‘Influencer Marketing’ นับเป็นพาร์ทสำคัญของการวางแผนการตลาดเป็นอย่างมาก เพราะสำหรับ ‘Digital Marketing’ นอกจากแพลตฟอร์มและคอนเทนต์ที่ต้องตอบโจทย์ผู้บริโภค อเหล่าอินฟลูเอเนซอร์ก็เป็นส่วนที่ทำให้วงการนี้ขับเคลื่อนได้เช่นกัน ซึ่ง 5 เทรนด์การตลาดต่อไปนี้จึงควรรู้ไว้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ต่อไปให้เหมาะสมกับแบรนด์ เอเจนซีหรือครีเเตอร์นั่นเอง
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มและพื้นที่ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์นั้นเกิดขึ้นมามากมาย ส่งผลให้แบรนด์ เอจเนซี และเหล่าครีเอเตอร์ต่างต้องขวนขวายหากลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ รวมไปถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่โลกเสมือนกำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันด้วย
ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์สามารถเป็นพาร์ทหนึ่งที่ส่งผลให้กระบวนการทางการตลาดมีแนวโน้มดีขึ้นได้ แต่ก่อนจะใช้พวกเขาอย่างถูกต้อง จะต้องทำความเข้าใจก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์นั้นเหมาะกับอินฟลูเอนเซอร์แบบไหน หรือใช้แพลตฟอร์มอะไรในการนำเสนอด้วย
โดย 5 เทรนด์ต่อไปนี้จะเป็นคำตอบแนวโน้มในอนาคตว่าอะไรจะส่งผลหรือมีอิทธิพลต่อการทำการตลาดในวงการอินฟลูเอนเซอร์บ้าง
TIKTOK
TikTok นับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้เกิดการแชร์ต่อกันมากที่สุด โดยถูกยกให้เป็น ‘The Influencer Marketing Pie’ เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นแพลตฟอร์มคอมมูนิตี้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีการเติบโตถึง 86.5% เลยทีเดียว และยิ่งอินฟลูเอนเซอร์คนไหนเป็นชาว TikToker ก็ยิ่งเรียกยอด Engagement ได้เยอะ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่สมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ เอเจนซี ครีเอเตอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ก็ต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดของ TikTok เอาไว้เพื่อโปรโมตแน่นอน
MICRO AND NANO-INFLUENCERS
‘Micro and Nana-Influencers’ คือประเภทของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่จัดอยู่ในกลุ่มที่จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตัวเองถนัดเป็นอย่างดี รวมถึงการบอกต่อก็น่าเชื่อถือและมีจำนวนมากอีกด้วย จึงทำให้ดึงดูดคนที่ความสนใจเหมือนกันมาอยู่รวมกันในที่เดียวได้ ซึ่งมีบทบาทในแพลตฟอร์มทั้ง Instagram 3.86%, YouTube 1.63% และ TikTok 17.96% เลยทีเดียว จึงเรียกว่าเป็นยุคแห่งน้อยแต่มากจริง ๆ สำหรับโลกของอินฟลูเอนเซอร์
MORE VIDEO
สำหรับยุคสมัยของคน Generation Z แล้ว คอนเทนต์ที่มีวิดีโอหรือภาพเคลื่อนไหวในเวลาสั้นจะตอบโจทย์ในการเสพสื่อมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากการบูมของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok ที่ไม่ว่าจะทำกลยุทธ์การตลาดแบบไหนก็สามารถเป็นไวรัลได้ในระยะเวลาสั้น ๆ โดยค่าเฉลี่ยของการใช้เวลาอยู่กับแอปนี้อยู่ที่ 89 นาทีในการไถคลิปวิดีโอ ‘Short-form’ ในทุก ๆ วัน
COMMERCE BOOMS
เพราะการก้าวหน้าของเทคโนโลยีก็เลยทำให้การช้อปปิ้งเริ่มมีความสะดวกสบายและง่ายมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ หันมาหาพาร์ทเนอร์หรือปรับฟีดที่ทำให้จับจ่ายซื้อของง่ายขึ้นนั่นเอง เช่น Instagram ที่เพิ่มฟีเจอร์สำหรับการช้อปปิ้งเข้ามา หรือ TikTok ที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Shopify ก็ด้วย ซึ่งในปี 2023 แบรนด์ต่าง ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้โซเชียลมีความ e-commerce มากขึ้นไปอีก ส่งผลให้การจัดทำแคมเปญในตลาดอินฟลูเอนเซอร์มีการแข่งขันสูงด้วย เพราะผู้คนให้ความสนใจในการเสิร์ชเพื่อจ่ายกับสิ่งที่ชอบอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
MORE WAY TO MAKE MONEY
จากจำนวนที่เพิ่มขึ้นของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ขับเคลื่อนการตลาดด้วยการทำรายได้อยู่ในโลกของคอนเทนต์และการสตรีมมิงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Twitch, YouTube, Instagram, TikTok หรือ Clubhouse ก็ตาม แพลตฟอร์มที่เป็นที่น่าสนใจที่สุด มักจะมาพร้อมกับช่องทางที่ซัพพอร์ตเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ให้สามารถหารายได้จากความคิดสร้างสรรค์ในการครีเอทคอนเทนต์ เพราะการที่แบรนด์หรือสปอนเซอร์ให้ความสำคัญกับพวกเขาก็ยิ่งทำให้คอมมูนิตี้นี้กว้างขึ้นไปด้วย
ทั้ง 5 เทรนด์ล้วนเป็นสิ่งที่จะส่งผลต่อวงการอินฟลูเอนเซอร์อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประเภทอินฟลูเอนเซอร์, ฟอร์แมตที่ผู้ชมชอบ หรือแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคเหล่านี้คือกลยุทธ์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ที่แบรนด์ และเอเจนซีหรือครีเอเตอร์ควรรับรู้ไว้เพื่อตามโลกนี้ให้ทันนั่นเอง
ที่มา: Social Media Today