เมื่อพูดถึงวิดีโอแพลตฟอร์มแรกที่เราจะนึกถึงอาจจะเป็น YouTube ซึ่งอยู่คู่วงการคอนเทนต์วิดีโอมาอย่างยาวนานและเป็นรากฐานให้คลิปที่มียอดชมสูงที่สุดในโลกหลายตัวอย่าง Gangnum Style ของ PSY หรือ ณ ปัจจุบันคลิปที่มียอดชมมากที่สุดก็คือเพลง Despacito ที่มียอดการเข้าชมสูงถึงห้าพันล้านวิว ซึ่งเกิดขึ้นมาในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
เราอยู่ในโลกที่แสนจะวุ่นวายและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ที่ว่านั้นอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่บอกเล่าได้เพียงประโยคสั้น ๆ แต่ก็ทำให้โลกทั้งใบแทบจะหยุดหมุน ไม่ว่าจะเป็นเหตุ การเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอานา การณ์วินาศกรรม 9/11 หรือการเสียชีวิตของนักร้องไมเคิล แจคสัน การสังหารโอซาม่า บินลาเดน
หนึ่งในคำถามโลกแตกของคนทำคอนเทนต์วิดีโอ หรือจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นคำถามของคนทำคอนเทนต์ทุกรูปแบบเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบทความ วิดีโอแต่ละแบบ พอดคาสต์ หรือแม้กระทั่งการ Live สด ว่าสรุปแล้วเราควรทำคอนเทนต์นานแค่ไหน แล้วจากสถิติที่ผ่านมาคนชอบคอนเทนต์นานแค่ไหนมากสุด แต่ในบทความนี้ทีมงาน RAiNMaker จะมาวิเคราะห์ถึงความยาวของคอนเทนต์ที่เหมาะสมในปีนี้กัน
เมื่อพูดถึง BuzzFeed หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงของสื่ออาจจะไม่รู้จัก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับในต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา BuzzFeed เป็น Online Publisher รายใหญ่ที่เป็นเจ้าของสื่อต่าง ๆ มากมาย ทั้งสื่อในนาม BuzzFeed เอง หรือที่เราอาจจะรู้จักกันก็คือ Tasty สื่อสอนทำอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ปัจจุบัน BuzzFeed ยังคงทำคอนเทนต์รูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ข่าว long-form ไปจนถึงคลิปวิดีโอไวรัล
ต่อเนื่องจากบทความก่อนหน้านี้ วิธีใส่ Subtitle บน YouTube + Facebook โคตรง่าย ไม่ต้องโหลดโปรแกรมเพิ่ม ที่เราได้นำเสนอวิธีการใส่ซับบน YouTube + Facebook แบบง่ายสุดๆ ไปแล้ว ซึ่งหลังจากที่เราทำซับเสร็จแล้ว เราสามารถ Export ออกมาเป็นไฟล์ .srt เพื่อนำไปใช้งานต่อได้อีกด้วย
ในยุคนี้ที่ Video Content นับว่าเป็น Format หลักที่ทุกแบรนด์ให้ความสนใจ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างอาจทำให้คนทำคอนเทนต์ไม่สามารถสร้าง Video ตามที่ต้องการได้ และแน่นอนว่าการหาซื้อ Footage หรือแหล่งดาวน์โหลดนั้นค่อนข้างจำกัดเทียบกับคอนเทนต์ที่เป็นรูปภาพ
เชื่อว่าหลายคนหรือแทบจะทุกคนที่เป็น Content Creator คนทำคอนเทนต์ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ แอดมินเพจ หรืออะไรก็ตาม จะต้องเคยเจอกับเสียงด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นการโดนด่า โดนดราม่า หรือโดนถล่ม จากคอนเทนต์ที่เราสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตาม คอนเทนต์นั้นอาจจะไม่เข้าหูคน อาจจะเล่นไปโดนประเด็นอ่อนไหว หรืออาจจะมาจากข้อมูลที่ผิดพลาด ทั้งที่เกิดจากความตั้งใจไม่ตั้งใจ รู้หรือไม่รู้ ก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการโดนดราม่านั้นเป็นเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกเฟลและหมดกำลังใจอยู่ไม่น้อย และทุกคนต้องเจอ
วันนี้ทีมงาน RAiNMAKER จะมาแนะนำอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่คนทำคอนเทนต์ควรรู้จักไว้ ขึ้นชื่อว่าคอนเทนต์ก็แน่นอนว่าต้องทำให้ตรงกับความต้องการของคนที่อยากจะอ่านหรือเสพเนื้อหานั้น ๆ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนอยากอ่านอะไร อยากรู้อะไร จนไปถึงจะตั้งชื่อบทความ โพสต์ หรือคอนเทนต์ของเรายังไงให้คนมีโอกาสคลิกเข้ามาดูมากที่สุด
สำหรับคนที่ทำวิดีโอในยุคนี้ ขอบอกเลยว่าการใส่ซับนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ เพราะคนส่วนใหญ่จะชมวิดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือโดยอยู่ในสถานที่ที่ไม่สามารถเปิดเสียงได้ เช่น บนรถไฟฟ้า, รถเมล์ หากวิดีโอนั้นไม่มีซับ ผู้ใช้จะกดข้ามทันที
แม้ Facebook จะกลายมาเป็นหนึ่งใน Video Platform ที่ได้รับความนิยมมาก แต่ YouTube ก็ยังคงเป็น YouTube และครองอันดับหนึ่งด้าน Video Content Platform มาจนถึงทุกวันนี้ คนอาจจะดู Facebook ในระหว่างเดินทาง ระหว่างทำงาน หรือพักผ่อน แต่คนดู YouTube นั้นค่อนข้างจริงจังและใจจดใจจ่อกับการดูมากกว่า
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
