เรียกได้ว่าเป็นปีที่ X (Twitter) มีข่าว และการเปลี่ยนแปลงอัปเดตแทบทุกเดือนในปี 2023 เลยก็ว่าได้ แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ X จะไปต่ออย่างไรให้รอด หลังมีลูกค้าเจ้าใหญ่หลายรายทั้ง Apple และ Disney ที่หยุดโฆษณาชั่วคราว และพาแบรนด์อื่น ๆ หยุดไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ปล่อยไม้ตายอย่าง Grok AI ออกมาอีก แบบนี้ในปี อนาคตของ X จะไปในทิศทางไหน RAiNMaker มีมาแชร์ให้แล้ว
เมื่อ Twitter ไม่ได้เป็นแค่แอปนกฟ้าสร้างไวรัลเรียลไทม์แบบที่เรารู้จักอีกต่อไป แต่กลายเป็น X ที่ถูกนิยามว่าเป็น “Everything App” นับตั้งแต่ Elon Musk เข้ามานั่งแท่นซีอีโอ แล้วต่อด้วย Linda Yaccarino ในแัจจุบัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Elon Musk ยังคงมีบทบาททำให้แพลตฟอร์มนี้มีอะไรอัปเดต เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้มีการพิจารณาหลาย ๆ อย่างถึงอนาคตที่ไม่แน่นอน และน่าจับตาต่อไปของ X คือ
รายได้จากโฆษณาของ X ลดลงครึ่งหนึ่ง
แม้จะไม่มีภาพรวมสถานะทางการเงินของ X เพราะบริษัทเอกชนไม่จำเป็นต้องรายงานงบการเงินรายไตรมาสแล้ว แต่หากเทียบกับครั้งหนึ่งในชื่อเดิมอย่าง Twitter ที่สร้างรายได้ประมาณ 3.96 พันล้าดอลลาร์จากการลงโฆษณาในปี 2022 เดือนกันยายน
พอ Elon Musk มารับช่วงต่อรายได้โฆษณาตรงนี้ก็ลดไปครึ่งหนึ่งเลย แถมยังมีแรงกดดันทางตลาด และลูกค้ารายใหญ่บางเจ้าก็หยุดโฆษณาชั่วคราวด้วย ซึ่งคาดว่าปีนี้ X จะสร้างรายได้จากโฆษณาประมาณ 2 พันล้าดอลลาร์ในปีนี้
แต่แม้ผู้ลงโฆษณาจะหยุดแคมเปญของตัวเองบน X ไปชั่วคราวก็จะส่งผลกระทบแค่รายได้ในไตรมาสนี้เท่านั้น เพราะตามรายงานล่าสุดของ The New York Times บอกเอาไว้ว่า X จะเสียค่าใช้จ่ายของ Ad Revenue ไปประมาณ 75 ล้านดอลลาร์โดยรวม ดังนั้นแพลตฟอร์มนี้จึงมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้ประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าที่ Twitter สร้างขึ้นมามาก
โดยในปี 2022 ค่าใช้จ่ายของ Twitter ถูกกำหนดไว้เกิน 5 พันล้านดอลลาร์ก่อนที่ Musk จะเข้ามาแทนที่ และเป็นค่าใช้จ่ายพนักงานเพียงอย่างเดียวประมาณ 3.8 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว นี่เลยเป็นเหตุผลที่ Musk ต้องลดต้นทุนครั้งใหญ่ และ layoff พนักงานกว่า 80% ด้วย
ฉะนั้น X จะต้องหารายได้เพิ่มประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และต้นทุน 3.2 พันล้านดอลลาร์ หากผู้ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ฒอยู่ยาว ๆ ไปจนถึงปีใหม่ได้ แต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เว้นแต่มีการสูญเสียรายได้เพิ่มอีกในช่วงไตรมาสที่ 1 ก็อาจจะกระทบเพิ่มขึ้นเช่นกัน
การดันให้คนสมัคร X Premium เพื่อชดเชยการสูญเสียด้านรายได้โฆษณา
การมี X Premium ขึ้นมาก็เพื่อทำให้เป็นรายได้หลัก และคิดเป็นรายได้ 50% ของรายได้รวมทั้งหมด นั่นหมายความว่า X จะต้องทำรายได้มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปีจากการสมัครสมาชิก แต่ก็ยังทำได้ไม่ถึงเป้า ต่อให้จะมีผู้สนับสนุน Elon Musk เรื่องเสรีภาพในการพูดใน X ของเขา หรือผู้ใช้ที่แอ็กทีฟ 250 ล้านคนต่อวัน ก็โน้มน้าวให้สมัคร X Premium ได้แค่ 5% เท่านั้น
เปอร์เซ็นต์การกลับมาอีกครั้งของผู้ลงโฆษณาที่หยุดชั่วคราว
แม้ Elon Musk จะไม่พยายามแก้ไขสถานการณ์ใด ๆ จนอาจเป็นการผลักพันธมิตรทางด้านการลงโฆษณาออกไป และการตอบโต้ที่ใช้แต่คำพูดหยาบคาย และอารมณ์ของเขาก็ทำให้เริ่มตัดความเชื่อมโยงกับสื่อ และผู้คนมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วผู้ลงโฆษณาที่หยุดชั่วคราว หรือถอนตัวอาจจะกำลังคว่ำบาตรเพราะการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้ทำเงินให้ไม่แน่นอนก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูการแก้ปัญหาของ Linda Yaccarino และทีมต่อไปว่าจะรักษาพันธมิตร และหาพาร์ตเนอร์ทางโฆษณามาเพิ่มได้หรือไม่ในอนาคต เพราะยังพอมีโอกาสที่ X จะพลิกสภานการณ์ได้ แม้ในตอนนี้การเติบโตของ X จะค่อนข้างคลุมเครือ
Grok AI จะช่วยกู้ความนิยมของ X ?
ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เริ่มใช้ ChatGPT มากขึ้นในการหาไอเดีย และมี AI Chatbot เกิดขึ้นมาอีก แต่ก็ยังไม่มีความแตกต่างในการใช้งานมากนัก นอกจาก Grok AI ของ X จะทำได้ เพื่อให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาให้ X สามารถมองหาการออกเดท และพิมพ์เนื้อความยาวขึ้น กับลงวิดีโอยาวขึ้นกว่าเดิม ก็คงต้องดูต่อไปว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
ซึ่งสรุปโดยรวมแล้วการมีจุดยืนเป็น “Everything App” ของ X ก็อาจทำให้หลาย ๆ อย่างยังไม่ชัดเจนมากพอ และมองอนาคตในระยะยาวคลุมเครือไปมาก แต่อย่างไรก็ตามหากปีหน้า X ยังไม่สามารถกลับมายืนได้อีกครั้ง และผู้ลงโฆษณาถอนตัวไปมากกว่าเดิม คงต้องมีจุดเด่นของตัวเองมากกว่านี้ นอกจากการเป็นแอปเดียวที่สามารถบ่นทุกอย่าง และรวมเทรนด์ไวรัลของคน Gen Z