แจก 9 ทริก ‘Super Shareable’ สร้างคอนเทนต์ยังไงให้คนแชร์

ความคิดสร้างสรรค์ในการทำคอนเทนต์นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นเหล่าครีเอเตอร์หรือแบรนด์มาก ๆ เพราะคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจะต้องสร้างอิมแพคหรือสร้างภาพจำให้กับผู้ที่พบเห็นได้ โดยเฉพาะโลกโซเชียลที่มีการหลั่งไหลของคอนเทนต์สดใหม่อยู่ทุกวัน และการแข่งขันสูงขึ้น ทาง RAiNMaker เลยมี 9 ทริก Super Shareable มาฝาก!

แม้การสร้างคอนเทนต์จะไม่มีหลักสูตรหรือขั้นตอนตายตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เยว่าการเกาะกระแสหรือเทรนด์เอาไว้ มักจะเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เสมอ ซึ่งนักสร้างคอนเทนต์ก็จะมีวิธีในการแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแตกต่างกันไปเพื่อตามให้ทันกับเทรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วัน

โดย 9 ทริก Super Shareable ที่กำลังจะมาแชร์ต่อไปนี้จึงเป็นเพียงแค่ไกด์นำทางให้นักสร้างคอนเทนต์ได้เจอแนวทางใหม่ ๆ เท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วยการเรียนรู้มาจากข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดทิศทางที่อยากจะก้าวเดินต่อไปในแวดวงนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่จะมีทริกอะไรบ้างมาเช็กกัน!

CONTENT ALWAYS USEFUL

แชร์คอนเทนต์อย่างมีประโยชน์

หากอยากให้กลุ่มเป้าหมายของคุณแชร์คอนเทนต์ที่ทำลงไปบนโลกโซเชียล คอนเทนต์นั้นจะต้องทำให้พวกเขารู้ว่ามันเป็นเรื่องที่มีเหตุผลและต้องรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย่อยเรื่องที่ยากให้เข้าใจง่ายแบบมีประสิทธิภาพจะทำให้พวกเขารู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกับตัวเอง

โดยส่วนใหญ่คอนเทนต์มักจะลงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่คนกำลังให้ความสนใจ จนบางครั้งคอนเทนต์ที่เราเล่นตามกระแสก็กลืนกับคอนเทนต์อื่น ๆ บนฟีดหรือหน้าไทม์ไลน์ไปหมด

ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือการสร้างคอนเทนต์ที่จะส่งผลกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด รวมถึงมองไปยังสิ่งที่พวกเขาจะได้จากคอนเทนต์ของเราอยู่เสมอด้วย

PLATFORMS LOVE VISUALS

ทุกแพลตฟอร์มรักความเป็นวิชวล

การลงคอนเทนต์สมัยนี้มีการแข่งขันสูง เพราะไม่ว่าจะเป็นใครหรือแบรนด์ไหนต่างก็อยากโดดเด่น และเป็นไวรัลกันทั้งนั้น แต่หากจะทำให้ความต้องการนั้นเแ็นจริง ตัวอักษรมากมายในโพสต์ก็คงจะเรียกยอดเอ็นเกจเมนต์ได้ไม่มากพอเหมือนกับการมีกราฟิกสวย ๆ ให้กลุ่มเป้าหมายของคุณต้องหยุดเลื่อนไถฟีดและอยากมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์

โดยจากผลสำรวจของ BuzzSumo พบว่าคอนเทนต์กว่า 1 ล้านหัวข้อที่ลงไปในแต่ละวันมีภาพกราฟิกประกอบคอนเทนต์กับตัวอักษรเพียงแค่ 75-100 คำเท่านั้นที่สามารถเรียกความสนใจให้กับผู้คนบนโลกโซเชียลได้ รวมถึงการใช้ GIFs หรือมีมเข้ามาในคอนเทนต์ก็ยิ่งทำให้คอนเทนต์นั้นดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นด้วย

แต่การที่คอนเทนต์และกราฟิกจะปังได้ก็ต้องหาเลย์เอาท์ และการออกแบบกราฟิกที่ทำให้คอนเทนต์ย่อยง่ายอยง่ายอย่างเหมาะสม ไปจนถึงการคิดแคปชันที่ดึงดูดเช่นเดียวกัน

DON’T FORGET SOCIAL BUTTONS

อย่าลืมเพิ่มปุ่มลิงก์ไปโซเชียล

อ้างอิงจากที่ผู้คนในยุคนี้ชอบความสะดวกสบาย ดังนั้นการมีปุ่มที่กดไปยังหน้าเว็บหรือรายละเอียดเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้จากแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ ก็ยิ่งทำให้พวกเขาเกิดการรับรู้เพิ่มขึ้นจาก CTA (Call to action) เช่นนี้

ซึ่งอาจแบ่งประเภทของปุ่มที่ลิงก์ไปยังสิ่งน่าสนใจเพื่อให้ผู่คนได้รู้จักกับแบรนด์ของคุณมากขึ้น เช่น การแสดงจำนวนคนกดแชร์ที่นับยอดแบบเรียลไทม์จะทำให้ไปกระตุ้นในการกดแชร์ตามมากขึ้น หรือการกดปุ่มที่ลิงก์ไปยังโซเชียลให้ติดตามคอนเทนต์ของแบรนด์เพิ่มเติมก็ย่อมได้

ยิ่งกับสังคม Twitter การมีแฮชแท็กที่คิดขึ้นมาเองสำหรับคอนเทนต์นั้น ๆ หรือแคปชันที่เชื่อมโยงไปถึงคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้ก็จะทำให้ยอดเอ็นเกจเมนต์พุ่งไปอีกนั่นเอง

ALWAYS BE ORIGINAL

กล้าที่จะเป็นคอนเทนต์ต้นฉบับ

กฎข้อสำคัญของการทำคอนเทนต์ก็คือการไม่ลอกเลียนแบบงานของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ในรูปแบบไหนก็ตาม หรือแม้กระทั่งการดูคอนเทนต์อื่น ๆ เพื่อตามหาไอเดียก็ไม่ควรนำมาทำคอนเทนต์ในมุมมองเดียวกัน แต่สิ่งที่คุณควรทำคือการปรับเปลี่ยนมุมมองในคอนเทนต์นั้น และสร้างมันขึ้นมาเป็นของตัวเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโลกโซเชียลแล้วอะไรที่แตกต่างหรือมีอะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็ยิ่งจะทำให้อยากแชร์ออกไปให้คนอื่นรู้มากขึ้น ซึ่งการนำคอนเทนต์ของคนอื่นไปแชร์นั้นในทางเทคนิคแล้วนั่นก็ไม่เรียกว่าออริจินัลหรือคอนเทนต์ดั้งเดิมอยู่ดี จนกว่าคุณเลือกที่จะทำมันขึ้นมาใหม่ในฉบับของตัวเองแล้วลองทำมันในแพลตฟอร์มที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้น แต่ก็อย่าลืมให้เครดิตต้นฉบับไอเดียเหล่านั้นด้วยนะ

MIX EVERGREEN & TRENDING 

มิกซ์คอนเทนต์ Evergreen กับเทรนด์

คอนเทนต์ที่ติดเทรนด์ก็เหมือนกับช่วงเวลาที่มีความหอมหวานอยู่ชั่วครู่ เพราะกระแสมันมักจะมาเหมือนกับคลื่นแล้วก็หายไปในชั่วพริบตาหรือเวลาที่คนเริ่มไม่สนใจเช่นกัน ฉะนั้นคอนเทนต์ที่ควรส่งออกไปให้โลกโซเชียลได้รับรู้นั้นต้องสามารถอยู่ได้กับทุกช่วงเวลามากกว่าชั่วคราว

ซึ่งคอนเทนต์ประเภทนั้นเรียกว่า ‘Evergreen Content’ หรือคอนเทนต์ที่ลงแล้วสามารถรีโพสต์ต่อได้เรื่อย ๆ โดยเป็นคอนเทนต์ที่ให้ผลได้ดีกว่าการทำ SEO ในคอนเทนต์เสียอีก แม้ตอนที่ลงไปมันจะมีความสำคัญแค่ช่วงเวลานั้น แต่เนื้อหาภายในของคอนเทนต์จะมีความสำคัญต่อเนื่องยาวไปเป็นปีเลยทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์เกี่ยวกับ How to, ประวัติศาสตร์หรือเรื่องราว หรือคอนเทนต์ที่ตอบคำถามที่ทุกคนมักจะตั้งคำถามหรือมีข้อสงสัย เป็นต้น โดยคอนเทนต์ประเภทนี้ที่ลงไปสามารถผสมผสานระหว่างเทรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น แล้วปรับเปลี่ยนการเขียนหรือการนำเสนอให้เข้ากับทุกยุคทุกสมัยได้

CREATE CAPTIVATING TEXTS

สร้างแคปชันที่ทำให้อยากแคป

การที่จะสร้างคอนเทนต์ให้คนในโซเชียลแชร์ต่อไปเยอะ ๆ ได้ บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าคอนเทนต์นั้นควรเป็นคอนเทนต์ที่ทำให้เรารู้สึกอยากแชร์เหมือนกัน หรือเรียกได้ว่าเข้าใจทั้งใจเขาและใจเรา การเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือแม้แต่แบรนด์เองก็ตาม การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของตัวเองนั้นยังไงก็คือหัวใจสำคัญ

ถ้าให้เทียบระหว่างแคปชันที่บอกแค่รายละเอียดเฉย ๆ แบบภาษาทางการโดยไม่มีลูกเล่นอะไรมากนักกับแคปชันที่เต็มไปด้วยการพิมพ์ที่เหมือนภาาษาพูดหรือมีวิธีการนำเสนอให้อยากรู้อยากเห็น ยังไงวิธีการแบบที่ 2 ก็ชนะอย่างขาดลอย

และแม้จะเป็นแค่ตัวอักษรสั้น ๆ เพียงไม่กี่คำ แต่หากมันจับใจหรือเรียกความสนใจชาวโซเชียลได้ การที่จะทำให้พวก้ขาอยากมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์หรือ CTA (Call to Action) กับแบรนด์ต่อก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปนี่จึงเป็นเหตุผลที่การคิด ‘Copywriter’ นั้นก็สำคัญไม่แพ้กับข้ออื่น ๆ เลย

INFOGRAPHICS ARE MEMORABLE

ย่อยคอนเทนต์ด้วยอินโฟกราฟิก

คอนเทนต์ไหนมีอินโฟกราฟิกประกอบด้วย คอนเทนต์นั้นมักจะได้รับความสนใจจากผู้คนในโลกโซเชียลทันทีแบบไม่ต้องสงสัย เพราะนอกจากจะมีภาพประกอบที่ไม่ได้มีแค่คอนเทนต์ตัวหนังสือ สิ่งที่อินโฟกราฟิกย่อยออกมาเป็นภาพก็ทำให้เข้าใจง่ายขึ้นนั่นเอง

ซึ่งคอนเทนต์ประเภทนี้มักจะได้รับการแชร์ต่อบนโลกโซเชียลแบบ X3 เลยทีเดียวหากสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ แม้แต่เรื่องยาก ๆ หากเราตั้งใจที่จะย่อยมันออกมาเป็นแค่อินโฟกราฟิกหน้าเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยคอนเทนต์ที่ถูกแชร์ออกไปยังไงก็ต้องได้ยอดเอ็นเกจเมนต์และผู้คนได้รู้จักแบรนด์มากขึ้นอย่างแน่นอน

ADD EMOTIONS WITH STORYTELLING

เล่าเรื่องด้วยอารมณ์และความรู้สึก

การเล่าเรื่องกับมนุษย์เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กันมานาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องแบบหนังสือ, หนังหรือเพลงก็ตาม ทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องเล่าทั้งนั้น และยิ่งเรื่องเล่าที่ถูกสร้างขึ้นสามารถสร้างการอยากมีส่วนร่วมหรือทำให้ผู้คนรู้สึกว่าได้รับความเข้าใจ หรือเป็นการให้ความรู้ใหม่ ๆ ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน การแชร์ต่อนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย

แต่เรื่องเล่าในสมัยนี้ก็พอจะมีแนวทางที่ถูกกำหนดใหม่ขึ้นมาบ้าง เช่น เรื่องเล่าต้องสั้นแต่สามารถจับความสนใจของผู้คนได้ในระยะยาว รวมถึงมีวัตถุประสงค์ของเรื่องชัดเจนว่าจะสื่ออะไร หรือผู้คนได้อะไรจากเรื่องเล่าเหล่านี้บ้าง โดยการเล่าเรื่องต้องแสดงให้เห็นเป็นภาพ ไม่ว่าจะใช้ภาพหรือรับรู้แล้วเกิดจินตนาการอื่น ๆ เพิ่มก็ตาม มันจะนำมาซึ่งการมีอารมณ์และความรู้สึกของผู้คนร่วมด้วยเสมอ เช่น หัวเราะ, มีความสุข, ช็อก, เซอร์ไพรส์, เศร้าหรือรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจ เป็นต้น

ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหน Facebook, Instagram, TikTok ก็ล้วนมีการเล่าเรื่องในคอนเทนต์ตามรูปแบบของมันที่ควรจะเป็นเองทั้งนั้น ขอแค่เราทำความเข้าใจคอนเทนต์และแพลตฟอร์มที่จะนำเสนอด้วย เพราะแม้แต่เรื่องเล่าธรรมดา แต่สามารถสื่อสารมันออกมาตรงจุดกับกลุ่มเป้าหมายก็มีอิมแพคได้เหมือนกันนะ

STAY RELEVANT TO YOUR NICHE

สร้างประเด็นจากกลุ่มเป้าหมาย

คอนเทนต์ที่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายคือประเด็นสำคัญที่จะทำให้เกิดการแชร์ต่อ เพราะหากโพสต์ของคุณไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งหรือไม่มีความเกี่ยวข้อง การกดเลิกติดตามก็อยู่แค่ปลายนิ้วเท่านั้น ทำให้การลงคอนเทนต์ต้องลงเพื่อรักษากลุ่มเป้าหมายเดิมของคุณเอาไว้ด้วย

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะคิดนอกกรอบเกี่ยวกับคอนเทนต์ไม่ได้เลย เพราะการลองไอเดียใหม่ ๆ ก็สามารถตกกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของคอนเทนต์และตัวตนของช่องหรือแบรนด์ของคุณเข้าไว้ เพราะมันจะทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกไว้ใจและเชื่อใจกับแบรนด์หรือช่องของคุณต่อไป

ซึ่งความรู้สึกไว้ใจและเชื่อใจของพวกเขาจะนำไปสู่การซัพพอร์ตที่ดีต่อไปต่อแบรนด์หรือช่องนั้น ๆ แน่นอน เพราะเป็นเรื่องปกติในเวลาที่เรารู้สึกชอบอะไรก็จะแชร์มันอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องจ้างให้ใครมาชอบสิ่งที่เราทำเลยก็ได้

โดยสรุปแล้วทั้ง 9 ข้อดังกล่าวที่ได้แชร์กันไปเกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์ยังไงให้คนแชร์ ล้วนเป็นสิ่งพื้นฐานที่แบรนด์หรือเหล่าครีเอเตอร์ควรทำอย่างต่อเนื่อง ขอแค่เข้าใจว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ แล้วเขาจะได้รับอะไรจากคอนเทนต์ของคุณบ้าง เพราะยิ่งคิดหาข้อดีและประโยชน์จากคอนเทนต์ได้เยอะเท่าไหร่ การแชร์เพื่อบอกต่อก็อยู่แค่ปลายนิ้วในเวลาเสี้ยววิเท่านั้น

ที่มา: Quuu

 

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save