วิเคราะห์ Best Time & Best Day วัน และเวลาที่ดีที่สุด สำหรับเอนเกจเมนต์บน Facebook

จากการวิเคราะห์ของ Buffer แพลตฟอร์มตั้งเวลาโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ได้มีการสำรวจมากกว่า 1 ล้านโพสต์บน Facebook ว่ามี Best Time, Best Day และ Best Post Format ที่ปรับไปใช้ได้กับทุกไทม์โซน ว่าแบบไหนที่ช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ได้รับยอดเอนเกจเมนต์มากที่สุดได้บ้าง โดยวันนี้ RAiNMaker สรุปมาให้ที่นี่แล้ว!

Facebook นับเป็นแพลตฟอร์มที่ทุกคนต่างต้องมีโปรไฟล์ตั้งต้นที่นี่ โดยปัจจุบันก็มี Active User มากกว่า 3 พันล้านยูสเซอร์ทั่วโลกแล้ว เรียกได้ว่า 1:3 ของผู้คนทั่วโลกแทบจะมีแอ็กเคานต์กันทุกคนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ฉะนั้นในส่วนของกลยุทธ์เพื่อให้ผลลัพธ์การโพสต์ออกมาดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยอดเอนเกจเมนต์, รีแอ็กชัน, คอมเมนต์, แชร์ และไลก์ ก็พอจะเป็นสัญญาณ และตัวชี้วัดที่บ่งบอกได้ว่า ผู้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจกับคอนเทนต์มากน้อยแค่ไหน หรือบางครั้งอัลกอริทึมก็ส่งไปไม่ถึง เลยทำให้การมองเห็นไม่มากพอ

จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายิ่งมียอดเอนเกจเมนต์สูงมากเท่าไหร่ คอนเทนต์ก็จะสามารถไปได้ไกล และถูกมองเห็นได้มากขึ้นเท่านั้น ต่อให้เป้าหมายจากยอดเอนเกจเมนต์ที่ได้อยากจะเพิ่มยอดผู้ติดตามใหม่ (Followers), เพิ่ม Traffic ให้กับช่อง และเพิ่มยอดขายก็ตาม

Best Times to Post 

A heatmap graph inidcating the best time to post on facebook is early on weekday mornings

  • Monday: 5 AM – 6 AM / 9 AM
  • Tuesday: 5 AM – 6 AM / 9 AM
  • Wednesday: 5 AM / 7 AM / 10 AM
  • Thursday: 7 AM / 9 AM /
  • Friday: 9 AM
  • Saturday: 7 AM / 9 AM
  • Sunday: 7 AM / 9 AM

จากข้อมูลของ Data พบว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์บน Facebook คือ 5.00 – 7.00 น. ในตอนเช้าของวันจันทร์ที่ผู้คนจะมองเห็นโพสต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านกที่ตื่นเช้ามักจะเป็นนกที่ได้รับการอัปเดตข้อมูลก่อนใคร ฉะนัน้การโพสต์ในช่วงเช้า เพื่อให้ผู้คนมาเช็ก และอัปเดตข่าวสารจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด โดยสามารถเช็กได้จาก Heat map Graph ที่แสดงถึง ‘Median Engagement Rate by Hour’ ได้

โดยช่วง Heat map Graph สีเข้มจะเป็นช่วงเวลาที่โพสต์ต่าง ๆ จะได้รับยอดเอนเกจเมนต์มากที่สุด ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วการโพสต์วันจันทร์ อังคาร และพุธจะมีสีเข้มเกิดขึ้นมากกว่าช่วงอื่น ๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าไปจนถึงพักเที่ยง และช่วงบ่ายก็ยังเข้มอยู่ ส่วนตอนบ่ายไปถึงช่วงเย็นก็ยังมีสีที่ไม่ได้อ่อนมากนัก

ทำให้ช่วง 3 วันแรกของสัปดาห์ในวันธรรมดาเป็นช่วงเหมาะสมสำหรับการโพสต์มากที่สุด กลับกันสีเหล่านี้จะเริ่มอ่อนลงในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ที่ผู้คนมักจะติดตามข่าวสาร การอัปเดตบน Facebook น้อยลง แต่ทั้งนี้การศึกษากลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมการใช้งานบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะช่วยให้โพสต์มีคุณภาพมากที่สุด

ซึ่งกลุ่มผู้ใช้งานมากที่สุดบน Facebook จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 25-34 ปี ตามมาด้วย 35-44 ปี แสดงถึงช่วงวัยของการทำงานที่ต้องการอัปเดตข่าวสาร รวมถึงต้องการรักษาการเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ และครอบครัวบนแพลตฟอร์มด้วย โดย 93% ใช้งาน Facebook เป็นหลัก แต่ใช้ TikTok 95% และ Instagram 86% สำหรับการเสพความบันเทิง

Best Day to Post 

A bar graph that shows the best day to post on facebook for engagement. Wednesday's bar is the highest.

จาก Heat map Graph ที่แสดงถึง Best Time to Post ในแต่ละวันกันไปแล้วว่าช่วงเวลาไหนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์บน Facebook แต่ละวัน ก็มาถึง Best Day to Post กันบ้าง ว่าวันไหนคือที่สุดที่จะได้รับยอดเอนเกจเมนต์ ซึ่ง ‘Median Engagement Rate by Day of Week’ ก็คือ ‘วันพุธ’ นั่นเอง

และแม้วันธรรมดาของทุกสัปดาห์จะได้รับยอเอนเกจเมนต์ที่ดีอยู่แล้ว แต่จะมีเพียงวันพุธเท่านั้นที่กราฟพุ่งมากกว่าวันอื่น ๆ ส่วนวันที่โพสต์แล้วยอดเอนเกจเมนต์ดีรองลงมา ก็คือวันพฤหัส และวันอังคาร เพราะเป็นช่วงกลางสัปดาห์รองจากวันพุธ ตามมาด้วยวันจันทร์ และวันศุกร์

แต่เมื่อวันที่ยอดเอนเกจเมนต์ดีที่สุดแล้ว ก็มีวันที่ยอดเอนเกจเมนต์ที่แย่ที่สุดด้วย นั่นก็คือวันอาทิตย์ที่เมื่อโพสต์แล้วจะมีการมองเห็นได้แค่ 15% เท่านั้น ตามมาด้วยวันเสาร์ที่ 10.4%

Best Content to Post

A bar graph that shows the best content to post on facebook for engagement. The bar for pictures is the highest.

จากวัน และเวลาที่ได้รับยอดเอนเกจเมนต์มากที่สุด ก็มีการสรุปประเภทคอนเทนต์บน Facebook มาให้เช่นกัน ว่าการที่ Facebook กำลังดันให้เหล่าครีเอเตอร์ และผู้ใช้งานได้รับอัลกอริทึมคอนเทนต์วิดีโอ (Video) มากขึ้น ก็ยังไม่สามารถทำให้ยอดเอนเกจเมนต์ได้มากเท่าคอนเทนต์ประเภทรูปภาพ (Image or Photo)

เพราะโพสต์ที่เป็นรูปภาพจะได้รับยอดเอนเกจเมนต์ 34.7% ซึ่งมากกว่าโพต์แบบข้อความ (Text) แถมยังได้รับยอดเอนเกจเมนต์ที่มากกว่าคอนเทนต์วิดีโอ 43.8% ด้วย เช่นเดียวกับ Instagram แบบ Carousel Post ก็ได้รับยอดเอนเกจเมนต์มากกว่า Instagram Reels เช่นกัน

แต่คอนเทนต์ประเภท Reels จะได้รับยอด Reach มากกว่า ตามมาด้วยคอนเทนต์ประเภทแปะลิงก์อย่างเดียว (Link Post) ที่ได้รับยอดเอนเกจเมนต์น้อยที่สุด เพราะ Facebook ไม่อยากให้ผู้ใช้ออกจากแอป และไปมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ในแอปอื่น

Find Your Best Time to Post

เมื่อได้ความรู้เกี่ยวกับวัน และเวลาไปจนถึงประเภทของคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมบน Facebook กันไปแล้ว ใครที่ทำคอนเทนต์บน Facebook อยู่เป็นประจำก็สามารถเข้าไปเช็กอินไซต์ได้หลังบ้านที่ Meta Business Suite fy’ouh

  • เข้าไปที่ Meta Business Suite ที่เมนูด้านซ้ายของ Facebook

  • คลิก Insights ที่เมนูด้านซ้าย

  • คลิก Audience ด้านซ้าย และเลือก Trends ด้านบนกราฟ

  • เลื่อนลงมาจนเจอ Most active times เพื่อเช็กช่วงเวลาที่ผู้ติดตามของเพจแอ็กทีฟที่สุด

High-performing Facebook Posts

หากหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการโพสต์ที่สุดของตัวเองจากการศึกษาหลังบ้านใน Meta Business Suite ได้แล้ว ก็มีหลายวิธีที่จะทำให้อัลกอริทึมมองเห็นคอนเทนต์ และส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย หรือคอมมูนิตี้ใหม่ ๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็น

  • Prompts Conversations: เพื่อคอนเทนต์ที่มีคุณภาพก็ควรเข้าไปเช็ก Facebook Insight และ Analytics หลังบ้านของช่องอยู่เสมอ เพราะอัลกอริทึมของ Facebook มักจะชอบแอ็กเคานต์ที่พยายามจะสื่อสาร และสร้างคอนเน็กชันกับคอมมูนิตี้อยู่เสมอ
  • Cultivate Authentic: บทบาทแอดมินสำคัญกว่าที่คิด เพราะควรที่จะรีพลายทั้งคอมเมนต์
  • Experiment Content Types: แม้คอนเทนต์วิดีโอจะมีประสิทธิภาพยอด Reach มากกว่า แต่โพสต์แบบ Text, Photos, GIFS และ Reels จะทำให้มีส่วนร่วม หรือสร้างเอนเกจเมนต์ได้มากกว่า ฉะนั้นจึงควรทดลองจนหาประเภทคอนเทนต์ที่ใช่ของช่องเจอ
  • User-Generated (UGC) Content: หากมีกลุ่มเป้าหมายแท็กในโพสต์ ก็ควรให้ความสนใจ และ Take Action ให้ไวในการแชร์ UGC ให้คอมูนิตี้เห็นว่าช่องมีความเฟรนด์ลี่เข้าถึงง่าย แต่ต้องได้รับการอนุญาตในการแชร์ก่อน
  • User Favorite List: ผู้ใช้ Facebook มักจะควบคุมสิ่งที่แสดงหน้าฟีดได้มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น หากอยากเข้าไปอยู่ในลิสต์แอ็กเคานต์โปรดก็ควรจะมีการโปรโมตให้กลุ่มเป้าหมายมีชื่อของช่องเราเข้าไปด้วย เพื่อที่จะไม่ต้องพลาดคอนเทนต์คุณภาพ หรืออัปเดตคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ
  • No Clickbait: เพราะ Facebook มักจะอัปเดตอัลกอริทึมเพื่อลดยอดเอนเกจเมนต์ของโพสต์ประเภทนี้ เช่น ชอบหมาให้แชร์โพสต์นี้ เนื่องจากเป็นวิธีการนำเสนอคอนเทนต์ที่น่าดึงดูดเกินไป
  • Verify News: ผู้ผลิตคอนเทนต์ควรจะตรวจสอบ และอัปเดตข้อมูลให้สดใหม่อยู่เสมอ เพราะอัลกอริทึมมักจะไม่ชอบข่าวปลอม (Fake News) และเข้มงวดกับผู้ที่มักจะเสิร์ฟข่าวปลอม หรือข้อมูลผิดพลาด และอาจนำไปสู่การลบแอ็กเคานต์ออกจากแพลตฟอร์มได้
  • Facebook Community Standard: ผู้ผลิตคอนเทนต์ควรจะใส่ใจกับนโยบาย และข้อกำหนดของแพลตฟอร์ม ต่อให้โพสต์เหล่านั้นจะเลี่ยงการตรวจจับก็ตาม ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถรายงาน และกดรีพอร์ตให้โพสต์โดนลบไปได้เสมอ

โดยสรุปแล้ว Facebook ก็ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการตามข่าวสาร และจะเพิ่มยอดเอนเกจเมนต์ก็ต้องทำความเข้าใจทั้งคอนเทนต์ของช่อง คนดูของช่อง และแพลตฟอร์มของช่องที่ทำคอนเทนต์ด้วย ว่าให้ความสำคัญกับโพสต์แบบไหน ซึ่งจะช่วยให้วางกลยุทธ์ง่ายขึ้น

จนที่วัน และเวลาเอนเกจเมนต์ในโพสต์นี้อาจจะไม่มีผล เพราะทุกแอ็กเคานต์ และทุกเพจทุกช่อง ล้วนมีกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ และเวลาโพสต์ที่ใช่เป็นของตัวเอง เพียงแค่ต้องทดลอง และสร้าง Interact กับกลุ่มเป้าหมายจนกว่าจะทำคอนเทนต์ได้อย่างมั่นคง

ที่มา: https://buffer.com/resources/best-time-to-post-on-facebook/

Copyright © 2025 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save