หนึ่งในคำถามโลกแตกของคนทำคอนเทนต์วิดีโอ หรือจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นคำถามของคนทำคอนเทนต์ทุกรูปแบบเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบทความ วิดีโอแต่ละแบบ พอดคาสต์ หรือแม้กระทั่งการ Live สด ว่าสรุปแล้วเราควรทำคอนเทนต์นานแค่ไหน แล้วจากสถิติที่ผ่านมาคนชอบคอนเทนต์นานแค่ไหนมากสุด แต่ในบทความนี้ทีมงาน RAiNMaker จะมาวิเคราะห์ถึงความยาวของคอนเทนต์ที่เหมาะสมในปีนี้กัน
อันที่จริงแล้ว ความยาวของคอนเทนต์เมื่อก่อนนั้นมันก็มีเหตุผลของมัน ในหนังสือ Hit Makers ของ Derek Thompson เขียนไว้ว่า เหตุผลที่เพลงในปัจจุบันมีความยาว 3 นาทีโดยประมโปาณ นั่นก็เป็นเพราะว่าแผ่นไวนิล ซึ่งใช้ในการบันทึกเสียง ณ ตอนนั้นสามารถบันทึกเสียงได้ประมาณ 3 นาที ซึ่งก็เปลี่ยนพฤติกรรมการเสพสื่อบันเทิงของคน แต่ Thompson บอกว่าสิ่งนั้นไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของคนแต่เปลี่ยน “ความคาดหวัง” (Expectation of A Good Content) มากกว่า ว่าคอนเทนต์ที่ดีนั้น ควรจะมีความยาวมากน้อยแค่ไหน เมื่อก่อนคนก็จ่ายเงิน เพื่อไปดูการแสดงดนตรีในโรงละครซึ่งก็นานอยู่ในหลักชั่วโมงเช่นกันก่อนที่อุตสาหกรรมเพลงจะย้ายมาที่การขายแผ่นเสียงและวิทยุ
ปัจจุบันเพลง Pop ยังคงมีความยาวอยู่ที่ 3 นาทีเช่นเดิม เนื่องจากความคาดหวังของคนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิม แม้ปัจจุบันเราจะสามารถ Stream เพลงฟังได้อย่างอิสระผ่าน Apple Music หรือ Spotify
ความคาดหวังต่างหากคือคำตอบ
ปัจจุบันแนวคิดเรื่อง Costumer Centric ถูกนำมาใช้ (แนวคิดที่ว่าทุกอย่างควรเป็นไปตามสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ) แต่เราจะพบว่าสิ่งที่ถูกกำหนดเวลานั้น เป็นสิ่งใหม่ และเกิดขึ้นในช่วงหลังทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสื่อที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่าง Vine ที่เป็นคอนเทนต์วิดีโอสั้น 6 วินาที ซึ่งก็สร้างความนิยมให้กับโลโซเชียลในตอนนั้นอย่างมาก หลังจากนั้นทุกคนก็เล่น Vine กันด้วยความคาดหวังว่า จะได้รับความสนุกและบันเทิงในช่วงเวลาเพียงแค่ 6 วินาที
ใน YouTube มีวิดีโอช่องหนึ่งชื่อว่า MinutePhysics ซึ่งเป็นรายการอธิบายหลักการฟิสิกส์แบบเข้าใจง่าย ๆ โดยใช้เวลาประมาณ 1 นาที ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ชมก็คาดหวังว่าพวกเขาจะได้รับหรือเข้าใจสิ่งที่หัวข้อบอกในเวลาเพียงแค่ 1 นาที
ดังนั้นพูดง่าย ๆ คือ จะสั้นหรือยาวมากน้อยแค่ไหนไม่สำคัญ มันสำคัญอยู่ที่ความคาดหวัง (Expectation) มากกว่า จากตัวอย่างก็พบมาจะสังเกตว่าจริง ๆ แล้วความพึงพอใจของความยาวนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวคนทำคอนเทนต์เลย แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมได้รับสิ่งที่เขาคาดหวังหรือเปล่า
เมื่อช่วง 2-3 ปีก่อน ในหมู่คนทำคอนเทนต์บทความหรือข่าว มีคำหนึ่งที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากคือคำว่า TLDR หรือ Too Long Did not Read หรือที่ในไทยแปลว่า ยาวไปไม่อ่าน ยาวไปไม่อ่านนี้เป็นกระแสที่ถูกนำมาใช้มาก ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยซึ่งเป็นชนชาติขี้แซะ (กันเอง) ก็จะนำมาใช้ร่วมกับประโยคเด็ดว่าคนไทยอ่านหนังสีอปีละ 8 บรรทัด ครั้งหนึ่งเคยถูกนำมาเป็นคำโปรโมทงานหนังสือด้วย แต่สุดท้ายแล้ว เราก็จะเห็นว่างานหนังสือคนเยอะทุกปี แล้วการเอาคำว่า คนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด ก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไร เพราะคนก็รู้อยู่แล้วว่าหนังสือมีความยาวแค่ไหน เป็นการตอกย้ำสิ่งที่บอกว่า ความสั้นหรือยาวของคอนเทนต์ หรือการใช้เวลาไปกับคอนเทนต์ของเรานั้นขึ้นอยู่กับความคาดหวังของผู้เสพคอนเทนต์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
กรณีตัวอย่าง
ทาง HubSpot บริษัทด้าน Digital Media ได้เคยออกมาแนะนำความยาวของวิดีโอที่เหมาะสมบนโซเชียลมีเดียตามนี้
- Instagram ควรมีความยาว 30 วินาที
- Twitter ควรมีความยาว 45 วินาที
- Facebook ควรมีความยาว1 นาที
- YouTube ควรมีความยาว 2 นาที
ตัวเลขเหล่านี้ อาจจะดูเหมือนมาจากสถิติ แต่จริง ๆ แล้ว HubSpot ได้สร้างตัวเลขเหล่านี้ขึ้นจากพฤติกรรมและความคาดหวังของคนมากกว่า เบื้องหลังแนวคิดนี้ก็คือ ยกตัวอย่าง Instagram ที่ HubSpot บอกว่าเป็น Social Media ที่คน Scroll เร็วที่สุด เนื่องจากเป็น Social Media ที่เน้นการแชร์รูปเป็นหลัก สิ่งที่คนคาดหวังบน Instagram คือสิ่งสวย ๆ งาม ๆ ดังนั้นการตอบโจทย์ผู้ใช้งานบน Instagram คือการสนองความคาดหวังนั้น ด้วยวิดีโอที่สั้นเพียงแค่ 45 วินาที
อีกตัวอย่างนึงที่น่าสนใจก็คือ YouTube ความยาว 2 นาทีนี้ไม่ใช่ความยาวที่จะทำให้ผู้ใช้เสพและดื่มด่ำไปกับคอนเทนต์ แค่คือความยาวที่ผู้ชมจะเกิดการ Discover ว่า เห้ย นี่แหละ คอนเทนต์ที่ฉันต้องการ ซึ่งสุดท้ายแล้ว HubSpot แนะนำว่าสุดท้ายให้เราทำวิดีโอแบบเจาะลึกในเรืองนั้นอีกทีในแบบ long-form หากพบว่าผู้ชมมีแนวโน้มที่จะสนใจเรื่องนี้มาก
เหตุผลก็พบว่าสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญบน YouTube เลยก็คือ คนเราค้นพบแชแนลใหม่ ๆ ที่น่าสนใจบน YouTube ได้ง่ายกว่า Platform อื่นมากนั่นเอง
ธรรมชาติของคอนเทนต์
ในบล็อกของ Neil Patel เขาได้ทำการวิเคราะห์บทความต่าง ๆ แล้วพบว่ารูปแบบของบทความที่มีความยาวมากที่สุดก็คือบทความในเชิง Self-improvement หรือการพัฒนาตัวเอง ที่มีความยาวเฉลี่ยอยู่ที่ 1,460 คำ ลองลงมาก็คือ Financial หรือบทความเกี่ยวกับการเงิน ซึ่งตรงนี้จะพบว่าไม่ขัดกับสามัญสำนึกเราเท่าไหร่ และแน่นอนว่าบทความที่มีความสั้นมากที่สุดก็คือข่าวหรือบทความเกี่ยวกับ Gaget ที่มีความยาวเพียงแค่ 181 คำโดยประมาณเท่านั้น
ทั้งนี้สิ่งที่จะบ่งบอกว่าคอนเทนต์นั้นมีความยาวมากน้อยแค่ไหนนอกจากรูปแบบคือการตั้งชื่อ เช่น มีคำว่า “สรุป” หรือ “เจาะลึก” ฉบับเต็ม ก็จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถตั้งความคาดหวังว่าคอนเทนต์นี้จะยาวแค่ไหน ที่เหลือก็ให้คุณภาพของงานเขียนเป็นตัวจัดการ
ดังนั้นเราจะพบว่าจริง ๆ แล้วสิ่งสำคัญที่จะตอบคำถามว่า คอนเทนต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ บทความ หรือการ Live นั้นควรจะยาวแค่ไหน คำตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำยาวแค่ไหนหรือมันควรยาวแค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมคาดหวังว่ามันจะนานแค่ไน และเมื่อนำสิ่งนี้ไปรวมกับความคาดหวังของสิ่งที่คนอ่านหวังว่าจะได้รับ เราก็จะสามารถสร้างประสบการณ์การชมคอนเทนต์ที่เหนือกว่าผู้อื่น และเป็นที่ประทับใจของผู้อ่านได้
คอนเทนต์นั้นคือการสร้างความพึงพอใจ และการสร้างความพึงพอใจนั้น ก็ต้องทำการศึกษาว่าสิ่งที่คนชมคอนเทนต์คาดหวังคืออะไร และทำการมองสิ่งที่เขาต้องการ นี่คือแก่นของการทำคอนเทนต์
อ้างอิง
หนังสือ Hit Makers : How Things Become Popular ของ Derek Thompson
How Long Should Your Blog Articles Be? (With Word Counts for Every Industry)
15 Best Practices for Facebook Live