FacebookNewsSocial

Avatar

doyoumind July 12, 2021

7 ขั้นตอนต้องทำ เมื่อบัญชี Facebook ถูกแฮ็ก พร้อมวิธีการป้องกัน

บางคนอาจเคยเจอปัญหาถูกแฮ็กบัญชีเฟซบุ๊ก หรือไม่ก็พบความผิดปกติ เช่น รู้สึกเหมือนมีคนพยายามเข้าบัญชีตัวเอง หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อย่าเพิ่งตระหนก แต่ให้ทำตาม 7 ขั้นตอนต่อเบื้องต้นง่ายๆ ไปนี้ เพื่อระงับและกู้คืนบัญชีจากแฮ็กเกอร์ จะได้ไม่สูญเสียข้อมูลสำคัญต่างๆ ไป นอกจากนี้เรายังมีคำแนะนำในการปฏิบัติ เพื่อให้ห่างไกลการถูกแฮ็กกันด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

1. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าถูกแฮ็ก

ถ้ายังสามารถเข้าสู่ระบบได้ ให้เข้าไปตรวจสอบที่ Settings > Security and Login เพื่อเข้าไปตรวจสอบว่ามีการเข้าสู่ระบบบนอุปกรณ์หรือสถานที่อื่นหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบวันที่ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่คุณที่เคยล็อกอินไว้

หากมีสิ่งที่น่าสงสัย หรือผิดแปลกไปให้กด Log Out of All Sessions เพื่อออกจากระบบและเปลี่ยนรหัสผ่าน แต่หากไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ แนะนำให้เพื่อนช่วยตรวจสอบบัญชีของคุณว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง

ถ้าแฮ็กเกอร์เปลี่ยนรหัสผ่านไปแล้ว ให้กด Forgot account? ใส่เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลเพื่อรับโค้ดในการตั้งรหัสผ่านใหม่ หรือหากไม่มีสามารถเข้าผ่านช่องทางดังกล่าวได้ ให้กดปุ่ม No longer have access to these? หรือเข้าไปที่ Settings > Security and Login > Advanced > Recover external accounts เพื่อกู้คืนบัญชีก็ได้เช่นกัน

2. รายงานผ่าน Facebook

สามารถรายงานผ่านเฟซบุ๊กว่าไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ โดยเข้าไปที่ https://www.facebook.com/hacked/ เพื่อรายงานว่าบัญชีของคุณอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย สามารถกรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือหรืออีเมลเพื่อเข้าบัญชี จากนั้นเว็บจะพาไปสู่หน้าขั้นตอนการทำอย่างไรให้กู้บัญชีคืนได้

3. เปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมด

เป็นส่วนที่สำคัญมากในการป้องกันไม่ให้แฮ็กเกอร์สามารถควบคุมบัญชี และป้องกันไม่ให้เกิดการแฮ็กขึ้นได้ในอนาคตนั่นเอง โดยสามารถเข้าไปใน Settings and Privacy > Settings > Security and Login จากนั้นกด Change password เพื่อแก้ไขรหัสผ่าน และควรตั้งให้รหัสผ่านให้ปลอดภัยแต่ยากที่จะเดาได้

นอกจากนี้ยังควรออกจากระบบบนทุกอุปกรณ์ที่เคยเข้าสู่ระบบไว้ โดยเข้าไปที่ Security and Login กดเข้าไปดูที่ Where you’re logged in เพื่อดูว่าคุณเข้าสู่ระบบผ่านที่ไหนบ้าง จากนั้นกด Log Out of All Sessions เพื่อออกจากระบบจากทุกอุปกรณ์

ที่สำคัญควรเปลี่ยนรหัสผ่านแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่มีการลิงก์ไว้ เช่น อินสตาแกรม หรือแอปพลิเคชันอื่นที่มีรหัสผ่านเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแฮ็กได้อีกนั่นเอง

4. ตรวจสอบ Permission บนแอปและเว็บต่างๆ

เพื่อตรวจสอบว่ามีใครเข้าถึงบัญชีบ้าง ให้ลบการเข้าถึงของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่คุ้น หรือไม่ได้ใช้แล้ว โดยสามารถเข้าไปที่ Settings > Apps and Websites จากนั้นกดลบออก ในกรณีนี้บางแอปพลิเคชันยังอาจมีข้อมูลที่เคยเก็บไว้ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อกดลบการเข้าถึงแล้วจะไม่สามารถได้ข้อมูลจากบัญชีของคุณได้อีกต่อไป

5. ป้องกันการเข้าสู่ระบบโดย Two-Factor Authentication

เป็นเครื่องมือของเฟซบุ๊กที่จะช่วยเตือน เมื่อมีคนกำลังพยายามเข้าบัญชีของคุณ โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings > Security and Login > Two-Factor Authentication

6. แจ้งคนรอบตัว

แจ้งคนรู้จัก เพื่อน ครอบครัว ว่าบัญชีถูกแฮ็ก เพื่อให้ทุกคนรับทราบ และจะได้เฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการสวมรอยของมิจฉาชีพในการกระทำการใดๆ ได้ รวมถึงยังสามารให้ช่วยสอดส่องความเคลื่อนไหวของบัญชีคุณได้อีกด้วย

7. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

สามารถเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวทั้งโพสต์ รูป หรือเพื่อน ได้ที่ Settings > Privacy > Privacy Shortcuts จากนั้นไปที่ Privacy Checkup แล้วเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีของคุณ โดยการเลือกตั้งค่าต่างๆ ให้เห็นเฉพาะเพื่อน หรือคนที่คุณรู้จักเท่านั้น

วิธีการนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลแปลกหน้ามีโอกาสเห็นบัญชีหรือโพสต์ของคุณได้อย่างง่ายๆ นั่นเอง ซึ่งจะทำให้ไม่มีคนเข้ามารบกวนหรือพยายามแฮ็กบัญชีคุณได้

คำแนะนำสำหรับการป้องกันการถูกแฮ็ก

ตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย

ควรตั้งรหัสที่ไม่ให้คาดเดาได้ง่ายจนเกินไป เพื่อความปลอดภัยในการสุ่มเข้ารหัสนั่นเอง ทั้งนี้ควรมีทั้งตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์บ้าง เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น คำแนะนำเพิ่มเติมคือไม่ควรตั้งรหัสทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะ ยิ่งในกรณีที่เคยโดนแฮ็กแล้วควรรีบเปลี่ยนรหัสแอปอื่นๆ ที่เหมือนกันทันที

ตั้งค่าให้เตือนความปลอดภัย

บนเฟซบุ๊กจะมีเครื่องมือที่แจ้งเตือนความปลอดภัย เมื่อเวลามีคนเข้าสู่ระบบนั่นเอง ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ตัวเลือก ดังนี้

  • Two-Factor Authentication
  • Authorizes Logins
  • App passwords

ไม่บอกข้อมูลรหัสผ่านกับคนอื่น

ข้อนี้เป็นอีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กัน บางคนอาจไว้ใจเพื่อนมากๆ แต่ในโลกที่ข้อมูลสำคัญแบบนี้ เราไม่ควรที่จะบอกรหัสผ่านให้ใครรู้ง่ายๆ หรือหากมีใครรู้แล้วก็ควรรีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที เพื่อป้องกันการแอบเข้าบัญชีในภายหลังได้

ออกจากระบบทุกครั้งที่เข้าผ่านอุปกรณ์อื่น

หลายคนอาจจะลืมไปเข้าสู่ระบบผ่านอุปกรณ์ต่างๆ อาจจะเข้าในคอมที่ทำงาน ร้านปรินต์ หรือเข้าไว้ที่เครื่องคนอื่น แล้วลืมออกจากระบบมา ยิ่งถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักยิ่งอันตรายและมีโอกาสที่เขาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ จากบัญชีของเราได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้นตรวจสอบทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จว่าออกจากระบบเรียบร้อยแล้วหรือยัง หากไม่แน่ใจสามารถตรวจสอบได้ตามวิธีข้างต้นที่กล่าวไปในการเช็กว่ามีการเข้าสู่ระบบผ่านอุปกรณ์ใดอยู่บ้าง จากนั้นก็กดออกจากระบบทั้งหมดได้เลย

เลือกเพื่อนที่สามารถติดต่อได้ ในกรณีที่เข้าสู่ระบบไม่ได้

สามารถเลือกเพื่อนได้ตั้งแต่ 3-5 คนในการติดต่อเพื่อช่วยกู้คืนบัญชีได้ ในกรณีที่บัญชีถูกแฮ็ก โดยสามารถตั้งค่าเครื่องมือนี้ได้ที่ Settings->Security and Login->Choose friends to contact if you get locked out

ไม่รับคำขอเป็นเพื่อนจากคนที่ไม่รู้จัก

บางทีการรับบัญชีแปลกๆ มาก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เนื่องจากเราไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริง ทางที่ดีควรคัดกรองให้เป็นคนที่เรารู้จักและไว้ใจมากที่สุด บางครั้งเองบัญชีแปลกๆ เหฃ่านี้ก็เป็นบัญชีปลอมที่เข้ามาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น แฮ็กบัญชีไปเพื่อทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นต้น

ระวังซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย

พวกมัลแวร์อาจเป็นอันตรายต่อทั้งอุปกรณ์ได้ จึงควรอัปเดตแอปพลิเคชันสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นปัจจุบันมากที่สุด และควรทำทั้งบนโทรศัพท์และแอปบนเดสก์ท็อปเช่นกัน

อย่าคลิกลิงก์ที่น่าสงสัย

ถึงแม้ว่าผู้ส่งจะเป็นคนที่เรารู้จัก แต่หากเห็นความไม่ชอบมาพากลของตัวลิงก์แล้ว อย่าสุ่มกดเข้าไปเด็ดขาด เนื่องจากบางลิงก์อาจเขื่อมไปยังเฟซบุ๊กผ่าน messenger หรือไปอยู่บนโพสต์ที่แท็กมาได้

สังเกตกิจกรรมต่างๆ บนบัญชี เพื่อดูความผิดปกติ

คอยตรวจสอบในหน้าเพจที่กดติดตามไว้ รวมถึงคอยติดตามรายชื่อเพื่อน ว่ามีอะไรที่ผิดแปลกไปหรือไม่ เช่น คุณอาจเจอเพจที่ไม่เคยกดไลก์ไว้ หรือเพื่อนที่ไม่รู้จักในลิสต์ อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณว่ามีใครกำลังแอบเข้าบัญชีคุณมาหรือเปล่า

หากเฟซบุ๊กมีการออกจากระบบอัตโนมัติขณะใช้งานอยู่ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่ามีคนพยายามเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณก็เป็นได้

นี่ก็เป็นเพียงขั้นตอนและคำแนะนำเบื้องต้น ที่ทุกคนสามารถทำได้หากเกิดเหตุการณ์ถูกแฮ็กบัญชี หรือจะศึกษาไว้เป็นแนวทาง เพื่อป้องกันไว้ก่อนก็จะยิ่งดีไม่ใช่น้อยเลยล่ะ ลองจำและนำไปใช้กันดูนะคะ

ที่มา: iTECHPOST, NordVPN

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save