เพราะช่วงเวลาทองเป็นช่วงเวลาสำคัญในการโพสต์ ไม่ว่าคุณจะทำคอนเทนต์บน Facebook, Instagram, TikTok หรือ Twitter ก็ตาม แต่ละแพลตฟอร์มล้วนมีช่วงเอ็นเกจดีเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป ทาง RAiNMaker เลยจะมาอัปเดต Best Time to Post ของปีนี้ให้รู้กัน
ซึ่งสถิตินี้รวบรวมโดย Sprout Social ที่มาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับ Best Time to Post ระดับโกลบอล เพื่อไกด์ให้เหล่าครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์ และเอเจนซีเลือกโพสต์ในช่วงที่ถูกต้อง แต่จะมีช่วงเวลาไหนปัง หรือช่วงไหนไม่ปัง มาดู!
เพราะ Facebook นับเป็นโซเชียลหลักในการเริ่มต้นทำทุกอย่าง โดยเฉพาะแบรนด์ โดยจะมีช่วงเวลาทอง ดังนี้
- วันจันทร์: 8.00 – 19.00 น.
- วันอังคาร: 8.00 – 20.00 น.
- วันพุธ: 8.00 – 19.00 น.
- วันพฤหัส: 8.00 – 13.00 น.
แสดงให้เห็นว่าช่วงเช้าคือเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์ เพราะผู้คนมักจะเข้ามาเช็กข่าวสาร หรือฟหน้าฟีด Facebook ก่อน และวันธรรมดามักจะยอดดีกว่าวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์
TikTok
จากอินไซต์ของ Sprout Social พบว่า TikTok มีช่วงเวลาทองที่ดีที่สุดในตอนบ่ายเป็นต้นไป โดยมีแต่ละช่วง ดังนี้
- วันอังคาร และวันพฤหัส: 14.00 – 18.00 น.
ช่วงที่เน้นมานั้น เป็นช่วงที่ครีเอเตอร์ และแบรดน์จะสามารถเก็บเกี่ยวยอดเอ็นเกจเมนต์ได้มากที่สุด ส่วนวันหยุดเป็นวันที่ไม่แนะนำให้ลง TikTok มากที่สุด
Instagram ก็มียอดเอ็นเกจเมนต์ดีในช่วงเช้าเช่นเดียวกันกับ Facebook โดยมีช่วงเวลาทอง ดังนี้
- วันจันทร์: 10.00 – 13.00 น.
- วันอังคาร: 9.00 – 19.00 น.
- วันพุธ: 10.00 – 19.00 น.
- วันศุกร์: 9.00 – 11.00 น.
ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Instagram มียอดเอ็นเกจเมนต์แย่ที่สุดในวันอาทิตย์ แต่นี่เป็นเพียงแค่การทดสอบ และมองค่าเฉลี่ยแบบภาพรวมเท่านั้น เพราะบางแบรนด์อาจจะยอดดีในวันหยุดก็เป็นไปได้เหมือนกัน
แม้ Twitter ดูจะเป็นแพลตฟอร์มที่คาดเดาช่วงเวลาทองได้ยาก โดยเฉพาะตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายภายใต้การบริหารของ Elon Musk แต่ก็พอจะสรุปช่วงเอ็นเกจดีได้ ดังนี้
- วันอังคาร – วันศุกร์: 9.00 – 12.00 น.
โดยช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ผู้คนเล่น Twitter มากที่สุด เลยมีค่าเฉลี่ยออกมาว่าการเล่าคอนเทนต์เรียลไทม์ในช่วงนั้นยอดจะดี
แต่โดยสรุปแล้วไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหนก็สามารถดูช่วงเวลาอัปเดตโพสต์เรียกยอดเอ็นเกจเมนต์ได้แค่ไกด์เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว คุณจะต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร และพฤติกรรมของพวกเขาเสพคอนเทนต์ หรือรู้จักคุณในช่วงไหนมากที่สุดอยู่ดี
เพราะฉะนั้น RAiNMaker แนะนำให้วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของเรา หรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ให้สม่ำเสมอเข้าไว้ เพราะยิ่งรู้จักพวกเขา ก็ยิ่งทำให้เราสร้าง Brand Awareness และเกิด Loyalty ตามมาได้ง่ายมากขึ้นแน่นอน
อ้างอิง: SocialMediaToday, Sprout Social