ในปีนี้ไม่ได้มีแค่คอนเทนต์บนโลกโซเชียลเท่านั้นที่กลายเป็นไวรัลได้ แต่คอนเทนต์ในโลกโฆษณาไทยก็ได้รับการยอมรับไปถึงต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งวันนี้คอนเทนต์ซีรีส์ RAiNMaker’s Content of The Year 2024 ในหมวด Advertising หรือสุดยอดโฆษณาประจำปี จะมาแชร์ให้รู้กันว่าท่ามกลางไวรัลที่มาเร็ว และไปเร็ว คอนเทนต์แบบไหนในโลกโฆษณาที่ยังคงยั่งยืน และมีส่วนร่วมกับใจของคนดูในปีนี้บ้าง
เมื่อปี 2023 นับเป็นปีที่โฆษณาทั้งแบบออนไลน์ และ Out of Home โดดเด่นคู่ขนานกัน เพราะการโปรโมตโฆษณาไม่ได้มีแค่แคมเปญจากแบรนด์เท่านั้น แต่แพลตฟอร์มสตรีมมิง หรือการจัดอีเวนต์ก็สามารถสร้างงานโปรโมตที่ดีได้
แต่ในปี 2024 โฆษณาของประเทศไทยที่เห็นพ้องต้องกันในสายตาของงานเวทีครีเอทีฟโฆษณาระดับโลกอย่าง ‘Cannes Lions’ ก็มาพร้อมกับเรื่องราวที่ถ่ายทอดความจริงในใจจากแบรนด์ และการเป็นกระบอกเสียงให้กับประเด็นสังคม หรือสร้างเสียงหัวเราะให้กับมุกเสียดสีที่ตลก แต่เป็นเรื่องจริงได้
ซึ่งวันนี้ RAiNMaker ก็ได้รวบรวม 3 สุดยอดโฆษณาที่สมกับตำแหน่ง Advertising of The Tear 2024 พร้อมคว้ารางวัลจากเวที Cannes Lions มาให้แล้ว
Sammakorn Not Sanpakorn
- Brand: สัมมากร
- Agency: Choojai and Friends
- Production: Phenomena
- Cannes Lions: Gold – Film (Use of Humour)
โฆษณาที่เล่าด้วยความเหมือนแต่แตกต่างระหว่าง “สัมมากร” และ “สรรพากร” ที่คนไทยส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด และเรียก 2 คำนี้เหมือนกัน กลายเป็น pain point ที่แบรนด์บ้านสัมมากรเจอมาตลอด ว่าลูกค้าไม่เคยเข้าใจชื่อนี้ถูกเลยสักครั้ง และสับสนกับกรมสรรพากรมาโดยตลอด
จนกระทั่ง pain point นี้ถูกนำมาตีแผ่ให้ผู้ชมได้รู้จักสัมมากรมากขึ้นบนเวที Canne Lions ว่าไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับสรรพากรเลยสักนิด พร้อมการเล่าเรื่องที่พยายามย้ำเตือนให้ผู้ชมท่องไว้จำขึ้นใจไปพร้อมกับพนักงานขายบ้านที่สัมมากร ว่าที่นี่คือสัมมากรไม่ใช่สรรพากร
โดยเรื่องราวนี้เริ่มจากการมีพนักงานเป็นผู้เล่า และผู้ที่รู้สึก หรือถูกกระทำโดยตรง ว่าต่อให้จะพยายามขายความเป็นแบรนด์ขนาดไหน แต่สุดท้ายก็จบที่ความเข้าใจไม่ตรงกันเหมือนเดิม จนทำให้อยากลาออกหลังจากทุ่มเทเพื่อย้ำชื่อแบรนด์นี้มานาน และตัดสินใจไปบอกให้หัวหน้าเปลี่ยนชื่อแบรนด์
แต่แน่นอนว่ามันคงทำได้ไม่ง่ายขนาดนั้น นอกจากเพิ่มคำนำหน้าเป็น “บ้านสัมมากร” แทน และจบที่ยังมีคนเข้าใจว่าเป็นสรรพากรอยู่ จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายของพนักงานคนนี้ขาดผึง! โฆษณานี้ก็พร้อมที่จะเป็นที่ระบายให้กับพนักงานได้ย้ำอย่างชาวร็อกอีกครั้งว่า “ที่นี่คือสัม-มา-กร!!!!!!”
สามารถรับชมโฆษณาแบบเต็มได้ที่นี่: https://www.youtube.com/watch?v=95TfaJRJHNs
What The Fast
- Brand: Krungsri First Choice
- Agency: Leo Burnett Thailand
- Production: Factory01
- Cannes Lions: Gold – Film (Micro Film)
เมื่อความเร็วไม่ใช่แค่เรื่องของปีศาจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของโฆษณา ‘Krungsri First Choice’ ที่เน้นการเล่าเรื่องแบบเร็ว ๆ ตามอินไซต์แบบคนชีวิตดี ๆ ที่ลงตัวในกรุงเทพ นำมอเตอร์ไซค์เป็นตัวเชื่อมระหว่างคาแรกเตอร์ของตัวละครได้อย่างลงตัว
พร้อม Represent ถึงความเร็วในการอนุมัติไวของ Krungsri First Choice กับความเร็วของมอเตอร์ไซค์ ที่เป็น ‘First choic’ ในการเดินทางของคนกรุงเทพ จนทำให้เป็นโฆษณาที่สั้น และเร็วที่สุด แต่ความแข็งแรงของเส้นเรื่อง
รวมถึงการนำเสนอจุดเด่นของแบรนด์ยังคงอยู่ เพราะเรื่องราวต่อจากนี้เกิด และจบบนมอเตอร์ไซค์เท่านั้ ซึ่งเป็นความครีเอทีฟที่กลั่นมาจากอินไซต์คนกรุงเทพอย่างแท้จริง
โดยแต่ละคาแรกเตอร์จะมีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นของตัวเอง เพื่อล้อไปกับความเร็วเหมือนบัตร First Choice อนุมัติ ไม่ว่าจะเป็นการง้อแฟน, ขอพ่อไปเที่ยวทะเลกับแฟน หรือบอกความในใจเจ้านายก็เร็ววววว! ได้
สามารถรับชมโฆษณาแบบเต็มได้ที่นี่: https://youtu.be/ed8TLp5Oy4s
Let Her Grow
- Brand: Dove
- Agency: Edelman Bangkok
- Production: UNDERDOC FILM Bangkok
- Cannes Lions: Silver – Creative Strategy (Consumer Goods)
เรื่องทรงผมกับนักเรียนไทยนับว่ามมากว่า 50 ปี และไม่เคยถูกเปลี่ยนแปลงไปเลย เพราะถูกมองว่าเป็นเรื่องของกฏระเบียบ และความเรียบร้อยที่ทุกคนต้องยอมทำตามให้เหมือนกัน แต่สำหรับนักเรียนหลายคนก็รู้สึกว่าผม เปรียบเสมือนตัวแทนของความมั่นใจ เพราะต้องอยู่กับมันไปตลอด ทำให้การถูกตัดผมก็เหมือนถูกตัดตัวตนไปด้วย
และเมื่อเด็กเหล่านั้นที่อยู่ในกรอบของกฏระเบียบเดียวกันเติบโตขึ้นมา สิ่งแรกที่จะเปลี่ยนแปลงก็คือทรงผม เพราะรู้สึกได้รับอิสระ และเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น โฆษณาเรื่องนี้ของ Dove จึงนำเสนอแบบทำถึงทั้งประเด็นเรื่องทรงผมของนักเรียนไทย และการ ‘Express Your Self’ ในแบบของตัวเองควบคู่ไปด้วย
ซึ่งแม้โฆษณาเรื่องนี้จะมีมา 2 ปีแล้ว แต่ข้อความที่แบรนด์อยากจะสื่อสารในฐานะกระบอกเสียงให้เด็กไทยได้รับความมั่นใจจากทรงผมคืนมายังคงสร้างอิมแพคได้เสมอจนถึงทุกวันนี้ เพราะแม้ประเทศไทยจะมีการผ่อนกฏเรื่องทรงผมในโรงเรียนแล้ว
แต่คนไทย 7 ใน 10 คนเชื่ออยู่ว่าการบังคับตัดผมยังคงมีอยู่ในโรงเรียนอีกหลายแห่ง ทำให้แคมเปญนี้นอกจากจะได้กระแสตอบรับดีในแง่การนำเสนอข้อความนี้แทนเด็กนักเรียนไทยแล้ว ยังเป็นแคมเปญที่สร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกคนร่วมกับโดฟ เพื่อหยุดกฏการตัดผม เพื่อทุกคนได้ด้วย
สามารถรับชมโฆษณาแบบเต็มได้ที่นี่: https://youtu.be/ufhfU-ZmEQI
บทสรุปของโฆษณาทั้ง 3 เรื่อง เมื่อมองในภาพรวมแล้วสิ่งที่มีเหมือนกันก็คงจะเป็น ‘ความกล้า’ ทั้งกล้าที่จะบอกความในใจ กล้าที่จะเล่น และกล้าที่จะเปลี่ยน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่จะได้รางวัลการันตีจากเวทีครีเอทีฟโฆษณาระดับโลกอย่าง Cannes Lions มาครอง
แต่ไม่ได้มีโฆษณาไทยเพียง 3 เรื่องเท่านั้นที่ได้รับรางวัลจาก Cannes Lions เพราะยังมีทั้ง
- The Boxer | Silver : Film Craft (Editing)
- Under My Skin | Bronze : Film (Social Behaviour & Cultural Insight)
- Not Very Sweet | Bronze : Film (Use of Humour)
- Sabina Braless | Bronze : Film (Use of Humour)
- Go For Launch | Bronze : Film (Challenger Brand)
ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโฆษณาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก และอารมณ์ที่คนดูสามารถมีส่วนร่วมได้ ไม่ว่าจะทั้งประสบการณ์ ความเข้าใจ ความสนุก หรือความเห็นอกเห็นใจกับเพื่อนมนุษย์มากขึ้นก็ตาม แสดงให้เห็นว่างานที่ดีต้องมีเรื่องที่อยากเล่า และเรื่องที่อยากเล่าก็ควรเป็น Message ที่สื่อสารไปถึงใจของคนดูได้
นี่เป็นเพียงแค่ 1 ใน 10 หมวดจาก RAinMaker’s Content of The Year 2024 เท่านั้น สามารถติดตามสุดยอดคอนเทนต์ประจำปีได้ที่เพจ RAiNMaker เลย!
#RAiNMakerContentoftheYear2024