ท่ามกลางการแข่งขันของตลาด E-commerce ที่ดุเดือด อีกหนึ่งสิ่งที่กลายเป็นอาวุธติดมือของทุกแบรนด์ในยุคนี้คงหนีไม่พ้นการทำ ‘Affiliate Marketing’ การตลาดที่เปิดโอกาสให้แบรนด์และครีเอเตอร์ร่วมงานกันแบบ Win-win โดยแบรนด์จะมอบส่วนแบ่งค่าคอมมิชชันให้ครีเอเตอร์ที่ทำคอนเทนต์จนสร้างยอดขายได้ เพื่อเป็นค่าตอบแทน หรือ Marketing Fee นั่นเอง
จากเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่คำว่า Affiliate Marketing ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ตอนนี้ Affiliate Marketing กลับกลายเป็นกลยุทธ์การตลาดที่หลายแบรนด์เลือกใช้จนขึ้นแท่นเป็นเทรนด์ฮิตประจำปี 2024 ในแวดวง E-commerce และคาดว่าจะยังเป็นเทรนด์ที่ทรงพลังต่อในปี 2025 อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งยังมีผลการสำรวจครีเอเตอร์ใน iCreator Camp 2024 จาก Thai Media Lab ที่พบว่าช่องทางการสร้างรายได้ที่ได้ของครีเอเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 3 คือการทำ Affiliate Marketing ถือเป็นการตอกย้ำเทรนด์การสร้างรายได้แบบใหม่สำหรับครีเอเตอร์เลยก็ว่าได้
ซึ่ง Affiliate Marketing เป็นการผนวกพลังระหว่าง Content และ Commerce เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์สำหรับขายของโดยเฉพาะ ยิ่งครีเอเตอร์ผลิตคอนเทนต์ออกมามีคุณภาพมากเท่าไหร่ ก็มีแนวโน้มที่จะทำยอดขายได้สูง และได้ค่าคอมมิชชันสูงตามไปด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นผลดีกับทุกฝ่าย รวมถึงผู้บริโภคที่ได้เปิดรับคอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้าในมุมมองใหม่ ๆ อีกด้วย
และค่าคอมมิชชันนี่แหละ ที่เป็นตัวดึงดูด รวมถึงกระตุ้นให้ครีเอเตอร์แข่งขันกันสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาให้ดีที่สุด เพื่อพิชิตค่าคอมมิชชัน หลายแบรนด์จึงเห็นโอกาสในการดันยอดขายผ่านการทำ Affiliate Marketing มากขึ้น จนสุดท้าย Affiliate Marketing ก็ได้แทรกซึมเข้าไปในทุกธุรกิจตั้งแต่สินค้าขนาดเล็ก ไปจนถึงสินค้าขนาดใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า, ขนม, สกินแคร์ หรือสินค้าชิ้นใหญ่อย่างอสังหาฯ ที่มูลค่าสูงจนคาดไม่ถึงว่าจะนำมาทำ Affiliate Marketing ได้ โดยแบรนด์ชั้นนำด้านอสังหาฯ ระดับประเทศทั้ง Supalai, Sansiri และ Sammakorn ก็ได้เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์มาเข้าร่วมในโปรแกรม Affiliate ไปแล้ว
ถือเป็นโอกาสใหม่ในการทำ Affiliate Marketing สำหรับแบรนด์อสังหาฯ ที่ปรับให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางของแบรนด์อย่างเดียว สู่การหาข้อมูลรีวิวจากเหล่าครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ แถมยังซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ตามรีวิวมากขึ้น
ส่งผลให้เกิดการทำกลยุทธ์และโปรโมตขายสินค้าบนช่องทางออนไลน์ จนต่อยอดมาเป็นการทำ Affiliate Marketing และในปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์อสังหาฯ เริ่มทำ ไม่ว่าจะเป็น Supalai Affiliate, Sansiri Affiliate Program และสัมมากร เป็นต้น
สรุปภาพรวมสถิติ Affiliate Marketing ในปี 2024
- Affiliate Marketing เติบโตราวขึ้น 10% ทุกปี
- การทำ Affiliate Marketing ทั่วโลกมีมูลค่า 17 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะโตขึ้นถึง 27.78 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2027
- 81% ของแบรนด์ทำ Affiliate Marketing เพื่อสร้าง Brand Awareness และดันยอดขาย
- 38% ของผู้บริโภคเชื่อใจครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่แปะลิงก์ Affiliate มากกว่าคนทั่วไป
- แบรนด์ใหญ่ 5-25% ได้ยอดขายออนไลน์มาจากการทำ Affiliate Marketing
- 1 ใน 3 ของครีเอเตอร์ยกให้การทำ Affiliate Marketing เป็นหนึ่งในช่องทางหลักในการสร้างรายได้
- 60% ของครีเอเตอร์ต้องการทำ Affliate Marketing กับแบรนด์ในระยะยาว
- 40% ของครีเอเตอร์ที่ทำ Affiliate Marketing เลือกสินค้าในอุตสาหกรรมความงามและแฟชันมากที่สุด
แนวโน้มเทรนด์ Affiliate Marketing ในปี 2025
- AI Integration: การประยุกต์เครื่องมือ AI มาใช้ในการสร้างกลยุทธ์เพื่อใช้กับ Affiliate Marketing ทั้งในเชิงการเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงใช้ AI ในการช่วย Personalized คอนเทนต์ได้ด้วย
- Mobile-friendly: ทำคอนเทนต์ให้เหมาะกับการดูบนโทรศัพท์ เนื่องจาก 62% ของยอด Conversion มาจากผู้ใช้งานผ่านโทรศัพท์
- Influencer Collaboration: แบรนด์เลือกคอลแลบระหว่างแบรนด์กับ Nano-influencers และ Micro-influencers มากขึ้น เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์ช่วยทั้งสร้างเอนเกจเมนต์และความเชื่อใจของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี คาดว่าในปี 2026 แบรนด์จะคอลแลบกับ Micro-influencers เพิ่มขึ้นราว 25% ในทุกปี ซึ่งจำนวนครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่มากขึ้นนี้ ส่งผลให้แบรนด์มีโอกาสและตัวเลือกในการคอลแลบมากขึ้นตามไปด้วย
- Results-driven Strategy: แบรนด์เริ่มมองหาวิธีในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลละเอียดมากขึ้น จนกลายเป็นกลยุทธ์ Results-driven ที่แบรนด์โฟกัสที่ผลลัพธ์ เพื่อหาครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ให้ตรงความต้องการมากขึ้น
- Content Diversification: ควรสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้หลากหลายขึ้น เพราะคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่ม Conversion และสร้างความเชื่อใจให้ผู้บริโภคได้ดีกว่า อีกทั้งปัจจุบัน Customer Journey หรือระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคยิ่งสั้นลงเรื่อย ๆ คอนเทนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้คนเข้ามามีส่วนร่วม
- Niche Down: บางตลาดอย่างสายสุขภาพ และความงามมีการแข่งขันสูง แนะนำให้มองหาการตลาดใหม่ที่มีความเฉพาะกลุ่มมากขึ้น และการแข่งขันน้อย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตในวงการ Affiliate Marketing
2026 Predictions
คาดว่าการทำ Video Content จะเติบโตขึ้น 20% และการทำ Affiliate Marketing ของสินค้าและบริการที่เป็นโมเดล Subscription มีแนวโน้มโตขึ้น 20% รวมถึง 30% ของผู้บริโภคจะให้ความสนใจแบรนด์ที่ทำ Affiliate Marketing แบบยั่งยืนและคำนึงถึงจริยธรรม
ทริกทำ Affiliate Marketing ให้ยอดขายปัง
Brand’s Part
- สร้างความโดดเด่นและลูกเล่นของสินค้าให้น่าสนใจ
- แบ่งค่าคอมมิชชันในสัดส่วนที่น่าดึงดูด
- โปรโมตแคมเปญ Affiliate ผ่าน Social Media
- เลือกคอลแลบกับครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ในการทำ Affiliate Marketing ในระยะยาว
- เตรียมเครื่องมือเก็บข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ Performance ของครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค
Creator’s Part
- เลือกสินค้าที่ชอบและมีประสบการณ์ร่วม รวมถึงค่าคอมมิชชันที่เหมาะสม
- ใช้เครื่องมือ AI ช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ตามเทรนด์
- เน้นสร้าง Video Content มากขึ้น เนื่องจากการทำ Affiliate Marketing ผ่านคอนเทนต์วิดีโอจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
- ทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้เสิร์ชเจอคอนเทนต์ง่ายขึ้น
- หาแพลตฟอร์มและช่องทางใหม่ ๆ ในการทำ Affiliate Marketing
6 ช่องทางทำ Affiliate Marketing บนแต่ละแพลตฟอร์ม
TikTok Shop
แพลตฟอร์มผู้นำเทรนด์ Shoppertainment และผู้บุกเบิกเทรนด์การปักตะกร้า ที่เปิดโอกาสให้ร้านค้าและแบรนด์นำสินค้าเข้าร่วมแคมเปญ ผ่านการตั้งค่าคอมมิชชันให้ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์หยิบสินค้าไปติดตะกร้าเพื่อทำยอดขายและรับส่วนแบ่ง ปัจจุบัน TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนทำ Affiliate มากที่สุดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้เทรนด์วิดีโอสั้นในวงการ Affiliate Marketing มาแรงอีกด้วย
Meta
เมื่อไม่นานมานี้ Meta ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้แปะลิงก์ Affiliate บน Facebook และ Instagram ทั้ง Reels, วิดีโอ, ภาพ และ Text Post รวมถึง Meta ยังปรับการแสดง Affiliate Link เป็นแบนเนอร์เชิญชวนให้คนกดลิงก์อีกด้วย ปัจจุบันยังต้องใช้ Affiliate Link จาก Shopee เท่านั้น รวมถึงยังเปิดให้ครีเอเตอร์บางกลุ่มใช้ได้ก่อน และคาดว่าจะเปิดให้ทุกคนใช้ได้ในเร็ว ๆ นี้
YouTube Shopping
หลังจากที่ YouTube จับมือ Shopee เปิดโปรแกรม YouTube Shopping Affiliate ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะนี่ถือเป็นอีกช่องทางใหม่สำหรับแบรนด์และครีเอเตอร์ในการสร้างรายได้บนแพลตฟอร์มขณะที่ผู้บริโภครับชมวิดีโอครบจบบนแอป โดยผู้ใช้สามารถแปะลิงก์บนคลิปวิดีโอทั้งวิดีโอยาวปกติและ Shorts
LINE Shopping
ก่อนหน้านี้ LINE ได้เพิ่มฟีเจอร์ป้ายยาให้ผู้ใช้แชร์ลิงก์เพื่อรับค่าตอบแทนเป็น LINE POINTS และล่าสุดยังมี LINE Ads Affiliate หรือ Affiliate Program ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานรับค่าคอมมิชชันจากการเชิญชวนเจ้าของธุรกิจมาสร้างโฆษณาบน LINE Ads พร้อมรับส่วนแบ่งสูงสุดถึง 15%
Shopee & Lazada
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในไทยที่เปิดโปรแกรม Affiliate ทั้ง Shopee Affiliate ที่ให้ค่าคอมมิชชันสูงสุด 60% พร้อมโบนัสต่อเดือน และ LazAffiliates ที่ให้ค่าคอมมิชชันสูงสุดถึง 80% โดยวิธีการของทั้งสองแพลตฟอร์มนั้นเหมือนกัน คือ เปิดโอกาสให้แบรนด์และร้านค้าตั้งค่าคอมมิชชันของสินค้า เพื่อให้ครีเอเตอร์นำลิงก์ไปโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อทำยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, X หรือ LINE เป็นต้น
เรียกว่าทุกแพลตฟอร์มมุ่งหน้าเข้าสู่ Affiliate Marketing อย่างแท้จริง เห็นได้จากตัวเลขสถิติต่าง ๆ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ คาดว่าหลังจากนี้คงมีทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์อีกไม่น้อยที่ก้าวเข้ามาในวงการ และทำให้มีการแข่งขันที่สูงขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม วันนี้ RAiNMaker ได้สรุปสถิติและแนวโน้มเทรนด์ Affiliate Marketing มาฝากทุกคนแล้ว หวังว่าทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์จะนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดที่มีอยู่ หรือใครที่ยังไม่เริ่มต้องบอกเลยว่าเริ่มด่วน! เพราะนี่แหละคือโอกาสทองในการดันยอดขายได้ดีที่สุดในยุคนี้เลยล่ะ!
อ้างอิง: AuthorityHacker, wecantrack, LinkedIn