ตอนนี้ X ได้ประกาศใช้นโยบายใหม่ของฟีเจอร์บล็อกอย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้ใช้ที่ตั้งโพสต์เป็นสาธารณะ แล้วมีการใช้ฟีเจอร์บล็อกจะยังเห็นโพสต์ของคนที่เราบล็อกได้อยู่ เช่นเดียวกับผู้ถูกบล็อกก็สามารถเห็นโพสต์ของเราได้เช่นกัน แต่จะไม่สามารถมีการโต้ตอบ เช่น การ Mention และ การ DM ได้
ซึ่งในขณะนี้หากผู้ใช้เข้าแอปพลิเคชัน X จะมีข้อความ Pop-Up ขึ้นมาในหน้าแรก และการแจ้งเตือนล่าสุดว่า ‘Block is changing soon: If your posts are set to public, accounts you have blocked will be able to view them, but they will not be able to engage. For more control over who can see your posts, you can still protect your account.’
ซึ่ง X ได้อธิบายการเปลี่ยนโยบายของฟีเจอร์นี้ว่า ปัจจุบันการบล็อกมีหน้าที่เพื่อใช้ซ่อนข้อมูลที่เป็นอันตราย หรือข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นจากผู้ถูกบล็อก แต่ X มีแนวคิดว่า การบล็อกจะทำให้ไม่เห็นโพสต์ของผู้ถูกบล็อกที่อาจจะโพสต์ถึงเราในทางไม่ดี และเราจะไม่สามารถกดรายงานได้
ถึงแม้ว่า X จะให้เหตุผลการเปลี่ยนแปลงนโยบายของฟีเจอร์นี้ แต่ก็มีผู้ใช้หลายคนไม่เห็นด้วย และรู้สึกว่ามันเป็นการละเมิดการใช้ฟีเจอร์บล็อก เนื่องจากเมื่อเราบล็อกใคร นั่นหมายความว่าเราไม่อยากเห็นผู้ถูกบล็อก และไม่อยากให้ผู้ถูกบล็อกเห็นโพสต์ของเราอยู่แล้ว เพราะไม่เกิดการโต้ตอบซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้ถูกบล็อกไม่สามารถมาคุกคามเราได้อีกต่อไป
รวมถึงการเปลี่ยนนโยบายฟีเจอร์บล็อกของ X ในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อกำหนด และเงื่อนไขบน App Store รวมถึง Play Store ที่มีเงื่อนไขระบุว่า แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียต้องอนุญาตให้ผู้ใช้มีตัวกรองข้อมูล หรือการกระทำที่อันตรายบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ ได้
นอกจากนี้ผู้ใช้ X ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นด้วยกับนโยบายใหม่ แม้ X และ Elon Musk พยายามที่จะให้เหตุผลต่าง ๆ ซึ่งเราจะต้องรอดูความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนโยบายนี้จากทาง X และ Elon Musk ต่อไป โดยจากข้อมูลพบว่าในตอนนี้ Elon Musk เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกบล็อกมากที่สุดในแอปพลิเคชัน X เป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย
ที่มา: https://www.socialmediatoday.com/news/x-formerly-twitter-dilutes-the-power-of-blocking/730113/