News

Avatar

Thesky March 25, 2022

6 วิธี ‘Recharge Marketing 2022’ เพิ่มเอ็นเกจเมนต์โพสต์จากอินไซต์กลุ่มเป้าหมาย

ในปี 2022 เป็นปีที่มีการแข่งขันทั้งโลกของกลยุทธ์และคอนเทนต์เพิ่มขึ้นทุกวัน โดยสนามการแข่งขันนี้มักจะถูกขับเคลื่อนและวัดผลด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์อยู่เสมอ แล้วเราต้องทำอย่างไรถึงจะมีเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีในยุคนี้ล่ะ? วันนี้ RAiNMaker เลยมี 6 วิธีมาเพื่อรีชาร์จให้กลยุทธ์โพสต์บนโซเชียลปังไม่แพ้ใคร สำหรับแบรนด์และนักการตลาด ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!

บางครั้งการวางแผน และเตรียมกลยุทธ์ให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอก็เป็นเรื่องดี แต่ก็อาจทำให้แบรนด์และนักการตลาดหลายคนหลงลืม ‘ความสนุก’ ลงไปในคอนเทนต์หรือการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย

หรือต่อให้มีเครื่องมือเพื่อการโปรโมตครบ หรือต้นทุนที่มหาศาล แต่ผลลัพธ์ที่ได้มามีแต่ตัวเลข แต่ไม่ได้คว้าใจกลุ่มเป้าหมายไปพร้อม ๆ กันด้วย ดังนั้นเราจึงหา 6 วิธีรีชาร์จการตลาดมาให้ เพื่อไม่ให้คุณง่วนกับการหากลยุทธ์ใหม่ ๆ จนรู้สึกเหนื่อยกับการปรับตัวเกินไป เพราะบางครั้งสิ่งที่เราตามหา และดีต่อแบรนด์ของเรามากที่สุดมันก็อยู่ใกล้ตัวแค่นี้เอง

มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง 

กล้าที่จะแตกต่างในตลาดคอนเทนต์แต่เป็นตัวของตัวเองด้วย 

การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญในกลยุทธ์การตลาด แต่การทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจในแบรนด์ของเราบ้างก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะคาแรกเตอร์ของแบรนด์ ควรเป็นสิ่งแรกที่ทำให้พวกเขานึกถึงและจำได้

โดยเฉพาะกับคาแรกเตอร์ที่แตกต่างในโลกของแบรนด์ ไม่เพียงแค่เรื่องการวางภาพลักษณ์เท่านั้น แต่คาแรกเตอร์ที่ว่านั้นต้องเป็นคาแรกเตอร์ที่ดูจับต้องง่าย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายง่ายเช่นกัน

ซึ่งคาแรกเตอร์ของแบรนด์อาจถูกนำเสนอด้วยแอนิเมชันที่เป็นรูปธรรม หรือการโพสต์ การใช้กราฟิก และการพูดคุยสื่อสารบางอย่าง ให้กลุ่มเป้าหมายเริ่มจับทางได้ว่าแบรนด์ของคุณมีคาแรกเตอร์แบบนั้น แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นหาคาแรกเตอร์อย่างไรดี? เราแนะนำว่าให้ลองมองภาพกลับกันดู ว่าถ้าเราเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ อยากจะเห็นคาแรกเตอร์แบบไหนที่ไม่ซ้ำกับแบรนด์อื่น ๆ นั่นเอง

ผลักดันให้กลุ่มเป้าหมายอยากคอมเมนต์ 

เพื่อศึกษาอินไซต์กลุ่มเป้าหมายง่ายขึ้นในการวางกลยุทธ์ต่อไป 

 ไม่ว่าจะเป็นการไลก์ แชร์ คอมเมนต์หรือการแท็กถึง ล้วนนับเป็นยอดเอ็นเกจเมนต์ที่สำคัญเพื่อให้แบรนด์และนักการตลาดสามารถนำไปประเมินตัวเองได้ว่าคอนเทนต์หรือโพสต์ที่ลงไปนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด และตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายของตัวเองมากน้อยแค่ไหน

ซึ่งการวัดยอดเอ็นเกจเมนต์ส่วนใหญ่ที่ดูง่ายที่สุดคงจะเป็นการไลก์ กดแสดงรีแอ็กชัน หรือการแชร์ จนอาจมองข้ามว่า ‘คอมเมนต์’ เป็นเอ็นเกจเมนต์ที่จะทำให้มองทะลุปรุโปร่งในเรื่องของอินไซต์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพราะพวกเขาต้องใช้เวลาในการคิดวิเคราะห์ และพิมพ์มันออกมาให้เห็นบนโลกออนไลน์

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์รูปแบบไหน อย่าลืมผลักดันให้เกิการมีส่วนร่วมอยู่เสมอด้วยนะ เพราะยิ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายอยากเมนต์มากขึ้นเท่าไหร่ อัลกอริทึมก็ยิ่งทำงานให้กลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ มองเห็นเรามากขึ้นเท่านั้น

พร้อมอยู่เป็นกับทุกเทรนด์ 

รู้จักแทรกซึมให้ลื่นไหลไปกับเทรนด์การตลาดและโซเชียล 

 การยึดมั่นในเอกลักษณ์ของแบรนด์ก็เป็นเรื่องดี แต่ในยุคสมัยที่ผู้คนถูกขับเคลื่อนความสนใจด้วยเทรนด์ต่าง ๆ ในทุก ๆ วันแบบนี้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบางครั้งก็ต้องให้ ‘เทรนด์นำแบรนด์’

แต่การที่เทรนด์ต่าง ๆ จะสามารถนำแบรนด์ไปสู่การเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์ได้ แบรนด์ต้องค่อย ๆ เรียนรู้และหาทางให้แทรกซึม และเนียนไปกับเทรนด์เหล่านั้นได้อย่างสร้างสรรค์ โดยที่ไม่ต้องทำให้คอนเทนต์นำไปสู่ความเข้าใจผิด หรือทำให้ใครเดือดร้อน รวมไปถึงต้องอยู่ในขอบเขตที่พอดีด้วยนะ

เพราะการเป็นแบรนด์ที่จับตามองเพื่อจะเล่นกับเทรนด์อยู่ตลอดเวลานั้น จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเรา และกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เกิดการรอคอยแบรนด์ของเรา ว่าจะมาจับจองพื้นที่ในการลงสนามคอนเทนต์ช่วงที่มีกระแสตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ตอนไหน

ครีเอทีฟเชิงบวกเสมอ 

ทำคอนเทนต์ที่เข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากกว่าตัดสินกัน 

 คอนเทนต์ที่ครีเอทีฟ ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีแต่ความแตกต่าง และสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้ที่พบเห็นเสมอไป แต่ยังหมายถึงคอนเทนต์ที่ให้ความรู้สึกเชิงบวก และมีความเข้าใจในสังคม และเพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วย เพราะบ่อยครั้งคอนเทนต์ครีเอทีฟเหล่านี้ก็สามารถนำไปสู่ดราม่าหรือเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลังได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้นต้องใช้ความครีเอทีฟให้ถูกที่และถูกเวลา รวมถึงมีการตระหนักรู้ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา ปละประโยชน์ที่จะได้รับจากคอนเทนต์ของกลุ่มเป้าหมายอยู่เสมอด้วย ซึ่งคอนเทนต์ที่มีแต่ความคิดเห็นของตัวเอง โดยไม่เปิดรับความคิดเห็นในมุมมองอื่น ๆ หรือนำมาตัดสินบุคคลอื่นมากเกินไป ไม่ใช่การครีเอทีฟคอนเทนต์ที่ดีแน่นอน

สร้างโพสต์ให้เหมือนคุยกับคอมมูนิตี้ 

ปรับการใช้ภาษาให้เข้าถึงง่ายทำให้อยากมีส่วนร่วม 

 การโพสต์ลงไปในโลกโซเชียลของแบรนด์ มีทั้งการใช้ภาษาโซเชียลและภาษาทางการที่มีคำเฉพาะเยอะ ซึ่งหากอยากเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์ให้โตขึ้น แบรนด์และนักการตลาดก็ควรเรียนรู้ที่จะประยุกต์ตัวเองให้คอนเทนต์หรือโพสต์มีความรู้สึกเป็นกันเอง และเข้าถึงง่ายในเวลาเดียวกัน

โดยเฉพาะโพสต์ในเชิงลักษณะชวนคุย ชวนถกประเด็นหรือความคิดเห็น เสมือนกับการพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายจะยิ่งทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่เข้าถึงง่าย และกลุ่มเป้าหมายอยากมีส่วนร่วมด้วยในทุก ๆ กิจกรรม ส่งผลให้ในอนาคต หากมีการลงเกี่ยวกับแคมเปญ หรือกิจกรรมร่วมสนุกที่ต้องการยอดเอ็นเกจเมนต์ กลุ่มเป้าหมายของเราจะไม่ลังเลที่อยากเข้าหาแบรนด์เลย

ประเมินผลลัพธ์การลงทุนด้วย ROI 

เช็กความคุ้มค่าในการลงทุนอยู่เสมอ 

ROI หรือ Return on Investment คือ การประเมินผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุน ซึ่งแน่นอนว่าหลาย ๆ แบรนด์ต้องมีการลงทุนเพื่อให้ได้ซึ่งยอดเอ็นเกจเมนต์ที่ตั้งเป็นวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จไว้ในแผนการตลาด

โดยการคำนวณหาความคุ้มค่าของผลตอบแทนนี้สามารถใช้สูตรได้ แล้วค่อยนำผลลัพธ์มาเปรียบเทียบกับเงินลงทุนที่เสียไป ซึ่งควรดูที่เปอร์เซ็นต์ของผลตอบแทนเป็นหลักมากกว่ากำไรที่ทำได้ เพราะบางครั้งกำไรที่เยอะกว่าแต่ต้นทุนสูง ก็ไม่คุ้มค่าเท่าไรนัก

ซึ่งการคิดหา ROI นี้จะช่วยให้รู้ว่าการลงทุนกับอะไรจะมีความคุ้มค่ากับแบรนด์ โดยที่ไม่มีตัวเลขเข้ามาทำให้สับสนกับการลงทุน และยังสามารถเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเพื่อจะลงทุนในเรื่องต่าง ๆ ต่อไปด้วย

จาก 6 วิธีการรีชาร์จการตลาดนี้ จะเห็นได้ว่าบางข้อก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่แบรนด์และนักการตลาดควรตระหนักถึงอยู่แล้ว และบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่แปลกใหม่และต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่การที่มีเรื่องของเวลาเช้ามานั้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะปรับตัวไม่ได้

เพราะหากอยากเป็นแบรนด์ที่สามารถยืดหยุ่นกับความเปลี่ยนแปลงได้ในยุคที่เทรนด์เดินเร็วกว่าเวลา ก็ต้องกล้าที่จะทดลอง และเสี่ยงไปกับโอกาสที่มีมาให้เสมอ ๆ เพียงแค่มองหาช่องโหว่ในสนามการแข่งขันนี้ให้เจอ ลงไปเล่นให้ถูกที่ถูกเวลา และถูกกลุ่มเป้าหมาย คุณก็เป็นได้นะ แบรนด์ที่กลุ่มเป้าหมายอยากมีส่วนร่วมด้วย!

ที่มา: Linkedin February 2022 

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save