Headline หรือชื่อบทความถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเขียนคอนเทนต์ เพราะถึงเเม้ว่าเนื้อหาภายในจะดีเเสนดีเพียงใด แต่หากไม่ได้รับโอกาสในการกดเข้าไปอ่านก็คงเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก เราถึงต้องให้ความสำคัญกับ Headline ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นประตูด่านเเรกที่จะพาคนเข้ามาหาบทความของเรา
1. บอกตรงๆ ไปเลย อ่านเเล้วได้อะไร
ในปัจจุบันหลายๆ คนยอมรับเเละรับได้กับการนำเสนออย่างตรงไปตรงมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาหรือการขายของ เพราะฉะนั้นหากเราเลือกตั้งชื่อหัวข้อแบบหยิบประเด็นหลักในบทความมาพูดถึงไปเลย ว่าอ่านเเล้วได้อะไรกลับไปบ้างคงเป็นทางเลือกที่ไม่แย่อีกต่อไป ไม่ต้องกั๊กกันเเล้ว ขายตรงกันไปเลย เช่น iOS14 อัปเดตเเล้วมีอะไรน่าใช้งานบ้าง ไปดูกัน! หรือจะเป็น เจาะลึกอัลกอริทึมเฟซบุ๊ก จบในบทความเดียว เป็นต้น
2. หยิบปัญหาของผู้อ่านมาตั้งประเด็น
เป็นการดึงปัญหาหรือหยิบประเด็นที่ผู้อ่านรู้สึกเป็นกังวลอยู่มาตั้งเป็นหัวข้อ (แต่ต้องระวังการใช้คำด้วยนะคะ อย่าใช้คำที่ไปในทางแง่ลบจนเกิดไป) เพื่อช่วยเพิ่มความอยากรู้มากขึ้นและยังสามารถกระตุ้นการแชร์บทความนี้ได้อีกด้วยค่ะ เช่น ปวดหัวตัวร้อนคืออาการ Covid-19 หรือไม่นะ มาเช็กกัน!
3. How to ต่างๆ ช่วยได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นวิธีสุดคลาสิกแต่ใช้ได้ผลเสมอ เป็นทริคในการเล่นกับความอยากรู้ของผู้อ่าน อาจจะใช้ตัวเลขเสริมเข้าไปให้มีความน่าสนใจเเละดูอ่านง่ายมากขึ้น เช่น 7 วิธีแต่งภาพด้วยแอปมือถือ, How to สร้างคอนเทนต์บน TikTok ให้ปัง
4. ท้าทายคนอ่านด้วยพลังแห่งความเร็ว
เมื่อทุกคนมีปัญหา ก็ล้วนแต่อยากให้ปัญหาเหล่านั้นจบไปให้ไวที่สุด เราจึงต้องมอบบทความทางลัดแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดแก่พวกเขา เช่น รวมสมุนไพรพื้นบ้านลดอาการปวดบวมภายใน 7 วัน, 10 สูตรคีย์ลัดบน Excel คำนวนเลขไวเหมือนรถขายไอติม แต่ๆ เนื้อหาภายในบทความต้องไม่หลอกหลวงผู้อ่านด้วยนะคะ
5. สวนกระแสไปเลย
เป็นวิธีที่ได้ยอด Engagement รวดเร็วอย่างเเน่นอน แต่เป็นวิธีที่เสี่ยงมากเช่นกัน หากเนื้อหาในบทความไม่ดี เช่น หลายๆ เพจกำลังวิเคราะห์เรื่องๆ นึงไปในทิศทางเดียวกัน เเต่เราเกิดเห็นต่างวิเคราะห์ไปอีกทาง(เห็นต่างย่อมไม่ผิด) สิ่งที่เราควรทำคือแจกแจงเหตุผลและความคิดเห็นของเราอย่างมีระบบ เป็นต้น ถ้ามีเนื้อหาที่ดี คนก็จะเข้าไปอ่านและเคารพทุกความเห็นอย่างแน่นอน