ในวงการ Digital Marketing นอกจากจะต้องเข้าใจในตัวแบรนด์ดิงของตัวเองให้ดีพอแล้ว การรู็จักแนวทางคอนเทนต์ที่ดีของตัวเองก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะหากรู้จักปรับใช้กลยุทธ์ Content Recycling ก็จะยิ่งได้เปรียบในการแข่งขันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่ต้องรู้จักเลือกใช้ให้ถูกว่าคอนเทนต์แบบไหนควรจะนำกลับมาหน้าฟีดบ้าง
Content Recycling อีกกลยุทธ์หนึ่งที่นิยมใช้กันในโลกโซเชียลมีเดีย เป็นตัวเลือกในการโพสต์ที่จะช่วยดันยอดเอ็นเกจเมนต์ให้สม่ำเสมออีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลงคอนเทนต์หน้าฟีด หรือทำให้คอนเทนต์ติดท็อปเสิร์ชบนหน้า Google ก็ตาม
แม้การลงเรียลไทม์ หรือคอนเทนต์ตามกระแสจะช่วยให้เกิดการแชร์มากขึ้น แต่สิ่งเหล่านั้นอาจอยู่เพียงแค่ชั่วข้ามคืนหลังกระแสหมดไป แต่ Evergreen Content ที่สามารถนำมาลงใหม่ได้เสมอ จะคอยสร้าง Value ให้กับแบรนด์นั่นเอง แต่จะมีวิธีไหนบ้างมาดูกัน!
Reduce Content
ลดคอนเทนต์เพิ่มยอดทราฟฟิก
- เช็กแลนด์ดิงคอนเทนต์เพจใหม่
- ฟิลเตอร์การเสิร์ชผ่านเว็บไซต์
- แทร็กกิ้งการเก็บยอดอิมเพรสชัน
การลงคอนเทนต์สม่ำเสมอเป็นเรื่องดี เพื่อเพิ่มยอดการมองเห็น และทราฟฟิกให้สม่ำเสมอ แต่นี่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะเพิ่มยอดทราฟฟิกเท่านั้น เพราะการ Reduce หรือลด และคัดกรองคอนเทนต์ก็สำคัญ
เพราะทุกปีที่ลงคอนเทนต์ไป ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์จะปัง แต่กลับเป็นตัวถ่วงทราฟฟิกให้กับแบรนด์ หรือเพจด้วย ฉะนั้นจึงควรมีการลด หรือคัดกรองคอนเทนต์อยู่เสมอ ซึ่งเร่ิมจากการฟิลเตอร์ผ่านการเสิร์ชหน้าเว็บไซต์ก่อนได้ แล้วค่อยแทร็กกิ้งคอนเทนต์ยอดอิมเพรสชันดี ๆ เพื่อศึกษาว่ากลุ่มเป้าหมายขงเราชอบคอนเทนต์แบบไหน
Reuse Content
นำโครงสร้างคอนเทนต์กลับมาใช้ใหม่
- เช็กคอนเทนต์ที่ท็อปปิกไม่อัปเดต
- แทร็กคอนเทนต์ที่ทราฟฟิกมั่นคง
- เติมคอนเทนต์จากโครงให้ลึกขึ้น
การมรคอนเทนต์สดใหม่ทุกวันเป็นเรื่องดี แต่จะดีกว่าถ้าหากเรารู้จักใช้โครงสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์อยู่แล้วกลับมาผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้อีก เพราะจะทำให้เก็บยอดเอ็นเกจเมนต์ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเปลืองแรงคิดคอนเทนต์ทุกวัน
โดยเริ่มจากการแทร็กกิ้งกับคอนเทนต์ที่มีทราฟฟิกมั่นคง และเพิ่มยอดจากกลุ่มเป้าหมายอยู่เสมอ ศึกษาโครงสร้างของคอนเทนต์ แล้วนำมาทำเป็นคอนเทนต์ใหม่ เป็นการเติมคอนเทนต์จากโครงสร้างให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
Repurpose Content
อัปเดตย้ำท็อปปิกให้ปังกว่าเดิม
- เติมพล็อตทวิตส์ในบริบทคอนเทนต์
- สร้างไดนามิกให้คอนเทนต์เพิ่ม
- แตกไลน์เป็นคอนเทนต์ใหม่ได้
สำหรับคอนเทนต์ที่มีหัวข้อปังอยู่แล้ว และสามารถนำมาลงเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์ได้ตลอด ในฐานะแบรนด์ก็สามารถนำหัวข้อคอนเทนต์นั้นไปสร้างไดนามิก เพิ่มบริบท รวมถึงใส่ความเป็นยุคสมัยให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคให้มากขึ้นได้
หรือจะนำหัวข้อคอนเทนต์นั้นมาแตกไลน์เป็นคอนเทนต์ใหม่ก็ได้เช่นดัน ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์ที่รวบรวมสถิติ หรือ How To ต่าง ๆ ที่สามารถนำกลับมาอัปเดตในเวอร์ชันใหม่กว่าจนปังกว่าเดิมได้
เพราะในวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทุกเรื่องย่อมมีจุดที่สามารถนำมาสร้างเป็นคอนเทนต์ใหม่ได้เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะดัดแปลง หรือสร้างสรรค์หัวข้อนั้นให้แตกต่างจากเดิม และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราอย่างไร
Recycle Content
รีโพสต์ซ้ำคอนเทนต์ที่อ่านได้ทุกปี
- หาคอนเทนต์ยอดเพอร์ฟอร์แมนซ์ดี
- เช็กโดเมน และคีย์เวิร์ดหน้าเสิร์ชเสมอ
- รีโพสต์คอนเทนต์ซ้ำในช่วงเทศกาล
การีโพสต์คอนเทนต์ คือการนำคอนเทนต์นั้นมาลงใหม่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวคอนเทนต์เลย ตั้งแต่หัวข้อคอนเทนต์ หรือประเด็นในคอนเทนต์ก็ตาม เพราะมันเป็น ‘Evergreen Content’ ที่วนซ้ำได้ตลอดช่วง
แต่การรีโพสต์ต้องระวังไม่ให้ลงซ้ำในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน จึงควรมีการเว้นช่วงบ้าง 3 เดือนขึ้นไป พร้อมทั้งเช็กหน้าโดเมน หรือหน้าเสิร์ชเสมอว่าลิงก์ยังใช้ได้อยู่หรือไม่
ซึ่งหากรีโพสต์ได้เรื่อย ๆ และยอดเอ็นเกจเมนต์ยังคงเติบโตเรื่อย ๆ ไปด้วย ก็นับเป็นข้อดีของแบรนด์ที่คอนเทนต์อาจจะติดหน้าเสิร์ช Google เมื่อพิมพ์คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับคอนเทนต์ลงไป
แต่คอนเทนต์นั้นทางแบรนด์ต้องเช็กให้แน่ใจก่อนว่ามันเป็น ‘Value Content’ ที่ให้ประโยชน์กับผู้คนที่อ่านได้ทั่วไป ไม่ใช่แค่กลุ่มเป้าหมายอย่างเดียว รวมถึงคอนเทนต์ประเภทนี้ก็สามารถรีโพสต์ซ้ำในเทศกาลทุก ๆ ปีได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องตามให้ทันว่าช่วงนั้น ๆ ผู้คนกำลังสนใจ หรือมีเทรนด์และกระแสอะไรอยู่
อ้างอิง: ZENMEDIA, Content Marketing Institue