ก่อนหน้านี้ BuzzFeed ได้ประกาศมาทำ BuzzFeed News ซึ่งเป็นการอัพแบรนด์ของตัวเองจากการที่ BuzzFeed ถูกมองว่าเป็นเว็บข่าวไวรัล ไม่จริงจังให้กลายมาเป็นสำนักข่าวจริง ๆ เวลาผ่านไป BuzzFeed News นั้นก็ได้รับการพูดถึงและการยอมรับมากพอสมควร และถูกนำไปพูดถึงร่วมกับสำนักข่าวอื่น ๆ เช่น New York Times หรือ Bloomberg รวมถึงได้ถูกนำไปจัดอันดับในเรื่องความน่าเชื่อถือใน Bias Chart แม้จะเอนไปทางฝั่งซ้ายหน่อย แต่ก็อยู่ในกลุ่มที่รายงานความจริง และได้รับการยอมรับมาก
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า แม้ BuzzFeed จะสามารถเข้ามามีบทบาทในการทำข่าวจริงจังได้แล้ว แต่ New York Times ก็ยังรายงานและเรียกส่วน BuzzFeed News ว่าเป็น “a money-losing division of the company” หรือแผนกขาดทุนของบริษัท นำมาซึ่งการประกาศปลดพนักงานมากกว่า 15% ของบริษัททั้งหมด ซึ่ง ณ ตอนนี้ BuzzFeed มีพนักงานอยู่ประมาณ 1,500 คน รวมทั้งหมดตั้งแต่บรรณาธิการ นักเขียน ฝ่าย Creative และดูแลลูกค้าต่าง ๆ จำนวนพนักงานที่ BuzzFeed ปลดไป จะอยู่ที่ประมาณ 200 คน
รายงานของ New York Times บอกว่า บอร์ดบริหารของ BuzzFeed มีความเห็นตรงกันว่า BuzzFeed ควรเริ่มต้นทำกำไรได้แล้ว การปลดพนักงานในครั้งนี้ก็เป็นเพื่อการนำไปสู่การได้กำไรในที่สุดหลังจากที่ยังพึ่งพาเงินจากนักลงทุนอยู่ ซึ่งได้รับการลงทุนมากถึง 500 ล้านเหรียญ นับว่าเยอะมากสำหรับการทำ Online Publishing
BuzzFeed นั้นเริ่มต้นเป็นธุรกิจจริงจังตั้งแต่ปี 2011 โดยได้เงินจากการทำการตลาดโดยเฉพาะการโฆษณาบนเว็บไซต์ และเรียกคนเข้าชมส่วนมากมาจาก Social media ต่าง ๆ นั่นทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กรณีการปรับอัลกอริทึมของ Facebook BuzzFeed กลายเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด และมียอดผู้เข้าเว็บลดลงอย่างมาก เมื่อปีที่ผ่านมา BuzzFeed ก็ได้เริ่มปรับแนวทางจากการลงคอนเทนต์ไวรัล มาเป็นข่าวในทาง Journalism มากขึ้น ซึ่งผลตอบรับก็ดีพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ก็อาจจะตามที่นักลงทุนว่า ว่า BuzzFeed ควรมาหันกำไรอย่างจริงจังได้แล้ว Jonah Peretti ผู้ก่อตั้ง BuzzFeed ก็บอกว่า สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับการลดต้นทุนและช่วยให้ BuzzFeed กลายเป็นผู้ชนะในตลาดของ digital media อย่างไม่มีข้อสงสัย