เพจมุกการ์ตูนที่สร้างความแตกต่างด้วยเสียงเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านคาแร็กเตอร์ GOG GAG โดย ‘เปียว – เปรื่องวุฒิ นิกรกิตติโกศล’ ผู้สร้างสรรค์ผลงานผ่านลายเส้นตัวการ์ตูน พร้อมแต่งทำนองร้องเพลงเอง จนต่อยอดผลงานออกไปมากกว่าการทำเพจ ไม่ว่าจะเป็นการขยายเพลงสู่วงการ Music Streaming และการทำสติกเกอร์ไลน์ เป็นต้น
วันนี้ RAiNMaker จะพาทุกคนมารู้จักเปียวมากขึ้น ทั้งมุมมอง แนวคิด และวิธีการทำงานกว่าจะเป็นเพจ GOG GAG ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง
จุดเด่นของ GOG GAG
เปียวนำความชอบมาผสมผสานกัน ทั้งการ์ตูน เพลง และมุกตลก จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบของ GOG GAG นอกจากนี้เปียวยังเสริมว่าตนพยายามดูเทรนด์ใหม่ ๆ เพื่อปรับให้กลมกลืนความสนใจของคนในปัจจุบัน แต่ยังคงยึดความเป็นเพจการ์ตูนแก๊กที่มีเพลงติดหู และทุกคนสามารถเข้าถึง หรือมีส่วนร่วมได้อยู่
เทรนด์การทำคอนเทนต์ในอนาคต
ด้วยความที่ผู้คนมีเวลาบนแพลตฟอร์มน้อยลงเลยเสพคอนเทนต์ที่กระชับมากขึ้น จึงเกิดวิดีโอสั้นในหลายแพลตฟอร์ม อย่างเพจ GOG GAG เองก็เน้นความเป็นมุกการ์ตูนเพลงกระชับให้จบภายใน 1 นาที เพื่อให้สามารถสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นตามเทรนด์ปัจจุบันนั่นเอง
บทเรียนในฐานะครีเอเตอร์
เปียวย้ำกับเราว่าการปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ GOG GAG เองก็ได้ถือกำเนิดและอยู่บน Facebook เป็นหลักมาจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อเทรนด์วิดีโอสั้นเริ่มเป็นกระแสก็ต้องมีการปรับตัว เปียวจึงมีการปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ให้กระชับขึ้นบ้าง เพื่อสามารถกระจายคอนเทนต์สู่แพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย แต่ส่วนตัวเนื้อหาคอนเทนต์ก็ยังคงความเป็นมุกตลกตามสไตล์เพจ ในแง่ของคอนเทนต์จึงยังไม่มีการปรับเปลี่ยนไปสุดโต่งขนาดนั้น
ก้าวต่อไปของ GOG GAG
นอกจากวิดีโอเพลง เปียวเล่าว่าอยากทำอะไรหลากหลายมากขึ้น โดยการหาแนวทางคอนเทนต์ใหม่เพื่อให้ไม่จำเจ ในอนาคตอาจมีการทำเพลงแยกออกมา หรือทำ Live Action ที่ใช้คนจริงมาใส่หน้ากาก หรือไม่ก็ใส่ชุดมาสคอตไปคอลแล็บร่วมกับเพจอื่น ๆ เปียวเสริมเพิ่มเติมว่าหากมีโอกาสก็อยากลองทำไลฟ์ในเพจ เช่น จัดไลฟ์ร้องเพลง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับคนดูมากขึ้น
นอกจากนี้ สิ่งที่เปียวอยากขยับขยายเพิ่มเติมคือ Music Streaming โดยการเอาเพลงที่ทำในการ์ตูนไปต่อยอดเป็นเพลงเต็ม งานนี้เปียวกระซิบว่ามีเพลงจากในเพจมากถึง 100 เพลง ที่อาจถูกนำไปทำเป็นเวอร์ชันเต็ม หรือรวมอัลบัมเพลงยอดฮิตในอนาคตด้วย
ความยากง่ายในการร่วมงานกับแบรนด์
คอนเทนต์ที่ทำเองจะยากตรงที่ไม่มีโจทย์มากำหนดทิศทาง ทำให้ต้องคิดหนักในการหาไอเดียที่น่าสนใจมาต่อยอดผลงาน แต่ในส่วนคอนเทนต์ของแบรนด์ที่มีโจทย์มาคลุม บางทีกรอบนั้นมันก็ค่อนข้างแน่นเกินไปเลยทำให้การทำงานยากขึ้นกว่าเดิม โดยรวมแล้วเปียวบอกว่าทั้งสองอย่างมีความยากง่าบต่างกันไปคนละแบบ
สำหรับปัญหาการทำงานร่วมกับแบรนด์ที่เจอส่วนมาก ด้วยความที่ GOG GAG เป็นคอนเทนต์เพลง บางแบรนด์มีการคิดเนื้อเพลงมาให้เลย ความยากเลยมาตกอยู่ที่การนำทำนองและคำร้องมาใส่ เพื่อให้พอดีกัน เปียวกล่าวว่าหากมีการปรับเปลี่ยนก็จะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างน้อยกว่าการที่ทำเองทั้งหมดทุกกระบวนการ
เมื่อถามในเรื่องการตกลงในการทำงาน เปียวตอบว่าไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ เพียงแค่แนะนำว่าต้องคุยข้อตกลงกันให้ชัดเจนตั้งแต่เริ่ม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปแก้ไขภายหลังเยอะเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
สิ่งที่ GOG GAG อยากฝากถึงแบรนด์และเอเจนซี
เปียวบอกว่าสิ่งที่แน่นอนคือ ครีเอเตอร์ต้องคิดไอเดียที่เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องปรับแก้ หรือถูกเปลี่ยนไอเดีย ตนจะถนัดในการเขียนหรือเสนอไอเดียเพิ่มให้เองมากกว่าการแก้เป็นจุด ๆ ไป เนื่องจาก GOG GAG เน้นหลักเกี่ยวกับการทำเพลง การลำดับจังหวะ การใส่ทำนอง และเนื้อร้อง ซึ่งถือเป็นส่วนที่ค่อนข้างยากในการแก้ไข เช่นเดียวกันกับมุกการ์ตูนตลกที่มีการเรียงลำดับมาแล้ว
ส่วนในการทำงานกับแบรนด์ เปียวบอกว่าสิ่งที่ยากไม่ใช่ตัวสินค้า แต่เป็นบรีฟ เพราะถ้าในบรีฟมีคีย์เวิร์ดหรือสิ่งที่ทำให้เราเอ็นจอย ครีเอเตอร์ก็สามารถหาแนวทางทำคอนเทนต์ให้ออกมาสนุกได้ แต่ถ้าบรีฟกว้างเกินไปคีย์เวิร์ดไม่ชัดเจน ภาพที่ครีเอเตอร์เห็นก็จะไม่ชัดเจน จนทำให้ผลงานออกมาไม่ตรงตามที่ต้องการไปด้วย เปียวเสริมว่าอย่างคำว่า ‘อะไรก็ได้’ ของแบรนด์เป็นคำที่ทำให้ครีเอเตอร์ไม่แน่ใจในแนวทางของแบรนด์อย่างแน่ชัด และอาจทำให้สื่อสารออกมาไม่ตรงความต้องการได้ด้ีเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นควรบรีฟให้ครบถ้วน แต่ไม่ครอบไอเดียครีเอเตอร์เกินไปจะดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่เปียวฝากทิ้งท้ายถึงแบรนด์ในฐานะครีเอเตอร์คนหนึ่ง