AI

Avatar

doyoumind December 25, 2024

AI Trends Update! แชร์สถิติการใช้งาน AI ปี 2024 จาก Hootsuite

นับเป็นปีที่ AI รุ่งเรืองแบบฉุดไม่อยู่ เพราะตลอดทั้งปีก็มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ทำงานด้วย AI ออกมาเสิร์ฟให้ผู้ใช้งานไม่ขาดสาย จน AI กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ครองโลกดิจิทัลและเทคโนโลยีเลยทีเดียว รวมถึงหลายองค์กรก็เริ่มนำ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยในการทำงานบางส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลงาน อีกทั้งยังช่วยประหยัดคนและเวลาอีกด้วย จึงเป็นที่น่าจับต่อมองว่าอนาคตของ AI จะเป็นอย่างไรต่อไป

วันนี้ RAiNMaker ได้หยิบบทความบางส่วนเรื่อง AI Trend จากรายงาน ‘Social Trends 2024’ ของ Hootsuite ที่สรุปภาพรวมของการใช้งาน AI และมุมมองของผู้ใช้แต่ละ Gen มาฝากทุกคนกัน โดยรายงานฉบับนี้มาจากการสำรวจนักตลาดจำนวน 4,281 คน และผู้บริโภคจำนวนอีก 4,508 คน รวมถึงมีการเก็บข้อมูลและข่าวสารบทโซเชียลมีเดียอีกกว่า 15,500 บทความ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ และการใช้งาน AI

ไม่ว่าคุณจะเป็นแบรนด์ พนักงานบริษัท ครีเอเตอร์ หรือผู้ใช้งานทั่วไป บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้ข้อมูลเบื้องต้นที่เกี่ยวกับเทรนด์ของ AI เพื่อนำไปปรับใช้กับงาน และคอนเทนต์ได้อย่างเหมาะสมแน่นอน

เทรนด์การใช้ AI ในมุมองค์กรและผู้บริโภค

ด้วยความเป็นยุคทองของ AI ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายคนต้องเปลี่ยนตัวเองในการหันมาใช้ AI มากขึ้น เช่นเดียวกับองค์กรที่เลือก AI เข้ามาช่วยทำงานแทนในบางส่วน นอกจากเหตุผลที่ต้องการตามเทรนด์โลกให้ทันแล้ว ยังเป็นเพราะความสามารถของ AI ที่มนุษย์สู้ไม่ได้ในบางเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การประมวลผลข้อมูลมหาศาล หรือการสร้างภาพจินตนาการให้เกิดขึ้นจริงในเวลาไม่กี่นาที

แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีกระแสต่อต้าน AI เนื่องจากความไม่ชัดเจนในเรื่องของลิขสิทธิ์ ที่เครื่องมือ AI บางตัวก็ยังคงนำภาพบนโลกออนไลน์มาเทรนโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งคนบางกลุ่มยังมองว่าการใช้ AI ถือเป็นการดูถูกมนุษย์ที่มีความสร้างสรรค์ ส่งผลให้บางองค์กรหรือแบรนด์ต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่าง ‘ความมีประสิทธิภาพ’ และ ‘ความจริงใจ’

อย่างไรก็ตาม ผู้คนยังให้ความสนใจใน AI อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2023 โดยมีท็อปปิกที่พูดถึง AI เพิ่มขึ้นถึง 550% เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับการใช้งาน AI อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

61% ขององค์กรเลือกใช้ AI เพื่อลดจำนวนงานบางส่วนของพนักงาน อีกทั้งยังวางแผนเพิ่มการใช้ AI มากขึ้นเป็น 2 เท่าในอนาคต โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับการเขียนบทความ ปรับแต่งภาพ หรืองานด้านการบริการลูกค้า และ 62% ของผู้บริโภคไม่เชื่อในคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI ด้วยเหตุผลหลัก 2 ข้อดังนี้

  • 66% คิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะระบุข้อเท็จจริงของข้อมูลที่ได้จาก AI
  • 67% คิดว่ายากในการแยกภาพจริงและภาพที่สร้างโดย AI

ซึ่งตรงกับผลการวิจัยจาก Paw Research เกี่ยวกับการใช้งาน AI ที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวันว่า

  • 45% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ รู้สึกกังวลและตื่นเต้นกับ AI ในระดับเท่า ๆ กัน
  • 37% รู้สึกกังวลมากกว่าตื่นเต้น
  • มีเพียง 18% เท่านั้นที่รู้สึกตื่นเต้นมากกว่ากังวล

เรียกได้ว่า ยังมีผู้ใช้บางส่วนที่ไม่เปิดใจยอมรับเนื้อหาที่สร้างโดย AI เท่าที่ควร เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะข้อมูลว่าเป็นจริงหรือสร้างโดย AI โดยเฉพาะคน Gen X และ Baby Boomers กลับกันคน Gen Z มีแนวโน้มที่จะแยกแยะได้ดีกว่าคนรุ่นอื่น และเปิดรับเนื้อหาที่สร้างโดย AI มากกว่า หากไม่ผิดต่อลิขสิทธิ์

จึงเป็นสาเหตุให้ หลายองค์กรและแบรนด์ต้องก้าวผ่านความเชื่อเดิม ๆ ว่า’ความจริงใจ (Authenticity)’ เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันหลายองค์กรและแบรนด์ได้ให้ความสำคัญกับ Brand Experience มากกว่ายึดติดว่าคน หรือ AI’ เป็นผู้สร้างคอนเทนต์

Top 8 งานที่คนใช้ AI เป็นตัวช่วย

  • 86% แก้ไขและเรียบเรียงข้อความ
  • 85% สร้างโฆษณาที่เป็นข้อความ
  • 82% ช่วยคิดต่อยอดไอเดีย
  • 75% Revise และ Rewrite ข้อความ
  • 59% สร้างข้อความสำหรับ Consumer Support
  • 54% แก้ไขรูปภาพ
  • 52% Generate รูปภาพ
  • 46% Chatbot AI ช่วยตอบข้อความ

จากภาพรวมสถิติพบว่า องค์กรหันมาใช้ Chatbot AI เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมากที่สุด โดยปีก่อนมีการใช้ Chatbot AI เพียง 11% เท่านั้น แต่ในปีนี้องค์กรมีการใช้ Chatbot เพิ่มขึ้นเป็น 46% คิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 318% เลยทีเดียว

ในส่วนของการใช้ AI ในการแก้ไขภาพก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจาก 15% เป็น 54% คิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 260% เลยทีเดียว รองลงมาคือการใช้ AI ในการสร้างข้อความเพื่อช่วยในด้าน Customer Support ที่เพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 59% คิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น 195%

ส่วนองค์กรที่ใช้ Generative AI ในการ Generate ภาพจากเดิมอยู่ที่ 22% เพิ่มเป็น 52% คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้น 136% และที่น่าสนใจคือองค์กรหันมาใช้ AI เพื่อช่วย Revise และ Rewrite ข้อความมากขึ้นถึง 103% จากเดิมปีก่อนอยู่ที่ 37% และปีนี้ขึ้นมาเป็น 75%

มุมมองต่อ AI ในแต่ละ Gen

“ไม่ค่อยมีเอนเกจกับคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI”

  • Gen Z 20%
  • Millenials 22%
  • Gen X 28%
  • Baby Boomers 33%

“ไม่ค่อยเชื่อคอนเทนต์ที่เขียนโดย AI”

  • Gen Z 21%
  • Millenials 22%
  • Gen X 27%
  • Baby Boomers 33%

“ไม่สามารถแยกภาพจริงและภาพที่สร้างโดย AI ได้”

  • Gen Z 17%
  • Millenials 19%
  • Gen X 22%
  • Baby Boomers 21%

“ไม่สามารถระบุได้ว่าข้อมูลจาก AI เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน”

  • Gen Z 14%
  • Millenials 15%
  • Gen X 20%
  • Baby Boomers 19%

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าคนวัย Baby Boomers และ Gen X ส่วนมากไม่ค่อยเชื่อในคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI รวมถึงไม่สามารถแยกแยะระหว่างคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI และคอนเทนต์ที่สร้างโดยมนุษย์ได้ดีมากนัก เมื่อเทียบกับคน Gen Z และ Millenials ที่เปิดรับ และคุ้นชินกับการใช้ AI ทำคอนเทนต์มากกว่า

แชร์เคล็ดลับใช้งาน AI

  • ทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐาน และความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายต่อ AI
  • แบ่งงานที่ให้คนทำ และ AI ทำอย่างชัดเจน
  • ตั้ง AI Policy เป็นไกด์ไลน์ในการใช้งานอย่างเหมาะสม

สุดท้ายปัญหาหลักในการใช้ AI กับงานของเรา นอกจากเรื่องลิขสิทธิ์แล้ว ยังคงเป็นเรื่องของการเปิดรับ และความเชื่อใจของผู้บริโภคอยู่ดี ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเราให้ดี เพื่อนำ AI ไปปรับใช้ในการทำคอนเทนต์สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงต้องมีการวางนโนบาย และแบ่งขอบเขตงานในส่วนที่ให้ AI และคนทำอย่างชัดเจน

ที่มา: Hootsuite

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save