หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Fan-Made มาบ้าง ไม่ว่าจะในวงการ Fandom ของไอดอลศิลปิน หรือวงการเกม ที่มักจะมีกลุ่มแฟนคลับนำ Original Content มาสร้างสรรค์เป็นผลงานของตัวเอง แต่ในปัจจุบันอีกหนึ่งวงการที่มี Fandom แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ คงหนีไม่พ้นวงการครีเอเตอร์ ที่ทุกวันนี้หลายคนมุ่งสร้างคอมมูนิตี้ให้แข็งแรงเพื่อครองฐานคนดูในแต่ละแพลตฟอร์ม
สังเกตได้จากหลายคนที่สามารถสร้างฐานแฟนคลับจากการรวมตัวกลุ่มคนที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน จนกลายเป็นคอมมูนิตี้ที่เหนียวแน่น ยกตัวอย่างเช่น FAROSE, ยกกำลัง หรือ HEARTROCKER ที่มีคอมมูนิตี้ที่สามารถต่อยอดจากคอนเทนต์สู่สิ่งที่เหนือกว่าอย่างงานอีเวนต์ และอีกหนึ่งสิ่งที่ตามมาจากคอมมูนิตี้นั่นก็คือคอนเทนต์จากเหล่าแฟนคลับ หรือที่เรียกว่า Fan-Made Content นั่นเอง
Fan-Made Content คืออะไร?
Fan-Made Content คือ คอนเทนต์ที่ผลิตโดยกลุ่มแฟนคลับ ซึ่งเกิดจาก Fandom Culture โดยเกิดจากความชอบในสิ่งนั้น และมีการนำบางส่วนของ Original Content มานำเสนอเป็นคอนเทนต์ พร้อมกับต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ในแบบของตัวเองเพิ่มเข้าไปด้วย เช่น การทำวิดีโอ Reaction, ภาพวาดแฟนอาร์ต, การเล่าหรือวิเคราะห์เรื่องราวในมุมของแฟนคลับ หรือการทำ Meme หรือ Parody ล้อเลียนต้นฉบับ เป็นต้น
ซึ่ง Fan-Made Content ถือเป็นการแสดงการซัพพอร์ตต่อครีเอเตอร์ที่เราชื่นชอบ แถมยังเป็นพื้นที่ให้แฟนคลับได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ และแลกเปลี่ยนกับคนในคอมมูนิตี้ เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้รับสารในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเป็นผู้รับสารฝ่ายเดียว แต่สามารถลุกขึ้นมาเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้เช่นกัน ที่น่าสนใจคือ บางครั้ง Fan-Made Content ก็ไวรัลมากกว่าต้นฉบับซะอีก
อ้างอิงจากผลการรายงานของ The Washington Post พบว่า คนดูยุคใหม่ โดยเฉพาะ Gen-Z ไม่ได้ดูแค่ Original Content เท่านั้น แต่ยังดู Fan-Made Content ร่วมด้วย ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการซัพพอร์ตคอมมูนิตี้ที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน รวมถึงคน Gen-Z ส่วนใหญ่ผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์เพราะ Fandom Culture เนื่องจากเมื่อได้เสพคอนเทนต์หรือครีเอเตอร์ที่ชอบแล้ว พวกเขาก็จุดประกายความคิดอยากจะทำคอนเทนต์ Fan-Made ขึ้นมาบ้าง
นอกจากนี้ ผลการรายงานยังชี้ว่า 65% ของคน Gen-Z บนแต่ละแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนิยามตัวเองว่าเป็น Video Creator ทั้ง Short-form และ Long-form (จากผลการสำรวจคน Gen-Z ในสหรัฐฯ ทั้งหมด 350 คน)
รวมถึง 47% ของคน Gen-Z บอกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งใน Fandom บนโลกออนไลน์ที่ไม่มีคนรอบตัวในชีวิตจริงอยู่ในคอมมูนิตี้เดียวกัน และ 80% ของคนอายุระหว่าง 14-44 ปี บอกว่าพวกเขาเป็นแฟนคลับของครีเอเตอร์บางคน และดูคอนเทนต์ของพวกเขาอย่างน้อยทุกสัปดาห์บน YouTube
นอกจากนี้ อีก 8% ยังบอกว่าพวกเขาเป็น Professional Fans หรือคนที่สามารถสร้างรายได้จากการทำ Fan-Made Content ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนที่เป็นแฟนคลับนั้นนอกจากจะซัพพอร์ตครีเอเตอร์และคอมมูนิตี้แล้ว ยังสามารถเป็นคนที่สร้างคอนเทนต์เองได้อีกด้วย
ข้อดีของการทำ Fan-Made Content
- สนับสนุนการมีส่วนร่วมระหว่างครีเอเตอร์และแฟนคลับ เพื่อเสริมสร้างความเหนียวแน่นของคอมมูนิตี้
- เปิดโอกาสให้คนดูได้สลับบทบาทขึ้นมาเป็นผู้สร้างสรรค์ และเพิ่มพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ให้ทุกคนในคอมมูนิตี้
- ช่วยขยายฐานคอมมูนิตี้ให้กลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ จากคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น
ข้อแนะนำในการทำ Fan-Made Content
- ระวังเรื่องลิขสิทธิ์ในการนำ Original Content ไปใช้งานต่อ เนื่องจากต้องดูว่าสามารถนำตัวคอนเทนต์ต้นฉบับมาใช้ได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงสามารถดัดแปลงได้อย่างไรบ้าง
- ในกรณีที่ทำคอนเทนต์ประเภทวิเคราะห์หรือวิจารณ์ อาจต้องระวังเรื่องการพูดที่อาจส่งผลกระทบกับเจ้าของคอนเทนต์ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
- หากทำคอนเทนต์ Parody อาจต้องระวังเรื่องการดัดแปลงจนสร้างความเข้าใจผิดได้
สุดท้ายนี้เนื่องจาก Fan-Made Content เป็นคอนเทนต์ที่สร้างโดยเหล่าแฟนคลับ จึงทำให้เนื้อหาคอนเทนต์ค่อนข้างมีความอิสระ และได้โชว์ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ข้อดีก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง และการมีส่วนร่วมในคอมมูนิตี้ แต่ข้อควรระวังก็มีเช่นกัน
เพราะฉะนั้นหากใครคิดจะทำ Fan-Made Content แนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลในเรื่องที่จะทำให้ดีก่อน และทำคอนเทนต์บนพื้นฐานความถูกต้องทั้งในแง่ของกฎหมาย กฎของแพลตฟอร์ม และกฎของคอมมูนิตี้ เพื่อที่จะได้มีแต่คอนเทนต์สร้างสรรค์ที่ไม่ก่อผลกระทบกับทุกฝ่ายนั่นเอง
อ้างอิง: Mashable