ทุกวันนี้ Instagram ได้กลายเป็นอนาคตของ Soicla Network ไปแล้ว ด้วยรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายแหละเหมาะสำหรับอยู่บนหหน้าจอมือถือ ตอนนี้หลาย ๆ แบรนด์และ Publisher เริ่มหันมาลงคอนเทนต์หรือทำอะไรซักอย่างกับ Instagram อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเคยยกตัวอย่างกรณีที่ Publisher รายใหญ่อย่างที่ Financial Times หันมาทำคอนเทนต์บน Instagram ผลตอบรับดีกว่า Facebook ถึง 13 เท่า ซึ่งก็มีกรณีคล้าย ๆ กันกับ Bloomberg ซึ่งดูเป็น Publisher ที่จริงจังมาก ๆ และถ้าให้เราลองเดาก็อาจจะเดาไม่ออกว่าคอนเทนต์ของเว็บไซต์ข่าวความเคลื่อนไหวโลกสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจนี้จะมีวิธีทำคอนเทนต์อย่างไร
ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า ณ ตอนนี้ Bloomberge ใช้งาน Instagram ในปัญชีชื่อ @bloombergbusiness โดยมีผลตอบรับดีขึ้นในปี 2018 มากถึง 391% และมียอดการชมวิดีโอสูงกว่า Publisher ในแนวเดียวกันอื่น ๆ มากถึง 617% ซึ่งดูแบบนี้แล้ว Bloomberge ก็ได้ออกมาบอกเล่าถึงเคล็ดลับที่จะทำให้การสื่อสารด้วย Instagram ประสบความสำเร็จผ่านทาง Facebook for Media Blog ชื่อ How Bloomberg pulled ahead of the pack on Instagram และได้รับการถอดบทเรียนมาเป็น 5 บทสำคัญโดย Social Media Today
เคล็ดลับทำคอนเทนต์บน IG แบบ Bloomberg
สำหรับเคล็ดลับของ Bloomberge นั้น ก็ฟังดูอาจจะทั่ว ๆ ไปในทางการปฏิบัติ แต่จะมีวิธีคิดบางอย่างที่มีความน่าสนใจ
- ใช้ภาพแบบ Infographic เข้ามาช่วย เนื่องจาก Bloomberg เป็นเว็บในแนว ๆ ชวนวิเคราะห์ ดังนั้นการสร้างภาพประกอบที่ทำให้ผู้ชมเกิดการตั้งคำถาม หรือเห็นภาพอะไรในมุมมองที่ต่างไปจากเดิมก็จะเป็นเรื่องที่ดี ผลงานที่เราเห็นได้ชัดจากของ Bloomberg ก็จะมีทั้งภาพ กราฟ อินโฟ ต่าง ๆ ที่จัดทำได้ค่อนข้างสวยงาม เช่น ถ้าจะลงข่าวว่า Apple เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกก็อาจจะลงเป็นกราฟหุ้นแทนการลงภาพร้าน Apple Store อย่างเดียว
- คำคม คนอาจจะเบื่อบน Facebook ไปแล้ว แต่บน Instagram นั้น ตอนนี้คอนเทนต์ที่เป็นคำคมหรือคำสอนจากบุคคลสำคัญต่าง ๆ กลายเป็นรูปแบบคอนเทนต์อีกอย่างนึงที่ Bloomberg ได้พิสูจน์ให้เราดูว่ามี engagement ดีพอสมควร
- ให้ความสำคัญกับ Data และ Analytic ทาง Bloomberg นั้นให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูลมาก โดยบอกว่า เพื่อให้รู้ว่าทำอะไรแล้วดีทำอะไรแล้วไม่เวิร์ค ถ้าดีก็ทำต่อไป ซึ่งจะมีกรณีตัวอย่างเช่น Bloomberg พบว่า กลุ่มคนอ่านของตัวเองจะปลาบปลื้มกับ Elon Musk, Jeff Bezos และ Jack Ma เป็นพิเศษ อธิบายเพิ่มเติมคือ Instagram สำหรับ Bloomberg มี Analytic และ Direction เป็นของตัวเอง และไม่ depends on data จาก platoform อื่น เช่น Facebook หรือ Twitter เพราะ audience อาจจะเป็นคนละกลุ่มกัน และมีธรรมชาติที่ไม่เหมือนกัน
- ทำให้ง่ายและจบไว เนื่องจากธรรมชาติของการเล่น Instagram นั้นคนไม่ได้จริงจังมาก หรืออยากอ่านข้อมูลแบบอ่านข่าว ทำให้ Bloomberg เลือกคอนเทนต์ที่ดูแล้วจบได้อย่างรวดเร็ว หรืออาจจะสร้างความรู้สึกบางอย่างที่ matter ได้ในเวลาอันสั้น
- ใช้ Story เป็นช่องทางเติมเต็ม Bloomberg มีรายการคอนเทนต์บน Story ที่มีชื่อว่า 5 Big Stories ที่นำเรื่องราวหรือบทความบนเว็บมาเป็น Story (รวม ๆ กัน) 1 Story สำหรับ 1 บทความ แล้วใส่ลิ้งค์เข้าไป (ฟังดูทำง่าย ๆ มาก) แต่กลับมียอดการคลิกเข้าไปอ่านบทความมากถึง 25%
หลายอย่างที่กล่าวมาอาจจะเป็นสิ่งที่เราทำ ๆ กันอยู่แล้วบน Instagram แต่ได้เสียงจาก Bloomberg มาช่วยยืนยันอีกเสียงนึงว่ามันเวิร์คก็น่าจะทำให้เรารู้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการกระทำมากขึ้น เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราไม่สามารถทิ้ง Instagram ที่มีการเติบโตสูงมาก ๆ ณ ตอนนี้ได้แล้ว
