ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตาม Podcast กลายเป็นรูปแบบคอนเทนต์อีกแบบหนึ่งที่มีความน่าสนใจมากทั้งในมุมมองของ Publisher และคนฟัง ด้วยรูปแบบที่ง่าย เร็ว และสามารถเสพได้จากหลายช่องทางสามารถทำอย่างอื่นไปได้พร้อมกับฟังพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นทำงานบ้าน รดน้ำต้นไม้ ขับรถ หรือเดินทางบนรถเมล์ รถไฟฟ้า Podcast กลายเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจ แทนที่จะฟังเพลงอย่างเดียวซ้ำ ๆ มาฟัง Podcast ดีกว่า
สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นชินกับ Podcast ม้นคือรายการที่มีแต่เสียงผู้ดำเนินรายการกี่คนก็ได้มานั่งพูดคุยหรือบอกเล่าในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง (หรือบางทีก็ไม่มีหัวข้อ – ฮา) จากนั้นเราสามารถไปโหลดมาฟัง หรือฟังผ่านแอพ Podcast ต่าง ๆ รวมถึงแอพ Podcast บน iOS เรียกได้ว่าเป็นรายการวิทยุบนโลกอินเทอร์เน็ต
สำหรับ Podcast ในไทยก็เริ่มเติบโตมาได้ซักพักนึงแล้ว แม้ผู้ฟังจะไม่เยอะมาก แต่ไม่น่าเชื่อว่า Podcast นั้นสามารถสร้าง Culture ของคนกลุ่มกลุ่มนึงได้อย่างน่าสนใจ ยกตัวอย่างกรณีของ WiTCast , GetTalks หรือช่วงหลังที่ Publisher รายใหญ่ ๆ ก็หันมาใช้ Podcast เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงคน เช่น The Standard
คุณ Larry Kim เจ้าของบริษัท Word Stream บริษัทด้าน Online Advertising ได้เขียนบทคามลงบน Social Media Today เล่าถึง 4 เหตุผลที่เราควรพิจารณามาลองทำคอนเทนต์ในรูปแบบของ Podcast ได้แล้ว
1. คนฟัง Podcast มีส่วนร่วมสูงมาก
ด้วยความที่ Podcast นั้นใช้ระบบ Subscribe เป็นหลัก คุณ Kim บอกว่า การเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังของ Podcast นั้นจะง่ายกว่าการเขียนบทความ การทำเพจ เนื่องจาก Podcast นั้นจะถูกนำมาแสดงในแอพ Podcast ให้ผู้ฟังกดฟังได้ทันมี ซึ่งตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานอยู่แล้ว คือเข้ามาก็เพราะว่าจะฟัง แล้วพอจะฟังก็ได้ฟัง
2. ใช้ต้นทุนต่ำ และทำได้ง่าย
ในขณะที่คอนเทนต์วิดีโออาจจะต้องใช้กล้อง บทความต่าง ๆ อาจจะต้องมานั่งพิมพ์ แต่ Podcast นั้นเราสามารถใช้เครื่องมือง่าย ๆ อย่างโทรศัพท์มือถือก็ได้ หรือถ้ามีงบหน่อยอาจจะซื้อไมค์ดี ๆ
คุณ Kim ยกตัวอย่างหลายรายการที่ทำการอัด Podcast ในที่แปลก ๆ เช่น ในรถ ในที่ทำงาน หรือแม้กระทั่ง Khloe Kardashian ที่อัด Podcast ตอนกำลังอาบน้ำ
อีกอย่างคือซอฟแวร์ที่ใช้ก็มีราคาถูกคือใช้แอพตัดต่อเสียงธรรมดา ๆ ทำในมือถือก็ได้ และช่องทางในการอัพโหลดและเผยแพร่ก็ง่ายเหมือนกัน เรียกได้ว่าใช้เงินน้อยกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่น ๆ มาก
3. โฆษณาใน Podcast ได้อย่างแนบเนียน และผลตอบรับดีมาก
เมื่อพูดถึงเรื่องคอนเทนต์แล้วไม่พูดเรื่องโฆษณาก็คงไม่ได้ ไม่งั้นจะเอาเงินจากไหนมาทำงาน คุณ Kim บอกว่าคนฟังไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่เวลามีการพูดโฆษณาใน Podcast เนื่องจากเวลาที่ฟัง Podcast นั้นเหมือนกับคนฟังได้เข้าไปร่วมอยู่ใน Conversation นั้น ๆ และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ที่เวลาเราคุยกันเราจะแนะนำสิ่งต่าง ๆ ให้กับเพื่อน ๆ
Niemanlab เลยรายงานว่าหลังจากมีการทดสอบกับผู้ฟัง Podcast กว่า 300,000 ราย ผลปรากฏว่ามีผู้ฟังจำนวนสูงถึง 63% ที่ซื้อสินค้าตามที่ผู้ดำเนินรายการ Podcast บอก ซึ่งสูงกว่ารูปแบบของการโฆษณาอื่น ๆ มาก
อีกอย่างนึงก็คือถ้าเราพูดในรายการทีวี วิทยุ เราจะพบว่ามีบางสิ่งที่เราไม่สามารถพูดได้ เช่นขายของสปอนเซอร์ หรือแนะนำสิ่งอื่น ๆ แต่สำหรับ Podcast นั้น แล้วแต่เลย จะพูดอะไรก็พูด ไม่มีใครมาบังคับ
4. Podcast เป็นส่วนเสริมให้คอนเทนต์อื่น ๆ เช่น Blog หรือ Video
การทำ Podcast ร่วมกับคอนเทนต์อื่น ๆ เช่น Video หรือ Blog นั้นเป็นการช่วยดึงเอาคนที่ติดตามเราอยู่แล้ว มาอยู่ในจุดที่ใกล้ชิดเรามากขึ้น และเขาก็ได้รู้จักกับเรามากขึ้นเช่นกัน คุณ Kim ยกตัวอย่างว่า เราอาจจะเอาหัวข้อ Blog ที่เราเขียนมาพูดถึง เขาบอกว่า “Content marketing isn’t just about blogging, it’s about creating different types of content for your potential customers to engage with” ซึ่งแน่นอนว่า Podcast ก็เป็นอีกหนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจ
แล้วอยากเริ่มทำ Podcast ทำยังไงดี
เห็นแบบนี้แล้วสำหรับใครที่อยากลองเริ่มทำ Podcast ดูแล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง สำรับคำแนะนำก็คือ ให้ลองหาตัวอย่างของ Podcast แบบที่เราชอบก่อน ซึ่งถ้าใครติดตามรายการ Podcast รายการใดรายการนึงอยู่แล้วก็น่าจะไม่อยาก แต่สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจ แนะนำว่าควรรู้จักกับ Podcast ให้ดีเสียก่อน
หลังจากที่คิดว่ารู้จักกับ Podcast ดีแล้วก็สามารถเริ่มศึกษาถึงการ Publish Podcast ของเราได้เลย ซึ่งก็มีเครื่องมือหลายตัว ณ ตอนนี้ โดยหลัก ๆ ก็คือ Soundcloud เราจะเห็นว่าหลายคนใช้ Soundcloud เป็น Hub ในการกระจาย Podcast ของตัวเอง
เครื่องมือที่ใช้นั้นอาจจะไม่ต้องดีมาก เป็นแค่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือไมค์ธรรมดา ๆ ถ้าเรามีเรื่องราวและหัวข้อที่น่าสนใจแล้วล่ะก็ Podcast ของเราอาจจะได้รับความนิยมในกลุ่มเป้าหมายของเราได้ไม่น่ายาก
