News
จากรายงานของ Digiday ซึ่งอ้างอิงคำของคุณ Mark Thompson ตำแหน่ง CEO ของ New York Times ที่เขากล่าวถึง Trend ของโซเชียลในปีนี้ว่า Google ก็กำลังดีขึ้น ส่วน Twitter ก็กำลังถึงจุดพีค แต่ปัญหากับอยู่ที่ Facebook ที่ทำให้ Journalism อยู่ยากขึ้น
ปีนี้นับว่าเป็นปีซวยของ Facebook เลยก็ว่าได้ นับตั้งแต่การประกาศลด Reach ลงทำให้ Publisher หลายเจ้าส่ายหน้าและหันไปเพิ่งพาโซเชียลอื่น ๆ รวมถึงช่องทางอื่น ๆ ในการกระจายข่าวสาร ในขณะที่ทั้ง Apple, Google หรือแม้กระทั่ง LINE ก็มาเปิดบริการอ่านข่าวผ่านแอพมากขึ้นเช่น Google News หรือ LINE Today ยังไม่นับรวมที่ Facebook ต้องสูญเสียความน่าเชื่อถือครั้งใหญ่จากกรณีทำข้อมูลผู้ใช้งานหลุด ที่ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน Facebook อย่างหนัก
แน่นอนว่าในการทำคอนเทนต์นั้น ผู้ติดตามเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะนั่นหมายความว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะรับข่าวสารจากเรา และอยากเห็นเรื่องราวจากเรา ไม่ว่าช่องทางนั้นของเราจะมีผู้ติดตามแค่หลักร้อยหรือหลักแสนหลักล้านก็ตาม แม้ว่าการจะได้ใครซักคนมาติดตามอาจจะยากแล้ว แต่การรักษาให้คนเหล่านั้นยังคงพอใจกับสิ่งที่เขาเห็นและเห็นดีเห็นงามที่จะติดตามเราต่อนั้นยากกว่า
Instagram เป็นอีกหนึ่งใน Social Network ที่กำลังเติบโตและหลายคนก็เริ่มเปลี่ยนจากการเล่น Facebook มาเป็นเล่น Instagram มากขึ้น รวมถึงเด็กรุ่นใหม่บางคนไม่มีบัญชี Facebook แต่มีปัญชี Instagram และเล่น Instagram เป็น Social Network หลัก เนื่องจาก Instagram นั้นเป็น Social Network ที่ถูกออกแบบมาในยุคของสมาร์ทโฟน ซี่งใช้ประโยชน์ของกล้องและอินเทอร์เน็ตที่แรงในการสร้างคอนเทนต์แบบ Realtime ด้วยรูปภาพ, วิดีโอ และ Story
เราอยู่ในโลกที่แสนจะวุ่นวายและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ที่ว่านั้นอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่บอกเล่าได้เพียงประโยคสั้น ๆ แต่ก็ทำให้โลกทั้งใบแทบจะหยุดหมุน ไม่ว่าจะเป็นเหตุ การเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอานา การณ์วินาศกรรม 9/11 หรือการเสียชีวิตของนักร้องไมเคิล แจคสัน การสังหารโอซาม่า บินลาเดน
พูดแล้วก็เหมือนซ้ำ แต่ก็ต้องพูดอีกว่าข่วงนี้สื่อไหนที่มี Traffic หลักมาจาก Facbook อาจจะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนแผนการทำคอนเทนต์และเลือกช่องทางในการทำคอนเทนต์ของตัวเอง จากปัญหา Facebook ลด Reach และเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล โดยการแสดงเนื้อหาจากเพจให้น้อยลง แล้วแสดงเนื้อหาจากเพื่อนให้มากขึ้น ยังไม่รวมที่ในอนาคตอาจจะปรับรูปแบบให้เน้นไปที่ Story อีก
หนึ่งในคำถามโลกแตกของคนทำคอนเทนต์วิดีโอ หรือจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นคำถามของคนทำคอนเทนต์ทุกรูปแบบเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบทความ วิดีโอแต่ละแบบ พอดคาสต์ หรือแม้กระทั่งการ Live สด ว่าสรุปแล้วเราควรทำคอนเทนต์นานแค่ไหน แล้วจากสถิติที่ผ่านมาคนชอบคอนเทนต์นานแค่ไหนมากสุด แต่ในบทความนี้ทีมงาน RAiNMaker จะมาวิเคราะห์ถึงความยาวของคอนเทนต์ที่เหมาะสมในปีนี้กัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงนี้กระแสของอะไรก็ตามที่เป็นแนวตั้งจะมาแรงมาก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็เริ่มต้นจากการที่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียบนมือถือเพิ่มมากขึ้นจนแทบจะเป็นช่องทางหลักของการเสพสื่อ ดังนั้นเราจะเห็นว่ามีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เป็นคอนเทนต์แนวตั้งมากมาย ทั้งบน Facebook, Snapchat และ Instagram
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า