นับเป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดในการสื่อสารที่ทำให้เกิดดราม่าขึ้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมาช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวจากการแถลงข่าวของ ศบค. ที่นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ชี้แจงเรื่องนักวอลเลย์ไทยที่ผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก หลังฉีดวัคซีน
โดยเฟซบุ๊กเพจ Ch3ThailandNews ได้เขียนโพสต์พร้อมแคปชันว่า
“หมอทวีศิลป์” เผย “วอลเลย์บอลหญิงไทย” ติดโควิด-19 ถือเป็นบทเรียนเพราะไม่ระวังตัวเอง ฉีดวัคซีนแล้ว การ์ดก็ห้ามตก
กรณีที่นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยและทีมงาน ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 22 ราย หลังจากที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วนั้น นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องเรียนรู้กับเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมาได้เน้นย้ำตลอดว่าการฉีดวัคซีน ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ป่วย แต่อาการป่วยจะน้อยลง
“นักกีฬาในชุดนี้จะเป็นบทเรียนอย่างดี ฉีดไปแล้วไม่ระวังตัว ไม่สวมหน้ากากอนามัย อยู่ในที่แออัด มีเหงื่อสารคัดหลั่งออกมา ก็สามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้” โฆษก ศบค. กล่าว…
เมื่อข่าวได้ถูกโพสต์ออกไป ทำให้หลายคนที่ไม่ได้เข้าไปฟังแถลงการณ์เกิดความเข้าใจผิดได้ รวมถึงคุณอรอุมา สิทธิรักษ์ (ชื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Onuma Sittirak) หนึ่งในทีมวอลเลย์บอลหญิงก็ได้แชร์ภาพข่าวจากทางช่อง 3 พร้อมแคปชันว่า
ทุกคนทำดีที่สุดแล้วนะ ระวังตัวกันแล้วแต่มันก็เกิดขึ้น แต่คุณหมอมาพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ จะให้ฝึกซ้อมยังไงไม่ให้เหงื่อออกล่ะ ช่วยบอกหน่อยคะ นักกีฬาทุกคนก็ทำหน้าที่เพื่อชาติ รักชาติเช่นกันนะคะ
ทำให้ทางทีมงานสื่อสารของคุณหมอทวีศิลป์ต้องออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Warat Karuchit ว่าคุณหมอทวีศิลป์ ไม่ได้มีเจตนาที่จะตำหนิทีมวอลเลย์บอลหญิง แต่เป็นเพียงการอธิบายว่ากรณีนี้เป็นตัวอย่างเพื่อให้คนอื่นๆ ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วได้เรียนรู้ว่า แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังติดเชื้อได้ ถ้าไม่ระมัดระวังตัว
แต่ที่ทำให้คุณอรอุมาเข้าใจผิด อาจจะเป็นเพราะโพสต์ข่าวของเพจ Ch3ThailandNews ของช่อง 3 (ที่คุณอรอุมาแชร์มา) ได้ถอดคำพูดของคุณหมอออกมา “ผิด” (misquote) ถึง 2 จุดสำคัญคือ
1. “นักกีฬาในชุดนี้จะเป็นบทเรียนอย่างดี ฉีดไปแล้วไม่ระวังตัว”
แท้จริงแล้วคุณหมอพูดว่า “เพราะฉะนั้นนักกีฬาชุดนี้ก็จะเป็นบทเรียนของเราอย่างดีว่า ถึงแม้ฉีดไปแล้ว แต่ถ้าไม่ระมัดระวังตัว…” (นาทีที่ 25.47) ซึ่งประโยคที่คุณหมอพูดหมายถึง เป็นตัวอย่างว่า ใครก็ตาม แม้ว่าว่าฉีดไปแล้ว แต่ไม่ระมัดระวังตัว ก็จะติดเชื้อได้
2. “เหงื่อ”
คุณหมอพูดว่า “การเล่นกีฬาแล้วมี … สารคัดหลั่งอะไรทั้งหลายออกมาเนี่ย ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้” (นาทีที่ 26.04) ซึ่งในคำพูดของคุณหมอ ไม่มีคำว่า “เหงื่อ” เลยแม้แต่น้อย แต่อาจจะมีสารคัดหลั่งเช่นน้ำลาย น้ำมูก ติดตามพื้น อุปกรณ์ จากการพูดตะโกนกันในสนาม หรืออื่นๆ
(สามารถดูโพสต์ต้นฉบับได้ที่: https://www.facebook.com/warat.karuchit/posts/4580764718605798)
จากโพสต์ดังกล่าวจึงทำให้หลายคนไขข้อกระจ่าง และตำหนิการรายงานของช่อง 3 ในฐานะสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก และล่าสุดทางคุณอรอุมาเองก็ได้แชร์โพสต์ของทีมงานของหมอทวีศิลป์พร้อมแคปชันว่า
“หลังจากที่ได้อ่านคำชี้แจงและได้พูดคุยกับทางทีมงานของคุณหมอทวีศิลป์แล้ว ทำให้อรได้เข้าใจเพิ่มเติมจากการอ่านพาดหัวข่าวของสื่อฯ ที่ทำให้อาจเข้าใจผิดไป ซึ่งคุณหมอทวีศิลป์เองนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวโทษผู้ใด อรต้องขออภัยคุณหมอและผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ทุกท่านนะคะ อรขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับคุณหมอและทีมงานทุกคนด้วยนะคะ”
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นว่าการสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญ หากสื่อสารผิดแม้แต่นิดเดียวก็สามารถเปลี่ยนความหมายหรือเจตนาของสารไปได้อย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะในฐานะของสื่อมวลชนแล้วนั้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารควรจะตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือน และผ่านการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยก่อนนำเสนอ และในฐานะของผู้เสพสื่อเองก็ควรคิดวิเคราะห์ และตรวจสอบข้อมูลทุกครั้งก่อนที่จะเชื่อ แสดงความคิดเห็นในด้านลบ หรือแชร์ข้อมูลนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
ที่มา: Facebook Warat Karuchit, Thairath