หลายคนมีความใฝ่ฝันอยากเปิดช่อง YouTube ของตัวเองขึ้นมาสักช่อง เพื่อได้แชร์คอนเทนต์ที่ตัวเองสนใจให้กับผู้คนบนแพลตฟอร์ม หรือบางคนก็หวังที่จะเดินทางสายครีเอเตอร์เป็นอาชีพหลักที่สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองในอนาคตได้
หากคุณกำลังมีความคิดแบบนี้อยู่ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี วันนี้ RAiNMaker เรารวบรวม 8 วิธีการสร้างรายได้บน YouTube มาฝากกัน! รับรองว่าเป็นลู่ทางให้เหล่าครีเอเตอร์ทุกคนสามารถนำไปใช้พิชิตเงิน 30 ล้านได้แน่นอน จะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
1. YouTube Ads
รายได้จากโฆษณา นับว่าเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของเหล่าครีเตอร์ ซึ่งสามารถเลือกรับโฆษณาบน YouTube ได้ และสามารถเลือกตำแหน่งการแสดงทั้งต้น กลาง หรือหลังวิดีโอ โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ YouTube Studio เพื่อเข้าไปตั้งค่าโฆษณา โดยวิธีการนี้ครีเอเตอร์จะสามารถรับเงินผ่าน AdSense ได้
2. YouTube Membership
ผู้ติดตามสามารถสมัครเป็นสมาชิกของช่อง ผ่านการชำระเงินแบบรายเดือน และรับสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก เช่น ป้าย อีโมจิ และอื่น ๆ โดยการเปิดใช้งาน YouTube Membership ครีเอเตอร์ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- ผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คนขึ้นไป
- อยู่ในโปรแกรมพาร์ตเนอร์ YouTube
- อายุมากกว่า 18 ปี
- ช่องมีแท็บชุมชน (Community)
- ไม่ใช่ช่องสำหรับเด็ก
3. Merch features
ชั้นวางสินค้า หรือการจัดระเบียบชั้นวางสินค้า ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์ที่มีสิทธิ์แสดงสินค้าที่มีแบรนด์อย่างเป็นทางการบน YouTube ได้ และหากช่องได้รับสิทธิ์นี้ก็จะแสดงสินค้าเหล่านั้นในหน้าดูวิดีโอได้ด้วย แต่ไม่สามารถแสดงได้ทุกวิดีโอ ซึ่งสามารถแสดงสินค้าได้สูงสุด 30 รายการ และระบบจัดจัดสินค้าตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคา ความนิยม และความพร้อมในการจำหน่านสินค้า ส่วนการแสดงสินค้านอกชั้นวางสินค้า มีดังนี้
- แท็บร้านค้าในหน้าแรกของช่อง
- ปักหมุดสินค้าในไลฟ์สตรีม
- ใช้ลิงก์อธิบายไปยังร้านค้า
- แสดงสินค้าใน End Screen
4. Super Chat และ Super Stickers
เป็นฟีเจอร์การสร้างรายได้ให้กับช่องผ่านโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube โดยผู้ติดตามของช่องจะสามารถจ่ายเพื่อทำให้ข้อความในช่องแชตสตรีมของตัวเองโดดเด่นกว่าข้อความปกติได้ และยังตรึงข้อความไว้ด้านบนของฟีดแชตได้ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่สตรีมเมอร์สายเกม และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับครีเอเตอร์บน YouTube ด้วย
5. YouTube Premium
ถึงแม้ว่าผู้ใช้ YouTube Premium จะไม่ต้องพบกับโฆษณาคั่น แต่ YouTube ก็ยังคงคำนึงถึงครีเอเตอร์และหาวิธีสร้างรายได้ให้อยู่ดี โดยครีเอเตอร์สามารถรับค่าบริการส่วนหนึ่งจาก YouTube Premium เมื่อมีผู้ที่สมัครใช้บริการรับชมเนื้อหาของตน ซึ่ง YouTube จะแบ่งให้รายได้อิงตามจำนวนสมาชิกที่ดูเนื้อหา และจะได้รับรายได้ในช่วงต้นด้วยเหมือนกับรายได้ที่ได้รับจากโฆษณา
6. Live Stream
การสร้างรายได้จากการไลฟ์สตรีมทำได้โดยการเปิดใช้ฟีเจอร์ Suprer Chat ให้สมาชิกมีสิทธิ์พิเศษเข้าถึงช่องได้ ส่วนการโฆษณาบนไลฟ์สตรีม มีวิธีให้เลือกดังต่อไปนี้
- โฆษณาตอนต้นก่อนไลฟ์สตรีม
- โฆษณาตอนกลางระหว่างไลฟ์สตรีม
- โฆษณาแบบดิสเพลย์และโฆษณาซ้อนทับที่จะขึ้นด้านข้าง หรือวางซ้อนเนื้อหา
7. YouTube Shorts Fund
คือการที่ YouTube ให้เงินสนับสนุนสำหรับการทำ Shorts กับเหล่าครีเอเตอร์เป็นจำนวน 100 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3 พันล้านบาท) โดยไม่ต้องผ่านโปรแกรม YouTube Partner ซึ่งในแต่ละเดือนครีเอเตอร์จะสามารถรับโบนัสได้ตั้งแต่ 100-10,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว แต่ขึ้นอยู่กับผลงานหรือคอนเทนต์วิดีโอที่แสดงออกมา เช่น ยอดวิวของ YouTube Shorts ในแต่ละเดือน และที่ตั้งคอมมูนิตี้ของกลุ่มเป้าหมาย แต่ทาง YouTube จะตรวจสอบช่องก่อนแจ้งเตือนเกี่ยวกับ Shorts bonus กลับไปยังครีเตอร์ คือ
- ต้องอัปโหลดเฉพาะ Original Shorts บน YouTube ช่วง 180 วันล่าสุด
- คอนเทนต์ต้องเป็นไปตามนโยบายและข้อกำหนดของ YouTube Shorts
- คอนเทนต์ที่มีลายน้ำของแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ จะไม่ถูกนับ
- คอนเทนต์ที่นำมาอัปโหลดซ้ำ หรือไม่ได้เป็น Original Shorts จะไม่ถูกนับ
- การสร้างรายได้จาก YouTube Shorts Fund ต้องอยู่ในประเทศที่ YouTube ประกาศไว้
- อายุของครีเอเตอร์ต้องถึงขั้นต่ำตามที่กำหนดในบัญชี Google และได้รับอนุญาตถูกกฎหมาย
โดยการรับ YouTube Shorts Fund จะต้องีเชื่อมต่อกับบัญชี AdSense ก่อน และตั้งค่าเพื่อรับเงินได้ในช่วงวันที่ 21 และ 26 ของเดือนถัดไป
8. Branded Content, Sponsored Content, Affiliate Marketing
อีกหนึ่งช่องทางที่แม้จะไม่ได้ขึ้นกับทาง YouTube โดยตรง แต่เป็นสิ่งที่ครีเอเตอร์สามารถทำเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับช่อง นั่นก็คือการการทำงานร่วมกับแบรนด์อย่างที่เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับทำ Branded Content, Sponsored Content หรือแม้กระทั่งการทำ Affiliate โดยการรับสินค้าหรือบริการมาทำเป็นคอนเทนต์ เพื่อสร้างยอดขายให้กับแบรนด์นั่นเอง
เกณฑ์ในการจ่ายเงินค่าตอบแทน YouTube
- มี Subscribers 1,000 ขึ้นไป
- มียอด Reach จากคนดู 4,000 ชั่วโมงตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
- ต้องคลิกยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขบริการในการรับชม
- มีบัญชี AdSense สำหรับตรวจสอบและอนุมัติคอนเทนต์
หากใครสนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างรายได้จาก YouTube สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3KhqO9q