จากเดิมที่ Meta มีเครื่องมือ Generative AI สำหรับเจนภาพพื้นหลังของสินค้าสำหรับโปรโมตเพื่อโฆษณา ครั้งนี้ Meta GenAI จะมีความแอดวานซ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Image generation, Text generation และ Text overlay and image generation ก็จะมาช่วยทำให้การสร้างโฆษณาบน Facebook เป็นเรื่องง่ายขึ้น
ซึ่งทั้ง 3 ฟีเจอร์ของ Meta นับว่าเป็น “full image variations” ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และอัปเกรดโฆษณารูปแบบเดิม ๆ ของแบรนด์ และธุรกิจต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น
- Image generation: ฟีเจอร์ที่ไม่ได้เปลี่ยนแค่พื้นหลังของสินค้าให้น่าสนใจ แต่ยังสามารถป้อนพรอมพ์ และเจนออกมาเป็นรูปภาพสินค้าตามที่ต้องการได้ทั้งภาพ หรือจะเรียกว่าทำให้จินตนาการเกิดขึ้นจริงก็ว่าได้
- Text generation: ฟีเจอร์คิดก็อปปี้ภาพสินค้าที่สามารถเปลี่ยนก็อปปี้ หรือแคปชันเดิมให้น่าดึงดูดมากขึ้น โดยสามารถพิมพ์ข้อความได้ที่ช่อง “Primary text” และ “Headline” ได้เลย จากนั้น AI ก็จะเจนออกมารวมกันเป็นแคปชันให้ทันที
- Text overlay and image generation: ฟีเจอร์ที่ช่วยใส่ข้อความเพื่อโปรโมตสินค้าในภาพ โดยจะเป็นลักษณะ Text overlay ที่ขยับได้ พร้อมฟอนต์หลายรูปแบบให้เลือก
เรียกได้ว่าทั้ง 3 ฟีเจอร์นี้สามารถเป็นตัวช่วยการสร้างโฆษณาได้ครบ และจบในที่เดียวเสมือนกับ Creative Assets ของ Meta ที่สามารถทำการกด Across Post ไปยังหน้าฟีดของ Facebook และ Instagram ได้ด้วย
นอกจากนี้ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นฟีเจอร์ Text generation สามารถสะท้อนถึงน้ำเสียง และมู้ดโทนของการพูดเหมือนเวลาที่คนพิมพ์ได้มากขึ้น จากการตรวจจับ Brand’s voice and Tone ได้เพื่อเป็นจุดขายหลัดให้แบรนด์มีคาแรกเตอร์ และดูเข้าถึงง่ายมากขึ้นแม้โฆษณานั้นจะถูกสร้างจากการเจนผ่าน AI ก็ตาม
โดย Meta จะใช้ Meta Llama 3 หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของตัวเองในการวิเคราะห์ด้วย ซึ่งโดยหลักแล้วทั้ง 3 ฟีเจอร์ของ Meta GenAI จะสามารถใช้ได้กับข้อความ และโฆษณาที่เป็นภาษาอังกฤษก่อนเท่านั้นในตอนนี้ ซึ่งอาจจะมีให้ใช้งานได้แบบหลายภาษาทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้ด้วย