จากที่อินสตาแกรมได้เปิดตัว Reels Ads ไปอย่างเป็นทางการ เพื่อให้แบรนด์ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านคลิปวิดีโอ Reels ได้มากขึ้น และยังช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น การใช้ Reels Ads เข้ามาช่วยยังอาจเปลี่ยนจากผู้ใช้อินสตาแกรมให้กลายมาเป็นผู้ติดตาม และเปลี่ยนจากผู้ติดตามให้กลายเป็นลูกค้าได้ก็ได้
อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าคอนเทนต์วิดีโอสั้นกำลังมาแรงในทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ TikTok คู่แข่งของ Reels ขณะนี้เองอินสตาแกรมก็ยังมุ่งในการพัฒนาด้านวิดีโอให้ไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น Reels จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่แบรนด์ควรจะกระโดดมาลองเล่น เพื่อสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ บนอินสตาแกรม
และเนื่องจาก Reels จะแสดงผลในรูปแบบแนวตั้งเต็มจอ คล้ายกับ Ads ในสตอรีนั้นเอง ซึ่งตัว Reels Ads นี้ก็จะไปแทรกระหว่างที่ผู้ใช้งานกำลังดูคลิปอื่นๆ บน Reels อยู่นั่นเอง และตัวโฆษณามีความยาวสูงสุดถึง 30 วินาที รวมถึงเปิดให้ผู้ใช้สามารถมีเอนเกจเมนต์ได้ทั้ง ไลก์ คอมเมนต์ เซฟ หรือแชร์ต่อก็ได้
ซึ่ง Reels Ads จะปรากฏท่ามกลางคอนเทนต์ของ Reels ที่ได้รับความนิยม ในที่นี้รวมทั้งแท็บ Reels, Reels ในสตอรี, Reels ในหน้าค้นหา (Explore) หากผู้ใช้งานไม่ได้สนใจในโฆษณาก็สามารถเลือกที่จะเลื่อนผ่านได้ หรือสามารถกดตรงปุ่มเมนูบนโพสต์เพื่อซ่อนหรือรีพอร์ตก็ได้เช่นกัน
สร้าง Reels Ads ยังไง?
การสร้าง Reels Ads ก็คล้ายกับการสร้าง Ads ทั่วไป เพียงเปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบของวิดีโอแบบ Reels เท่านั้นเอง โดยมีวิธีการดังนี้
- เข้าไปที่ Ads Manager แล้วกดสร้าง (+Create)
- เลือก Objectives ของโฆษณา โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 อย่างดังนี้
- Conversions
- Reach
- Traffic
- Video Views
- Brand Awareness
- App Installs
- สร้าง Ads เหมือนปกติ ใส่รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญให้ครบถ้วน ตั้ง Budget และกำหนดเวลาไว้ เลือกกลุ่มเป้าหมาย เลือก optimization และ delivery
- เมื่อไปยังตัวเลือก Placements หรือที่ๆ จะแสดงโฆษณาของคุณ ให้กดเลือก Manual Placements และเลือก Instagram Reels ที่อยู่ถัดจาก Stories
- จากนั้นก็ใส่ Call to Action และกดสร้างโฆษณาได้เลย!
นอกจากนี้ Reels เองก็ยังมีลูกเล่นที่เหมือนกับสตอรี คือสามารถใส่เพลง สติกเกอร์ ตัวหนังสือ หรือแม้แต่ special effect อื่นๆ อย่างฟิลเตอร์ได้อีกด้วย
สำหรับเครื่องมือในการถ่ายวิดีโอก็มีให้เลือกใช้ภายในแอปมากมายเช่นการปรับความเร็วคลิปให้เร็วหรือช้าลง
ครีเอต Reels ยังไงให้คนหยุดดู?
แน่นอนว่าการทำวิดีโอโฆษณาผ่าน Reels ก็ควรจะมองว่าเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอตัวนึงขึ้นมา เพื่อให้มีอะไรมากกว่าการขายของเท่านั้น เราเลยจะมาบอกทิปส์ในการสร้าง Reels Ads ยังไงให้โดนใจคนกันค่ะ
วาง Storyboard
อย่างแรกเลย ถ้าขึ้นชื่อว่าต้องทำอะไรเป็นวิดีโอแล้วล่ะก็ ต้องมีการเขียนสคริปต์หรือวาง Storyboard ไว้คร่าวๆ เพื่อที่จะได้ให้เราจัดเตรียมและถ่ายทำทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบ เป็นลำดับขั้นตอน และไม่มีตกหล่นนั่นเอง
อีกอย่าง Storyboard จะช่วยให้เรามองเห็นภาพชิ้นงานก่อนถ่ายทำจริงได้อีกด้วย
สื่อสารคุณค่าและตัวตนของแบรนด์ให้ชัดเจน
แน่นอนว่าการทำโฆษณาก็คือการโปรโมตแบรนด์ เพราะฉะนั้นต้องดึงสิ่งที่เป็นคุณค่าของแบรนด์ออกมาสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายเห็นมากที่สุด เพื่อที่จะได้ให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้นผ่านคลิปวิดีโอ
เน้นจุดต่างของแบรนด์
ในที่นี้หมายถึงทั้งจุดที่แตกต่างในแง่ของสินค้าและบริการ รวมถึงจุดต่างในการนำเสนอ พึงระลึกเสมอว่าคอนเทนต์บน Reels มีมากมาย ต้องคิดว่าทำไมคนถึงต้องหยุดดูคลิปของแบรนด์? แบรนด์มีอะไรที่คู่แข่งไม่มี?
เมื่อหาจุดต่างได้ก็จะดึงความสนใจของคนให้หยุดดูได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นความคิดสร้างสรรค์จึงสำคัญมากที่จะทำให้การนำเสนอของแบรนด์โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง
อย่า Hard Sell มากเกินไป
ถึงแม้ว่าจุดประสงค์คือการขายสินค้าหรือบริการก็ตาม แต่การ Hard Sell เกินไปก็ไม่เป็นมิตรกับคนดู ยิ่งคลิปวิดีโอที่ขายตั้งแต่ต้นจนจบแบบที่คนดูเดาทางได้ มีแต่จะโดนปัดผ่านมากกว่า
ลองนึกภาพตามว่าคลิปวิดีโอความยาวแค่ 30 วินาที แต่กลับอัดแน่นไปด้วยข้อมูลที่ขายของอย่างเดียว โดยที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ จะสามารถดึงคนให้อยู่ได้กี่วินาที? เพราะฉะนั้นขายของได้ แต่อย่า Hard Sell มากเกินไปจะดีกว่า
เน้นความจริงใจ (Authentic)
ยุคนี้ความจริงใจเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายคาดหวังจากแบรนด์ เพราะฉะนั้นการทำคอนเทนต์ที่สื่อถึงความจริงใจของแบรนด์ออกมา จะช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์ถูกให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นได้
สร้างคอนเทนต์ Exclusive เฉพาะบน Reels
สร้างคอนเทนต์ที่สามารถรับชมได้แค่บน Reels เท่านั้น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกถึงความเอ็กซ์คลูซีฟ จะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น ที่แน่ๆ ก็ไม่ต้องเกิดความคิดที่ว่าเคยเห็นโฆษณาตัวนี้มาก่อนแล้ว
ประกาศโปรโมชัน
ใช้ Reels Ads ในการทำแคมเปญประกาศโปรโมชัน ปกติเมื่อมีโปรโมชันก็มักจะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นอยู่แล้ว แต่หากทำการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ผ่านสื่อที่มีความน่าสนใจมากขึ้น ก็จะยิ่งเป็นตัวย้ำให้คนจดจำและสนใจโปรโมชันของแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น
ตามเทรนด์ หรือ Challenge
ด้วยความที่ Reels มีจุดเด่นตรงสามารถเพิ่มเพลงประกอบเข้ามาได้ การเลือกเพลงที่กำลังเป็นกระแสอยู่ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนเห็นหรือจดจำคลิปได้มากขึ้น
รวมถึงชาเลนจ์ต่างๆ ที่มีการเล่น ไม่ว่าจะเริ่มจาก TikTok มาสู่ Reels หรือที่เกิดขึ้นจาก Reels เลยก็ตาม หากแบรนด์ลองกระโดดไปเล่นกับเทรนด์พวกนี้บ้าง แล้วประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง ก็อาจช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย
Collab กับอินฟลูเอนเซอร์
การร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์จะเป็นการช่วยเพิ่มการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์จะมีฐานผู้ติดตามอยู่จำนวนหนึ่งอยู่แล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่จะได้ตามมาคือยอดเอนเกจเมนต์นั่นเอง
การที่ไปคอลแล็บด้วย ก็จะยิ่งช่วยขยายฐานคนดูมากขึ้นไปอีก จนอาจทำให้ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น
ฝึกฝน ทำซ้ำ เรียนรู้จากบทเรียน
แน่นอนว่าหากไม่เคยทำมาก่อน ผลตอบรับอาจไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง แต่ Reels ก็คือคอนเทนต์ประเภทนึง หากลองทำต่อไปเรื่อยๆ นำข้อมูลหลังบ้าน หรือฟีดแบ็กต่างๆ มาปรับปรุงอยู่เสมอ ก็จะทำให้ค่อยๆ จับทางได้เองในที่สุด
ใส่ปกคลิป Reels
การใส่ปกคลิปนอกจากจะช่วยดึงดูดให้คนกดเข้ามาดูแล้ว ยังสามารถเป็นตัวบอกรายละเอียดแบบสั้นๆ ได้อีกด้วยว่าแนวทางของคลิปเราจะเป็นแนวไหน ในที่นี้จะมีผลเวลาแสดงอยู่บนหน้าฟีดตรงแท็บ Reels มากกว่า
ตัวอย่างไอเดียสำหรับ Reels
- Educational Content เช่น แชร์ทิปส์, สอนใช้หรือแนะนำผลิตภัณฑ์
- เบื้องหลัง
- Before and After
- Showcase Product
- เฉลิมฉลองวันหรือเทศกาลสำคัญ
- แชร์ user-generated content
- คอนเทนต์แนว Vlog Style
- Mini Q&A
- นำคอนเทนต์เก่ามารวมเป็น Reels
ที่มา: Instagram Help Center, Social Media Today