มาต่อกันอีกหมวดกับ Content of The Year 2023 ในหมวด ‘Social Trend’ ที่ในหมวดนี้เราขนเทรนด์บนโลกโซเชียลที่โดดเด่น และเรียกว่าเป็นตัวรันวงการคอนเทนต์ในปี 2023 เลยก็ว่าได้
แน่นอนว่าโลกโซเชียลหรือโลกออนไลน์เป็นอีกช่องทางที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่เสมือนโลกอีกใบ ซึ่งตลอดปี 2023 ที่ผ่านมา ก็มีสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้งานโลกโซเชียลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม หรือเทรนด์คอนเทนต์
โดยเฉพาะหลังจากที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน และแทรกซึมเข้าสู่ทุกแพลตฟอร์มมากขึ้น ทั้งแชตบอตอย่าง ‘ChatGPT’ รวมถึง Gerative AI ที่ช่วยสร้างภาพสุดเจ๋งด้วย Prompt อย่าง ‘Midjourney’ และ ‘Adobe Firefly’ ที่เพิ่มเครื่องมือที่ทำงานโดย AI เข้ามาช่วยให้การสร้างสรรค์ผลงานได้สะดวกมากขึ้น เป็นต้น
อีกหนึ่งเทรนด์บนโซเชียลมีเดียที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือการทำคอนเทนต์ประเภท ‘Text Post’ บน Facebook ด้วยความไว สดใหม่ และย่อยง่าย ทำให้คอนเทนต์ประเภทนี้มาแรงแซงคอนเทนต์ประเภทอื่น ยืนยันด้วยยอดเอนเกจเมนต์ที่ทิ้งนำโด่
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ของแพลตฟอร์มอย่าง ‘X’ หรืออดีต Twitter ที่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่ามีการสังคายนายกใหญ่ เปลี่ยนนั่นปรับนี่อยู่ตลอดเวลา จนต้องจารึกเป็นการปฏิวัติแพลตฟอร์มเลยก็ว่าได้
ซึ่งทั้ง 3 เทรนด์ดังกล่าว ถือว่าเป็นเทรนด์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลค่อนข้างมาก แถมยังมีแนวโน้มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อต่อยอดสู่สิ่งใหม่ ๆ ในอนาคตอีกด้วย แต่ตอนนี้เรามาเจาะลึกแต่ละเทรนด์กันดีกว่า ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมถึงกลายเป็น Top 3 ในหมวด Social Trends ได้
Generative AI
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นถึงการเข้ามาของ Generative AI ส่งผลแทบกับทุกวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกโซเชียล เดิมทีหลายแพลตฟอร์มก็มีการใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงานหรือให้บริการอยู่แล้ว แต่มักจะไม่ได้เป็น AI ที่เข้าถึงผู้คนและใกล้ตัวขนาดนี้
หลังจากกระแส ChatGPT เริ่มเข้ามาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ด้วยความที่ขีดจำกัดการทำงานสูงขึ้น ระบบสามารถประมวลและตอบกลับได้อย่างรวดเร็วและละเอียด ตั้งแต่ตอบคำถามง่าย ๆ อย่างการเกลาแกรมม่าภาษาอังกฤษ ไปจนถึงการวางแพลนเที่ยว หรือวางกลยุทธ์การตลาด
ซึ่งแตกต่างจากแชตบอตเดิม ๆ ที่เคยรู้จัก ผู้คนจึงรู้สึกตื่นตัว และให้ความสนใจเจ้าแชตบอตแสนฉลาดนี้มากเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมี Generative AI ที่สามารถเปลี่ยนข้อความเป็นรูปภาพ (Text to Image) เข้ามา เพียงแค่ป้อนคำสั่ง (Prompt) ไม่กี่ประโยค AI ก็สร้างภาพตามที่เราต้องการออกมาได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
โปรแกรมยอดนิยมที่ทุกคนคุ้นเคย เช่น Midjourney ที่สามารถป้อนคำสั่ง และต่อยอดภาพจากผลลัพธ์ได้อีกด้วย อีกหนึ่งโปรแกรมพื้นฐานของงานสร้างสรรค์อย่าง Adobe ก็เปิดตัว Firefly ที่นอกจากจะสามารถ Generate ภาพตามคำสั่งได้แล้ว ยังเป็นแหล่งรวมเครื่องมือที่ซัพพอร์ตสายกราฟิกอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้ จึงสร้างความฮือฮาให้กับหลายวงการ ทั้งนักการตลาด ครีเอทีฟ และกราฟิกเป็นอย่างมากถึงขอบเขตความสามารถของมัน ทำให้ทุกวันนี้หลายคนนำ AI เข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำงานไม่มากก็น้อย จนแทบจะกลายเป็น Norm ปกติในปัจจุบันไปแล้ว
Facebook Text Post
หากเลื่อนฟีด Facebook ตอนนี้จะต้องเห็นคอนเทนต์ประเภท Text Post แทรกเข้ามาเป็นระยะแน่นอน ตอนแรกอาจมีข้อถกเถียงกันบ้างว่า “ไม่ต้องทำกราฟิกสวย ๆ แค่พิมพ์ข้อความง่าย ๆ ก็ได้ยอดเอนเกจเมนต์ดีแล้ว” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน Text Post นั้นเป็นที่นิยมและมียอดเอนเกจเมนต์ที่ดีจริง ๆ
เนื่องจากเป็นประเภทข้อความที่สามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว เหมาะกับการใช้อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ในมุมผู้อ่านเองก็ง่ายต่อการย่อยสารอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แทบทุกเพจหันมาสลับทำคอนเทนต์ประเภทนี้ปะปนไปบ้างสลับกับคอนเทนต์ที่ทำประจำ
จนเป็นเรื่องปกติที่จะเจอคอนเทนต์ Text Post ตามเพจต่าง ๆ หรือบนหน้าฟีด Facebook และดูเหมือนแนวโน้มของคอนเทนต์ประเภทนี้จะยังคงอยู่ต่อไปอีกระยะ หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงต่อยอดอะไรเพิ่มเติมไปอีกในอนาคต
The Revolution of ‘X’
เรียกว่าเป็นการปฏิวัติ Twitter เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ Elon Musk เข้ามารับตำแหน่ง CEO Twitter ก็สร้างเรื่องใหญ่ช็อกวงการ ปลดพนักงาน ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่จนระบบการทำงานข้างในดูวุ่นวาย และอะไร ๆ ก็เก็บเป็นเงินเป็นทองไปซะหมด ไม่ว่าจะการบังคับให้สมัครสมาชิก Twitter Blue ทางอ้อม เพื่อเข้าถึงบางฟีเจอร์
แถมยังรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อและโลโก้จาก Twitter สู่ X ที่ทุกวันนี้คนส่วนมากก็ยังไม่ชินปากอยู่ดี ซึ่งการรีแบรนด์ครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ของแพลตฟอร์มใหญ่ระดับนี้พอควร เนื่องจากปกติแพลตฟอร์มใหญ่ที่มีมานานและมีผู้ใช้งานเยอะ มักจะรีแบรนด์ปรับดีไซน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ตอนเปลี่ยนชื่อเลยเล่นเอาช็อกกันทั้งโลก
แต่การปฏิวัติยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะปัจจุบัน Elon Musk ก็ได้ส่งไม้ต่อให้ Linda Yaccarino นั่งตำแหน่ง CEO ต่อเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และในระหว่างทาง X ก็มีการอัปเดตเรื่อย ๆ ในหลายส่วน เพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะทำให้ X กลายเป็น Everything App ให้ได้
ปัจจุบัน X จึงพยายามเพิ่มบริการด้านต่าง ๆ ให้ครอบคลุม ทั้ง X Hiring แพลตฟอร์มหางานคล้าย LinkedIn, ทดสอบแชตบอต Grok ที่ทำงานโดย AI หรือเตรียมนำ Live Stream กลับมาบนแพลตฟอร์ม เป็นต้น
ถ้าให้นิยามเส้นทางชีวิตของ X จนถึงปัจจุบันเป็นประโยคนึง “วัน ๆ พันกว่าเรื่อง” คงจะเป็นคำนิยามที่เห็นภาพที่สุด และเชื่อว่าทุกคนคงจะรู้สึกแบบเดียวกัน