Youtube
หลายคนมีความใฝ่ฝันอยากเปิดช่อง YouTube ของตัวเองขึ้นมาสักช่อง เพื่อได้แชร์คอนเทนต์ที่ตัวเองสนใจให้กับผู้คนบนแพลตฟอร์ม หรือบางคนก็หวังที่จะเดินทางสายครีเอเตอร์เป็นอาชีพหลักที่สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองในอนาคตได้
ในแต่ละปีมีการเปลี่ยนแปลงมากมายบน Social Media ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามา หรืออัปเดตเครื่องมือที่มีอยู่ให้ดีขึ้น และหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการใช้งานโดยตรงก็คือขนาดรูปที่เราใช้โพสต์กันทุกวันนี่เอง สาเหตุที่ขนาดของทั้งรูปภาพและวิดีโอบนโซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ก็เพื่อตอบสนองให้ตรงกับการใช้งานของผู้คนที่เปลี่ยนไปนั่นเอง
หนึ่งในวิธีที่ช่วยโน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายสนใจ และกระตุ้นให้เกิดการกระทำบางอย่างต่อคอนเทนต์ของเรา นั่นก็คือการใส่ ‘Call-to-action’ นั่นเอง แต่การใส่ Call-to-action นั้นไม่ใช่ว่าจะใส่คำไหนตามใจ หรือวางตรงไหนตามใจก็ได้ เพราะมันต้องมีหลักการ และขั้นตอนของมันยังไงล่ะ!
อีกหนึ่ง Pain Point ของเหล่านักตัดต่อวิดีโอคงหนีไม่พ้นการหาเสียงที่พอดีกับฟุตเทจวิดีโอ ที่อาจต้องใช้เวลานานไม่น้อย แถมหากหาเพลงที่ถูกใจได้แล้ว แต่ดันไม่พอดีกับฟุตเทจ อาจทำให้กระบวนการทำงานยากขึ้น เพราะต้องตัดเพลงใหม่ หรือตัดฟุตเทจบางส่วนของวิดีโอออก เป็นต้น
ผ่านปีใหม่กันไปแล้วหนึ่งเดือน เรียกว่าปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงมากมาย ส่งผลให้องค์ประกอบหลายอย่างในชีวิตเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดที่ทำให้การสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนหันมาใช้การปลอบโยน การเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น จึงทำให้เห็นได้ชัดว่าผู้คนกำลังโหยหาพลังบวกและการมองโลกในแง่ดี รวมถึงการต้องการความสัมพันธ์ที่มีคุณค่า และจริงใจมากขึ้น
เราอยู่ในยุคที่แบรนด์และเอเจนซีต่างเคยมีประสบการณ์ร่วมงานกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์มากันหมดแล้ว การโปรโมตสินค้าและบริการผ่านครีเอเตอร์ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป จนกระทั่งตอนนี้เราเข้าสู่จุดที่มีแต่คำถามว่า “การใช้งานอินฟลูเอนเซอร์ ยังเวิร์กอยู่ไหม ?”
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า