ปกติแล้วหนึ่งในวิธีการหารายได้ของ Publisher ก็คือการสร้าง Pay Wall ขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงานได้เคยนำเรื่องราวของ Wired ที่ใช้การลองผิดลองถูกจนสุดท้ายมียอดผู้ใช้งานแบบสมัครรับข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่หลังจากนั้น อีกหนึ่งวิธีการลองผิดลองถูกที่ Wired เลือกใช้ก็คือการให้ Sponsor ไม่ใช่แค่โฆษณาธรรมดาหรือโฆษณาแบบ Advertroial ในแบบที่เราคุ้นชินกัน แต่ให้มาจ่ายค่า Pay Wall ให้กับผู้อ่านแทน
ซึ่งวิธีการแบบนี้อธิบายง่าย ๆ เลยก็คือปกติแล้ว Wired จะมีโควต้าให้ผู้ใช้ทั่วไป (ที่ไม่ได้สมัครรับข้อมูล) อ่านบทความได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น เช่น 3 บทความ 5 บทความ ต่ออาทิตย์ แต่สิ่งที่ Wired ทำในครั้งนี้คือการให้ WeTransfer มาจ่ายค่า Pay Wall ให้กับบทความบทความนึง แล้วบอกว่าที่ได้อ่านเป็นเพราะว่า WeTransfer เป็นคนสนับสนุนคอนเทนต์ตัวนี้
ปกติแล้ววิธีแบบนี้เราะจะพบเห็นกันได้บ่อยกับคอนเทนต์ที่เป็นรูปแบบวิดีโอโดยเฉพาะวิดีโอแบบให้ความรู้บน YouTube ที่จะมีการพูดว่าคอนเทนต์นี้สนับสนุนโดยใคร แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องมาเกี่ยวข้องกับเนื้อหาโดยตรงเหมือนรูปแบบของ Advertorial ซึ่งเป็นการแทรกเนื้อหาหรือ Message ของแบรนด์ลงมาในตัวคอนเทนต์ด้วย (อธิบายง่าย ๆ ก็คือการ Tie-in) แต่สิ่งที่ Wired ทำนั้นคือการบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าแบรนด์มาสนับสนุน
แล้วถามว่าวิธีนี้ต่างจากการวาง Banner โฆษณาอย่างไร อันนี้จะต่างตรงที่ว่าคนอ่านไม่รู้สึกว่า Banner โฆษณานั้นเป็นส่วนเกิน คือแน่นอนว่าคนเข้ามาก็อยากจะอ่านเนื้อหาไม่ได้ดูโฆษณา และต่อให้รู้ว่าเว็บไซต์ต้องอยู่ได้ด้วยโฆษณา สิ่งนี้อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่า แบรนด์สนับสนุนคนอ่านไม่ใช่สนับสนุน Publisher (แต่จริง ๆ ก็คือได้ทั้งสองฝ่าย) ซึ่ง Wired เรียกการกระทำแบบนี้ว่าเป็นเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ก็คือคนอ่านก็ได้อ่านในสิ่งที่ต้องการ และทางแบรนด์เองก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในพฤติกรรมการอ่านของคน แถมยังได้บอก Message ที่ตัวเองต้องการจะสื่อ (อย่างกรณีนี้ก็จะบอกว่า WeTransfer คืออะไร) แถมเป็นการแยกรูปแบบการหาเงินอย่างชัดเจนระหว่างคนที่สมัครรับข้อมูลอยู่แล้วกับคนที่ยังไม่ได้สมัคร
ความน่าสนใจของวิธีการนี้อยู่ตรงที่ว่า เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่ได้ถูกอธิบายอย่างชัดเจนว่าวิธีการนี้เรียกว่าอะไร เหมือนกับ Advertorial, Subscription หรือโมเดลอื่น ๆ แต่เป็นการเอาข้อดีของการหารายได้แต่ละรูปแบบมาผสมกันโดยคิดถึงผลที่ได้เป็นหลัก
ซึ่งการกระทำแบบนี้ได้ถูกนำมาบอกเล่าโดยเว็บไซต์ Digiday เพราะก่อนหน้านี้ Wired เคยบอกว่าตัวเองนั้น มียอดการสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 300% หลังจากที่ลองผิดลองถูกต่าง ๆ ซึ่งการกระทำของ Wired ก็นับว่ามีความน่าสนใจและพอจะเป็นไอเดียให้เราไปคิดโมเดลการหารายได้โดยที่ไม่ยึดติดกับวิธีการเดิม ๆ