“ทำ Marketing บน Social Media แบบไหนถึงจะปัง?”
หลายคนคงมีคำถามนี้อยู่ในหัว ทั้งที่เริ่มโพสต์คอนเทนต์ก็แล้ว ทำตามเทรนด์ก็แล้ว แต่ทำไมแบรนด์ หรือช่องของตัวเองก็ยังดูทำไม่ถึงเป้าที่ต้องการซักที? นั่นอาจเป็นเพราะว่าบางครั้งเราโฟกัสผิดจุด มัวแต่ทำตามเทรนด์ที่คนอื่นทำกัน จนลืมไปว่าแต่ละคนมีวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย และจุดยืนของตัวเองที่ต่างกัน
ทำให้เราต้องประยุกต์กลยุทธ์ที่มีเข้ากับสไตล์ของตัวเอง พร้อมนำเทรนด์ต่าง ๆ มาผสมผสานจนเกิดเป็นคอนเทนต์น้ำดีบน Social Media ได้ วันนี้ RAiNMaker เลยนำเทคนิคที่เป็นไกด์ไลน์ในการวางกลยุทธ์ในการทำ Social Media Marketing มาให้ทุกคนเช็กลิสต์ และนำไปใช้กันถึง 7 ข้อด้วยกัน ทำตาม 7C ด้านล่างนี้รับรองว่า “ทำถึงแน่นอน!”
Community
ถ้าอยากให้ Performance ของแต่ละคอนเทนต์ออกมาดี ก็ต้องเริ่มต้นจากก้าวแรกที่ดีก่อน เราคงไม่สามารถทำคอนเทนต์ไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ชอบอะไร หรือต้องการอะไรจากเรา เพราะหากเราไม่รู้ข้อมูลพื้นฐานเหล่านั้น ก็จะทำให้เราทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงไม่ได้ รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ตอบตามวัตถุประสงค์ของเราอีกต่างหาก
เพราะฉะนั้นอันดับแรกต้องหาว่ากลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) ของเราคือใครกันแน่ โดยสามารถเริ่มจากการมองภาพและตั้งเป้าหมายว่าอยากจะให้กลุ่มเป้าหมายของเรามีลักษณะประมาณไหน เมื่อร่างกลุ่มเป้าหมายเป็นรูปเป็นร่างได้มากขึ้นแล้ว ก็เริ่มทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายอยากละเอียดว่าเขามี Action ต่อเรายังไง ต้องการอะไรจากเรา รวมถึงชอบคอนเทนต์ประเภทไหน เพื่อที่เราจะได้สร้างคอนเทนต์ได้โดนใจ และเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายจนสามารถต่อยอดเป็น Community ได้
Content
เพื่อให้การทำ Social Media Marketing ได้ผลลัพธ์ที่ดี การวางกลยุทธ์สำหรับ Search Engine ที่เรามักทำกับคอนเทนต์บนเว็บไซต์ ก็ใช้ได้กับ Social Media เช่นเดียวกัน เพราะปัจจุบันคนมักจะเสิร์ชบน Social Media มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เคยค้นหาในชีวิตประจำวันบน Search Engine เพราะฉะนั้นการทำให้คอนเทนต์เข้าถึง หรือเสิร์ชเจอง่ายที่สุดจึงเป็นเรื่องที่ควรคำนึงอันดับแรก ๆ
ทั้งการใช้คีย์เวิร์ด, Visual ประกอบคอนเทนต์ที่สะดุดตา เช่น ภาพ หรือวิดีโอ, การใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง หรือการตั้งท็อปปิกที่น่าสนใจจนคนต้องหยุดอ่าน นอกจากนี้ ก็ควรใส่ความเป็นเอกลักษร์ของตัวเองเข้าไปคอนเทนต์เพื่อแสดงถึงความเป็นแบรนด์นั่นเอง
Curation
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ‘Content Curation’ หรือประเภทคอนเทนต์ที่แชร์มาจากแหล่งอื่น โดยที่เราไม่ได้เป็นคนผลิตคอนเทนต์นั้นเอง อ่านถึงตรงนี้อาจจะเริ่มงงนิดหน่อยว่า แล้วคอนเทนต์คนอื่นเกี่ยวอะไรกับเรา? ก็เพราะว่าการที่เรารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งกับตัวเราและกลุ่มเป้าหมายจากแหล่งอื่นมาแชร์ จะช่วยสร้าง Brand Awareness ให้เรา, สร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างความสัมพันธ์กับสื่ออื่น ๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย
สมมติว่าเราทำช่องสนับสนุน LGBTIQA+ ก็อาจแชร์คอนเทนต์ที่มีความเกี่ยวข้อง เช่น เหตุการณ์ #สุขุมวิท11 เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือเป็นกระบอกเสียงในการกระจายข่าวสารก็ได้ รวมถึงการแชร์คอนเทนต์จากแหล่งอื่นมายังช่วยทำให้ Social Media ของเรามีคอนเทนต์ที่ดูหลากหลายมากขึ้น
Creation
แล้วก็มาถึงหัวใจสำคัญของการทำ Social Media Marketing นั่นก็คือการสร้างคอนเทนต์เพื่อแสดงความเป็นตัวตน และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการที่ทำอยู่ หากสามารถเจาะลึกเฉพาะไปเลยได้ยิ่งดี
นอกจากนี้ คอนเทนต์ที่โพสต์ก็ควรมีหลากหลาย Format ทั้งข้อความ, ภาพ และวิดีโอ ผสมกันไปตามความเหมาะสม เพื่อให้มีความหลากหลาย และครอบคลุมพฤติกรรมการเสพสื่อของกลุ่มเป้าหมายได้ดี เพียงแค่อย่าลืมโฟกัสสไตล์คอนเทนต์ที่เป็นภาพจำแบรนด์มากที่สุดก็พอ ส่วนการโพสต์คอนเทนต์ก็ควรจะคำนึงถึงหลากหลายแพลตฟอร์มเช่นกัน อาจไม่ต้องเข้าไปอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม แต่ควรมีแพลตฟอร์มรองเพื่อเป็นตัวเสริมแพลตฟอร์มหลักบ้าง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ มากขึ้น
Connection
อีกหนึ่งพาร์ตสำคัญในการทำ Social Media Marketing ก็คือการสร้าง Connection หรือการเชื่อมต่อระหว่างกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่การสร้าง Community ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเราสามารถสร้าง Engagement กับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมให้ร่วมสนุก, จัดโปรโมชันสินค้า หรือเพิ่มเซสชันถาม-ตอบบน Social Media เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้น
รวมถึงต้องทำความเข้าใจ Audience Persona แบบเห็นภาพละเอียดว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นคนยังไง เพื่อที่จะได้หาจุดเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายผ่านคอนเทนต์ได้ดีที่สุด จุดนี้อาจใช้การรีวิว หรือฟีดแบ็กต่าง ๆ จากกลุ่มเป้าหมายมาพัฒนาเพื่อให้เข้าใจพวกเขามากขึ้นด้วยก็ได้
Conversation
การเริ่มบทสนทนากับกลุ่มเป้าหมายเริ่มกลายเป็นสิ่งสำคัญบน Social Media ไปแล้ว เนื่องจากบทสนทนาจะเป็นตัวช่วยจุดประกายให้เกิดยอด Engagement ทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามามีส่วนร่วมกับเรามากขึ้น โดยการสร้างบทสนทนาสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ตั้งโพสต์คำถาม, ตั้ง Poll สำรวจให้เข้ามาโหวต หรือสร้าง Engagement โพสต์ที่ให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้ามาแชร์ประสบการณ์ตัวเอง เป็นต้น
เมื่อเรามีการเปิดบทสนทนามากขึ้น กลุ่มเป้าหมายก็จะรู้สึกใกล้ชิดกับเรา และกล้าที่จะพูดคุย หรือแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ให้เราได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีในการเก็บรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อนำไปพัฒนาคอนเทนต์ดี ๆ เพื่อโพสต์ลง Social Media นั่นเอง
Conversion
ด่านสุดท้ายของ Social Media Journey นั่นก็คือการสร้างยอด Conversion แน่นอนว่าการทำคอนเทนต์และโปรโมตผ่าน Social Media ส่วนมากเราก็ต้องมีจุดประสงค์ให้คนเกิด Action อะไรบางอย่างกับแบรนด์ของเราอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคลิกเข้าชมเว็บไซต์, กดสมัครสมาชิก หรือกดซื้อสินค้า
เพราะฉะนั้นขั้นตอนนี้ก็อยู่ที่การนำกลยุทธ์ 6 ข้อที่ผ่านมา ร่วมกับการทำ Call to Action ให้ชัดเจน และไม่ลืมที่จะใส่ไปในทุกคอนเทนต์ เพื่อชวนให้กลุ่มเป้าหมายเกิด Action ในการมีส่วนร่วมต่าง ๆ กับเรา ซึ่งจะนำไปสู่ยอดเข้าชมเว็บไซต์, ยอดสมัคร หรือยอดขาย
จบกันไปแล้วกับกลยุทธ์ 7C ที่ไว้ใช้ไกด์สำหรับการทำ Social Media Marketing ใครที่กำลังสับสน หรือหลงทางอยู่ ก็ลองนำ 7 ข้อนี้ ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับแบรนด์ของตัวเองดู รับรองว่าถ้าจับถูกจุดทำคอนเทนต์บน Social Media ได้ปังแน่นอน!
ที่มา: Adnorml