีสันสดใส แต่ต้องระวังด้วยนะคะ หากเลือกคู่สีไม่ดี มีสิทธิไม่ปังเลยนะ
5. Cluttered design – ทับๆ กันไปก็สวยดีนะ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าการเอาตัวหนังสือมาวางๆ ทับกันก็สามารถเป็นโลโก้ได้ ซึ่งดูเหมือนเป็นการออกแบบที่ไม่ตั้งใจ แน่นอนค่ะว่าเขาต้องคิดมาดีเเล้ว หากแต่ต้องผ่านการลองผิดลองถูกในการวางอยู่หลายรอบเชียวล่ะ
6. Chaotic arrangement – เน้นวางตามใจคนทำ
เป็นแบบที่ฮิตในวงการด้านครีเอทีฟมาก หลักๆ เป็นการจัดวางแบบตามใจฉันมากๆ แต่ในความตามใจตนเองก็ต้องมีความหมายให้สื่อถึงด้วยนะ
7. Geometric letters – เปลี่ยนรูปทรงเรขาคณิตให้เป็นตัวอักษร
เป็นการนำรูปทรงเรขาคณิตมาดัดแปลงเป็นตัวอักษร แน่นอนว่าโลโก้แบบนี้ไม่มีทางเหมือนใครแน่นอน เพราะเป็นการเลือกแบบและจัดวางโดยตัวเรา ใครที่ต้องการความต่าง แนะนำเลยค่ะ
8. Emblems – สร้างเป็นรูปสัญลักษณ์ไปเลย
ไปให้สุดแล้วหยุดที่โลโก้แบบ “ตราสัญลักษณ์” เหมาะสำหรับใครที่มีข้อมูลเยอะ และอยากใส่ข้อมูลเหล่านั้นทั้งหมดลงไปในโลโก้ เช่น วันก่อตั้ง รูปภาพ คำสร้อยต่างๆ ต้องจัดเลยค่ะ
9. Scaling – ตัวอักษรเล็กใหญ่สลับกันไป
เป็นการเพิ่มลูกเล่นจากการนำตัวอักษรที่อาจมีทั้งตัวใหญ่หรือตัวเล็ก วางสลับกันหรือวางไล่กัน ทั้งนี้อยู่ที่เราออกแบบได้เองเลยค่ะ
10. Text destruction – ตัวอักษรหายบ้างก็ได้ ไม่ต้องครบ
เป็นลักษณะการออกแบบที่ตัวอักษรของโลโก้มีลักษณะตั้งใจถูกออกแบบมาให้บางส่วนหายไปหรือจางลงไป แต่เราก็ต้องมั่นใจด้วยว่าบริบทของข้อความนั้นยังอยู่ครบ
ที่มา : logaster.com
