หลายคนที่เล่น TikTok คงคุ้นเคยกับดราม่า “โซอี้ กาเบรียล” สาวสิงคโปรวัย 17 ปี ชื่อผู้ใช้ @zohtaco บน TikTok กับประเด็นเรื่องกระเป๋าแบรนด์ “Charles & Keith” ไปเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เหตุเกิดจาก เมื่อวันที่ 8 มกราคม โซอี้ได้โพสต์คลิปที่คุณพ่อพาไปซื้อกระเป๋าแบรนด์ Charles & Keith ในราคา 80 ดอลลาร์สิงคโปร หรือประมาณ 2,000 บาท เป็นของขวัญ พร้อมกับแคปชันว่า “My First Luxury Bag” หรือ “กระเป๋าหรูใบแรกของฉัน” จนเกิดเป็นประเด็นถกเถียงของผู้คนบนโลกออนไลน์ว่าแบรนด์ดังกล่าวไม่ใช่แบรนด์หรูอย่างที่โซอี้เข้าใจ พร้อมหลายคอมเมนต์ที่ดูถูก และหัวเราะเยอะที่เธอคิดแบบนั้น
ถึงแม้จะมีความคิดเห็นด้านบวกที่ชื่นชมเธอกับคุณพ่อมากมาย แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความคิดเห็นด้านลบนั้นคงทำร้ายจิตใจเธอไม่น้อย จนโซอี้ออกมาโพสต์คลิปอีกครั้งทั้งน้ำตา พร้อมอธิบายว่าครอบครัวของฉันไม่ได้มีเงินมากมาย กระเป๋าใบละ 80 ดอลลาร์สำหรับเธอและครอบครัวก็ถือว่าหรูแล้ว รวมถึงตัวโซอี้เองก็รู้สึกซาบซึ้งที่คุณพ่อซื้อกระเป๋าให้
ยิ่งทำให้ชาวเน็ตชื่นชมที่โซอี้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดี แถมยังชื่นชมคุณพ่อที่เลี้ยงดูให้เธอเติบโตมามีทัศนคติที่ดีแบบนี้ รวมถึงฝั่งแบรนด์ Charles & Keith ที่พอทราบเรื่องก็ออกมาแจ้งทันทีว่า
“เราส่งใจถึงโซอี้ตั้งแต่ตอนที่เห็นวิดีโอและคอมเมนต์ ต้องไม่มีพื้นที่สำหรับการบูลลี่ ไม่ว่าจะบนออนไลน์หรือออฟไลน์ แต่เราประทับใจกับความนุ่มนวล และความถ่อมตัวในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอแสดงให้เห็นวุฒิภาวะ และคุณค่าที่สะท้อนแบรนด์ของเราได้เป็นอย่างดี” พร้อมทั้งแบรนด์ยังชวนโซอี้และคุณพ่อ ไปรับประทานอาหารกับผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่สำนักงานใหญ่ในสิงคโปรอีกด้วย
จนล่าสุด ผ่านมา 2 เดือน ทางแบรนด์ Charles & Keith ก็ได้ชวนโซอี้มาร่วมเป็น Brand Community Ambassador พร้อมเป็นนางแบบถ่ายภาพเฉลิมฉลองแคมเปญ “วันสตรีสากล (International Women’s Day)” ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี โดยภาพโปรโมตของโซอี้ได้ถูกเผยแพร่ไปทุกช่องทางของแบรนด์
ตัวอย่างแคมเปญ: https://www.instagram.com/p/CpXi6XkMBtB/
งานนี้เรียกว่า แบรนด์พลิกดราม่าให้เป็นโอกาสได้ดีเลยทีเดียว เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมในบทสนทนาที่มีการกล่าวถึงแบรนด์โดยตรงเช่นนี้ นอกจากแบรนด์จะได้พื้นที่แล้ว ยังแสดงให้เห็นการสนับสนุนโซอี้ให้สถานการณ์จบแบบ Happy Ending แถมยังแสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่ ตอบแทนลูกค้า และแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับการบูลลี่อีกด้วย
เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน ซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหวในสังคม และเป็นเรื่องส่วนตัว หากแบรนด์เลือกจะเข้าไปเพียงเพื่อหวังให้ตัวเองมีชื่ออยู่ในบทสนทนา หรือต้องการให้สังคมเห็นการเคลื่อนไหวเฉย ๆ โดยไม่คิดให้ดีก่อน ก็อาจทำให้คนคิดได้ว่าสิ่งที่ทำไปไม่มีความจริงใจ และหวังผลประโยชน์อย่างเดียวก็เป็นได้
แต่ในกรณีนี้แบรนด์ Charles & Keith เลือกที่จะสนับสนุนและยืนข้างโซอี้ เพื่อแสดงความถูกต้อง และตอบแทนเธอในฐานะลูกค้าคนหนึ่ง จนจับมือทำการตลาดเกิดเป็นแคมเปญที่สะท้อนประเด็นสังคม และความเท่าเทียมอย่างวันสตรีสากล เหมือนกับเส้นทางของแบรนด์เองที่เริ่มต้นมาจากแบรนด์ท้องถิ่น จนพัฒนาเติบโตเป็นแบรนด์ชั้นนำได้นั่นเอง