พาส่อง 5 เทรนด์ขับเคลื่อนธุรกิจไทยปี 2024 จาก Meta

Meta เผยผลการศึกษาในหัวข้อ ‘Bold Moves: Leading Southeast Asia’s next wave of consumer growth’ ข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เกี่ยวกับเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคตทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย โดยผลศึกษาดังกล่าวซึ่งจัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท Bain & Company ชี้ให้เห็นหลากหลายเทรนด์ที่ส่งผลต่อทิศทางภูมิทัศน์ของธุรกิจในปัจจุบัน

รวมถึงเป้าหมาย ต่าง ๆ ที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญ ภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ และโอกาสในการเติบโตของตลาดในปีนี้ ซึ่งสรุปออกมาได้ 5 เทรนด์ที่เหล่านักการตลาดและธุรกิจควรจับตามอง ดังนี้

1. อิทธิพลของ Gen Z

กลุ่ม Gen Z (คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2539 – พ.ศ. 2555) เป็นวัยที่กำลังก้าวเข้าสู่การเริ่มมีรายได้ เงินออม และรายจ่าย ซึ่งในปัจจุบัน เฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มี Gen Z จำนวนกว่า 500 ล้านคน และในเวลาอีกไม่นาน ประชากรกลุ่มนี้จะมีอัตราส่วนถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาคเลยทีเดียว

จากการสำรวจล่าสุดของ Meta พบว่า Gen Z จะกลายเป็นกลุ่มหลักที่ส่งอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย 82% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนออนไลน์อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก Meta Gen Z Shoppers Thailand Report ยังเผยสติ เช่น

  • 91% ของกลุ่ม Gen Z ใช้งาน Facebook เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและดูเนื้อหาสื่อต่าง ๆ ในแต่ละเดือน
  • 85% ของ Gen Z รับชมเนื้อหาต่าง ๆ ผ่าน Messenger และ 83% ใช้งานผ่านทาง Instagram

จึงเรียกได้ว่า Meta เป็นแหล่งที่มาของการเชื่อมต่อบนโลกโซเชียล ธุรกิจการค้า และการค้นพบที่สร้างแรงบันดาลใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และสะดวกสบายอย่างต่อเนื่อง

2. การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Solo Economy

จากผลการศึกษาพบว่า จำนวนครัวเรือนขนาดเล็กลง และครัวเรือนแบบอยู่คนเดียวกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค ในปัจจุบัน มี 3 ประเทศ จาก 10 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกที่มีอัตราการเพิ่มของครัวเรือนแบบอยู่คนเดียวสูงที่สุด ซึ่งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยคาดว่าประเทศไทยจะมีอัตราการอาศัยอยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 20% ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน เช่น อัตราการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความต้องการด้านการอยู่อาศัย สินค้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้พักอาศัยคนเดียวก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ รูปแบบการพักผ่อนและการเลือกรับสื่อก็อาจเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยความต้องการซื้อสินค้าขนาดเล็กจะเพิ่มสูงขึ้นและมีความถี่มากขึ้น และในอนาคต จะมีกลุ่มลูกค้าที่ใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้นในการติดตามครีเอเตอร์ รวมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบนโลกออนไลน์มากขึ้นด้วย

3. เทคโนโลยี AI

ในปีที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นปีของ AI เลยก็ว่าได้ จะหันไปใช้แอปหรือโปรแกรมไหน ก็มักจะเจอเครื่องมือ Generative AI จึงคาดการณ์ได้ว่าในปีนี้กระแส AI ก็ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง และในอนาคต ทั้งวงการการตลาดและครีเอทีฟจะนำ Generative AI มาทดลองใช้ในการทำธุรกิจมากขึ้น ตั้งแต่การเขียนคำโฆษณา (Copywriting) ไปจนถึงการสร้างสรรค์ในการเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น

โดย Meta ก็ได้นำเทคโนโลยี AI มาขับเคลื่อนการพัฒนา Meta Advantage+ ซึ่งเป็นโซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมอำนวยความสะดวกด้วยเครื่องมือในรูปแบบอัตโนมัติให้กับนักโฆษณา เนื่องจากมีนักโฆษณากว่า 50% ที่ใช้แพลตฟอร์ม Meta และใช้เครื่องมือ Advantage+ Creative เพื่อปรับแต่งภาพและข้อความ ซึ่งแนวโน้มนี้คาดว่าจะยิ่งเติบโตมากขึ้นอีกในอนาคต

4. การส่งข้อความ Business Messaging

ในแต่ละวันมีบทสนทนาระหว่างผู้ใช้งานทั่วไปกับธุรกิจบนแพลตฟอร์ม Meta กว่า 600 ล้านข้อความต่อวัน ผลการศึกษาล่าสุดจาก Kantar ที่สนับสนุนโดย Meta เผยว่า

  • 71% ของผู้ใช้งานเลือกที่จะส่งข้อความหาเพจธุรกิจมากกว่าการหาข้อมูลบนเว็บไซต์
  • 69% ของลูกค้าจะเลือกซื้อสินค้าหรือทำธุรกิจกับบริษัทที่สามารถติดต่อได้ผ่านการส่งข้อความ
  • 81% ของคนไทยรู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจมากขึ้น เมื่อสามารถส่งข้อความหาธุรกิจได้โดยตรง
  • 78% ของคนไทยที่ใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์ส่งข้อความหาธุรกิจอย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์

และในปีนี้ คาดว่าจะมีการให้บริการเครื่องมือและบริการใหม่ ๆ ผ่านการฟีเจอร์ส่งข้อความ เช่น การจองการเดินทาง, การส่งปฏิทินนัดหมาย และการซื้อสินค้า เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI บนระบบแชตก็จะมีความชาญฉลาดมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

5. วิดีโอสั้น

วิดีโอสั้นอย่าง Reels เป็นหนึ่งคอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก จากการสำรวจผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 13-64 ปี ในภูมิภาค โดยทีมวิจัยการตลาดธุรกิจและธุรกิจอัจฉริยะ (Business Marketing Research and Intelligence) ร่วมกับองค์กรวิจัย Factworks พบว่า

  • ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z มีแนวโน้มที่จะติดตามธุรกิจมากขึ้น 77%, แท็กแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ 72% หรือซื้อสินค้า 72% หลังจากการรับชม Reels
  • 84% ของผู้ใช้เคยแชร์ Reels ให้กับเพื่อนหรือครอบครัว

ปัจจุบันมีผู้ใช้ Reels กว่า 2 แสนล้านครั้งต่อวันบน Facebook และ Instagram นอกจากนี้ Reels ยังเพิ่มการใช้เวลาบนแพลตฟอร์มมากขึ้นกว่า 40% โดยประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ของโลกที่นิยมในการสร้างคลิปวิดีโอ Reels

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save