ใครหลายคนที่เป็นแอดมินดูแลโซเชียลมีเดียหลาย ๆ ที่ตั้งแต่ Facebook, Twitter, IG อาจจะต้องเหนื่อยกับการ active บัญชีทั้งหมดให้มีความเคลื่อนไหว แน่นอนว่าคนที่ติดตามเราคงไม่อยากเห็นบัญชีร้าง ทำให้เราต้องมีการลงอะไรบางอย่าง หรือมีการเคลื่อนไหวที่สม่ำเสมอ นั่นทำให้หลายคนเลือกใช้เครื่องมือแนว ๆ automation tools เข้ามาในการทำให้บัญชีมีการเคลื่อนไหวอยู่อย่างสม่ำเสมอ
เครื่องมือ automation อย่างที่ว่าก็เช่น การทวีตอัตโนมัติ การกดไลค์ การไป reply ต่าง ๆ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือการใช้ bot นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม Social Media ยังคงเป็นพื้นที่ที่ผู้ดูแล หรือ Admin ควรจะเป็น “คน” แม้ว่าอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก แต่ทาง Twitter ก็ได้อัพเดทสิ่งที่เรียกว่า Automation and the use of multiple accounts เป็นการบอกกฏข้อปฏิบัติบน Twitter โฟกัสไปที่เรื่องของการใช้โปรแกรมช่วยเล่น
ช่วงปีที่ผ่านมา Twitter ได้ปรับการเข้าถึงในส่วนของ API ของ Twitter ทำให้โปรแกรมหลาย ๆ โปรแกรมเช่น Tweetbot ต้องเสียฟีเจอร์บางส่วนไป สิ่งนี้นับเป็นหนึ่งในความต้องการของ Twitter ที่ต้องการให้การเล่น Twitter นั้นเป็นธรรมชาติที่สุด
Automation ที่ผิดกฏของ Twitter
ในประกาศ Automation and the use of multiple accounts นั้น Twitter ได้พูดถึงกฏคร่าว ๆ บอกถึงการกระทำที่ผิด และเข้าข่ายการเป็น Spam ว่า
- ห้ามทวีตเหมือนกันหลาย ๆ account เช่น แชร์ลิ้งค์จากเว็บทีเดียวไปยังหลาย ๆ บัญชี
- ห้ามทำอะไรก็ตามที่เป็นการกดทีเดียวแล้วทำพร้อมกันหลาย ๆ บัญชี เช่น กด follow คนคนนึงพร้อมกันหลายบัญชี ถ้าจับได้มีโอกาสโดนแบน เนื่องจากอาจเป็นการปั้มบัญชี หรือ retweet ด้วยหลาย ๆ บัญชีพร้อมกัน นี่ก็นับว่าเป็นการปั่นเหมือนกัน
- ใช้ระบบ automation ในการตอบ Tweet ด้วยข้อความเดียวกันเหมือน ๆ กัน
- ใช้ Bot ในการทวีตตาม Hashtag หรือ Trend ต่าง ๆ ที่เหมือนเป็นการปั่นทวีต
เนื่องจาก API ของ Twitter นั้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเราสามารถเขียน Twitter Client ได้เองง่าย ๆ ทำให้เราอาจจะไม่ได้ระบุส่า Tools ตัวไหนห้ามใช้ เพราะ Tools สำหรับเล่น Twitter นั้นมีเยอะเหลือเกิน แต่เราจะโฟกัสที่ผลของการกระทำ ซึ่งถ้าตรงกับพฤติกรรมข้างต้นนั้น ก็มีโอกาสที่จะโดน Twitter แบนได้
ก่อนหน้านี้ทีมงานเลยคงบทความเรื่อง เหตุผลที่ไม่ควรโพสแบบเดียวกันในแต่ละโซเชียล ใครกำลังก็อปวางเลิกซะ ซึ่งบอกไปแล้วว่าการก็อปวาง หรือการทำอะไรซ้ำ ๆ หรือใช้ bot ไม่ได้เป็นผลดีกับการทำคอนเทนต์เท่าไหร่ ยังไงอาจจะต้องลองเปลี่ยนมาใช้วิธีการทำความเข้าใจ และใช้ Social Network ต่าง ๆ ไปตามธรรมชาติของมันดู แล้วเชื่อเลยว่าเราจะกลายเป็นโปรในโซเชียลนั้น ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น
