อินสตาแกรมทดสอบตัวเลือกใหม่ ‘Creator Monetization’ เพื่อผลักดันการชอปปิงในเทศกาลวันหยุดสิ้นปีที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้ผ่านการทำงานร่วมกับแบรนด์
อันดับแรก อินสตาแกรมได้ทดสอบเรื่องข้อความ ‘Partnerships’ ที่มีการแยกส่วนออกมาอยู่ด้านบนสุดในกล่องข้อความ DM เพื่อให้พื้นที่ให้การติดต่อกับแบรนด์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้อความเหล่านั้นจะถูกกรองผ่านแพลตฟอร์ม Brand Collabs Manager ของเฟซบุ๊ก หรือตัวเลือกการค้นหาแบรนด์
ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แบรนด์ด้านการติดต่อกับครีเอเตอร์ พร้อมบอกรายละเอียดของครีเอเตอร์ทั้งจำนวนผู้ติดตาม ช่วงอายุ เพศ รวมถึงตำแหน่งที่อยู่ นั่นหมายความว่าแบรนด์ที่ติดต่อกับครีเอเตอร์ผ่านโฟลเดอร์ Partnerships จะต้องเจอกับนโยบายของ Partner Monetization ที่เพิ่มมาใหม่ใน Connection Tools
ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์เป็นไปได้ง่ายมากขึ้น ในขณะเดียวกันอินสตาแกรมก็ได้เพิ่มแท็บ Partnerships ที่สามารถปัดได้ใน DM แทนที่จะกดผ่านโฟลเดอร์ด้านบนสุดที่มีโฟลเดอร์ Primary, General และ Requests อยู่แล้ว
นอกจากนี้อินสตาแกรมได้ทดสอบตัวเลือก Digital Storefront หน้าร้านดิจิทัลสำหรับครีเอเตอร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Affiliate Program เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถโปรโมตผลิตภัณฑ์ของสปอนเซอร์ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้
โดยครีเอเตอร์จะสามารถสร้างร้านสำหรับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขารับรองแล้ว นับเป็นการเปิดเผยมากขึ้นสำหรับแบรนด์ และเป็นตัวเลือกส่วนแบ่งรายได้ที่มากขึ้นสำหรับครีเอเตอร์อีกด้วย ขณะนี้ยังคงทำการทดสอบกับครีเอเตอร์ที่อยู่ในสหรัฐฯ และเป็นส่วนหนึ่งของ Native Affiliate Program
สุดท้ายอินสตาแกรมได้เปิดตัวโฆษณา Branded Content บน Reels ที่ช่วยให้สามารถสร้างรายได้จากวิดีโอสั้น โดยจะมีเครื่องหมาย Sponsored แทนคำว่า Paid Partnership กำกับวิดีโอไว้ ที่จะช่วยเพิ่มให้แบรนด์สามารถบูสต์งานที่ทำร่วมกับครีเอเตอร์ได้ง่ายขึ้น
ที่มา : Social Media Today