YouTube ประกาศในงาน “Made on YouTube” เมื่อวันอังคาร (20 ก.ย.) ที่ผ่านมา ถึงเรื่องการเพิ่มโอกาสให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้มากขึ้น เพื่อยกระดับแพลตฟอร์มมาสู้กับ TikTok ทั้งอัปเดต YouTube Partner Program ให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากคอนเทนต์ได้มากขึ้น, เพิ่มการแบ่งรายได้จากโฆษณาบน Shorts และให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากการใช้เพลงยอดนิยม
ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา YouTube ได้จ่ายให้ครีเอเตอร์ ศิลปิน และบริษัทสื่อไปแล้วกว่า 50 พันล้านดอลลาร์ แต่ในตอนนี้ YouTube ได้เพิ่มแนวททางให้ครีเอเตอร์มาเป็นพาร์ตเนอร์ และสร้างรายได้จาก Shorts รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสในการร่วมมือระหว่างครีเอเตอร์และอุตสาหกรรมเพลงอีกด้วย
สำหรับ YouTube Partner Program ได้มีการอัปเดตให้ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตาม 1,000 คน, ยอด Watch Hours 4,000 วิวในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และมียอดวิวบน Shorts 10 ล้านวิวในช่วง 90 วัน มีโอกาสเข้าถึงสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
รวมถึงได้รับการสนับสนุน และสร้างรายได้ผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ ทั้ง Ads, YouTube Premium, Funds, Merchandise, Ticketing, YouTube BrandConnect, Super Chat, Super Stickers, Super Thanks และ channel memberships
ที่พิเศษไปกว่านั้นคือสามารถเข้าถึง YouTube Partner Program Fan Funding ที่มีฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น Super Chat, Super Stickers, Super Thanks และ channel memberships ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะตามมาในปีหน้า
และเนื่องจากเทรนด์วิดีโอสั้นกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง YouTube เองก็อยากผลักดันคอนเทนต์วิดีโอสั้น และเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จาก Shorts มากขึ้น จึงเพิ่ม Revenue Sharing บน Shorts เข้ามา โดยโฆษณาที่คั่นระหว่างคลิปจะถูกแบ่งรายได้เข้าครีเอเตอร์เจ้าของคลิปทุกเดือนด้วยถึง 45% นอกจากนี้ ยังครอบคลุมไปถึงการออกใบอนุญาตเพลงที่จะเริ่มในปีหน้าอีกด้วย
ส่วนครีเอเตอร์ที่เข้าร่วม Shorts Fund ก็จะได้รับเงินมากขึ้นภายใต้การปรับโมเดลใหม่ ซึ่งจะช่วยสร้างความยั่งยืนในระยะยาว แทนที่จะเป็นเงินทุนคงที่ ก็เพิ่ม Reveue Sharing เป็นสองเท่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้ครีเอเตอร์สามารถรับประโยชน์จากแพลตฟอร์มได้มากขึ้น
นอกจากนี้ YouTube ยังเปิดตัว Super Thanks for Shorts ในเวอร์ชันเบต้า โดยผู้ชมสามารถแสดงความขอบคุณกับครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบ และครีเอเตอร์ก็สามารถมีการตอบโต้กับแฟน ๆ ผ่าน Super Thanks และ YouTube ก็กำลังนำแบรนด์และครีเอเตอร์บน Shorts มารวมเป็นส่วนหนึ่งของ YouTube BrandConnect
ในด้านเพลง YouTube ก็พยายามหาทางเพื่อให้อุตสาหกรรมเพลงเชื่อมกับ Shorts ได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ ผ่านการใช้ Creator Music เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถเข้าถึงคลังเพลง และซื้อลิขสิทธิ์เพลงเพื่อการสร้างรายได้ในอนาคต โดยจะรักษา Revenue Share เดิมที่ได้ในวิดีโอที่ไม่มีเพลง
หรือสำหรับครีเอเตอร์ที่ไม่อยากซื้อลิขสิทธิ์ก็สามารถใช้เพลงและแชร์รายได้กับเจ้าของเพลงและผู้ถือสิทธิ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของครีเอเตอร์มากขึ้น โดยขณะนี้ Creator Music ยังออกมาแค่ในเวอร์ชันเบต้าในหสรัฐฯ และจะเปิดตัวยังประเทศต่าง ๆ ในปี 2023
ที่มา: YouTube Official Blog
