ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด แบรนด์ หรือว่านักสร้างคอนเทนต์ก็ตามเทรนด์ของ Content Marketing เป็นสิ่งที่ต้องตามให้ทันอยู่เสมอ เพราะเทรนด์ดี ๆ จะส่งผลให้การสื่อสารในการทำกลยุทธ์การตลาดตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยมากขึ้น ทาง RAiNMaker จึงนำข้อมูลดี ๆ จาก Content Shifu เรื่อง เทรนด์ Content Marketing 2022 มาฝากกัน!
เพราะการตลาดในสมัยนี้เป็นยุคของการกำเนิดศัพท์ และวิวัฒนาการของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นทุกวัน ดังนั้นการทำคอนเทนต์จึงต้องมีส่วนผสมของดิจิทัลเข้าไปด้วยนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ AI, AR, VR หรือว่า Blockchain ก็ตาม ซึ่งหน้าที่ของนักการตลาด แบรนด์ และนักสร้างคอนเทนต์ คือการนำเสนอคอนเทนต์ที่สดใหม่ และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นนั่นเอง
โดยที่บอกว่าให้ทำคอนเทนต์แบบเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพราะพวกเขาคือกลุ่มคนที่จะเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์ให้กับเรา และเรื่องของการตลาดจะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าอยู่เสมอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่ง 7 เทรนด์ Content Marketing ต่อไปนี้จะทำให้มองเห็นภาพรวมมากขึ้นว่า ควรมีการวางแผนทิศทางคอนเทนต์ต่อไปอย่างไรให้ตอบโจทย์โลกโซเชียลมากที่สุด
เทรนด์ Content Marketing
สำหรับเทรนด์คอนเทนต์การตลาดในปีนี้ จะมีการไล่ลำดับเทรนด์จากที่ฮิตทั่วไปในช่วงต้น ไปจนถึงยุคของเทคโนโลยี และจบด้วยวิธีคลาสสิกที่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งเหล่านักการตลาด แบรนด์ และนักสร้างคอนเทนต์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เลยนะ
Visual Content
ยุคนี้เรียกได้ว่า เป็นยุคทองของคอนเทนต์วิชวลเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งแพลตฟอร์ม TikTok, YouTube Shorts และ Instagram Stories ต่างก็เริ่มที่จะโฟกัสไปทาง Short-form videos กันมากขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กลยุทธ์ทางการตลาดจะจัดให้วิชวลคอนเทนต์มาแรงอันดับหนึ่งตามเทรนด์ในปีนี้
และนอกจากคอนเทนต์แบบ Short-form videos แล้ว การระบาดของโควิดก็นำเทรนด์ Remote Work มาสู่องค์กรต่าง ๆ ด้วย เลยทำให้มีการไลฟ์สดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เริ่มมีพฤติกรรมเสพคอนเทนต์ในรูปแบบไลฟ์หรือออนไลน์มากขึ้นด้วย เช่น อีเวนต์ออนไลน์ หรือ Virtual Event ที่ยังคงการเติบโตต่อไปในปี 2022
โดยประเภทของคอนเทนต์ที่ครองใจชาวโซเชียลก็คือ Educational content หรือคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ไปจนถึงการจัดคอร์สเรียนพิเศษเพื่อเพิ่มทักษะให้กับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง เพราะเป็นวิธีที่สามารถตกกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เพิ่มได้ด้วย
Interactive Content
โดยปกติการทำคอนเทนต์นอกจากจะต้องคำนึงถึงการเล่าเรื่อง (Storytelling) เพื่อเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์ และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายอยู่เสมอแล้ว การทำ Interactive Content ก็จะสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายได้ ยกตัวอย่างการใช้ AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ในกลยุทธ์ทางการตลาด จากกระแสที่มาแรงของจักวาลนฤมิตหรือ Metaverse นั่นเอง
ซึ่งสำหรับประเทศไทยการทำคอนเทนต์ประเภทนี้เพื่อดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ก็ยังต้องแลกมากับต้นทุนที่ค่อนข้างมีราคาสูงอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีหากจะศึกษาเอาไว้เพื่อเป็นแนวทางในการทำตลาด และหาทางสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายในวิธีที่ใกล้เคียงกันได้ เพราะสักวันหนึ่งเทคโนโลยี Metaverse นี้ จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น เหมือนกับอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยี 5G
Content Generator
หรือการร่วมมือกับ Content Generator อย่าง AI (Artificial Intelligence) ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำคอนเทนต์ และกลยุทธ์ทางการตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น AI Writer ที่ใช้ AI มาช่วยในการเขียนคอนเทนต์ โดยเฉพาะคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ หรือการมี AI ช่วยเพิ่มระดับความสามารถของนักเขียนคอนเทนต์ในด้านข้อมูล และฟีดแบคต่าง ๆ
นอกจากรูปแบบคอนเทนต์แล้ว AI ยังเข้ามาช่วยด้านวิชวลหรือคอนเทนต์แบบวิดีโอได้มากขึ้นด้วย เพราะไม่ได้ช่วยใส่ข้อความหรือเอฟเฟกต์เพียงอย่างเดียว แต่ AI Presenter ที่เสมือนกับคนมาบรรยายให้ฟังตอนนี้ก็กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ฉะนั้นใครได้มีโอกาสได้ใช้ AI มาเป็นผู้ช่วยในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ก็ห้ามพลาดเชียว!
Content Atomization
เป็นการรู้จักใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ที่มีให้คุ้มค่า แม้จะมีเพียงแค่คอนเทนต์เดียวก็ตาม แต่ก็สามารถแตกย่อยคอนเทนต์ชิ้นใหญ่ ๆ ออกไปเป็นอีกหลาย ๆ หัวข้อ เพื่อลงในช่องทางที่หลากหลายมากขึ้นได้อีก
เพราะแต่ละแพลตฟอร์ม และช่องทางต่าง ๆ มีกลุ่มเป้าหมาย และรูปแบบคอนเทนต์ที่เหมาะสมแตกต่างกัน การทำคอนเทนต์วิธีนี้จึงจะช่วยให้สร้างการรับรู้ (Awareness) ของกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า รวมถึงลดเวลาในการจัดการคอนเทนต์ที่เยอะเกินจำเป็นออกไปด้วย
Empathetic Content Marketing
เพราะมนุษย์มีต่อมรับความรู้สึกที่อ่อนไหวกว่าที่คิด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการอ่านหรือดูเพื่อเสพคอนเทนต์ในปัจจุบันก็ตาม มักจะมีความรู้สึกหรืออารมณ์ร่วมอยู่เสมอ ฉะนั้นหน้าที่สำคัญของนักการตลาด แบรนด์ และนักสร้างคอนเทนต์ คือการสร้างสรรค์คอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์ และเพิ่มพลังบวกให้กับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง
แม้บางเรื่องอาจจะไม่ได้สร้างพลังบวกเท่าไรนัก แต่ก็ต้องหาทางประยุกต์เพื่อให้สื่อสารออกไปแล้วได้ประโยชน์ หรือรับความรู้เชิงข้อมูลแทนมากกว่าการบั่นทอนจิตใจกัน และยังเป็นการเลี่ยงการถูกแบนได้อีกด้วย
Optimization & Collaboration
จากเดิมที่คอนเทนต์คุณภาพที่ติดลมบนรูปแบบ Evergreen Content สามารถนำกลับมาทำใหม่ปีละครั้งหรือตามเวลาที่ผ่านไปแล้ว การกลับมาตรวจสอบ และปรับปรุงคอนเทนต์ (Optimize Content) อยู่เสมอก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นสิ่งที่ควรทำต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คอนเทนต์คงคุณภาพ และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอยู่
และนอกจากการตรวจสอบแล้ว การรู้จักร่วมมือกันกับเหล่าครีเอเตอร์ หรือแบรนด์ในสังคมเดียวกันก็สำคัญ เพราะจะช่วยยกระดับคอมมูนิตี้ในลักษณะ win-win มากขึ้น เนื่องจากตลาดคอนเทนต์ในปัจจุบันมีคอนเทต์ที่หลากหลายทุกวัน เช่นเดียวกับการแข่งขันที่สูงขึ้นด้วย
Set The Relevant
แม้การทำคอนเทนต์ที่ต้องใช้ความเข้าใจตลาด และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายไปด้วยจะเป็นสิ่งที่ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่มันก็ยังเป็นหลักการสำคัญเพื่อทำให้รู้ว่าควรทำคอนเทนต์สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายแบบไหน
ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งคำถาม และหาคำตอบกับการรีเสิร์ชความสนใจ ไปจนถึงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายอยู่บ่อย ๆ เพื่อเป็นการอัปเดตให้กับตัวเอง และเทำความข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น หรือจะเรียกว่าเป็นการ ‘Personalize’ ให้คอนเทนต์มีความเฉพาะเจาะจงกับพวกเขาก็ได้
จากทั้ง 7 เทรนด์ที่กล่าวมา จะเห็นได้ชัดว่าสิ่งสำคัญนั้นขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเป้าหมาย และการเปิดใจพร้อมเรียนรู้ของนักการตลาด เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากแค่ไหน หรือพฤติกรรม กับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายจะเปลี่ยนไปอย่างไร การเข้าใจ และปรับตัวให้ทันอย่างเข้าใจดูจะเป็นประโยชน์ในภาพรวมมากที่สุด ขอแค่นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมก็เพียงพอแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก Content Shifu : “แหล่งคอนเทนต์ดีๆ เพื่อการเรียนรู้ Digital Marketing”