Brand Marketing

sarun.roj

sarun.roj October 20, 2021

เมื่อ Work From Home แล้วสุขภาพจิตแย่ ทำความรู้จักกระแส Digital Nomad ในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ข้อมูลจาก World Economic Forum ระบุว่าพนักงานทั่วโลกกว่า 84% ถูกผลักให้เข้าสู่การทำงานแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็ว พนักงานราว 44% สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ และบริษัทมากกว่า 33% วางแผนที่จะให้พนักงานสามารถ Work From Home ต่อไป

วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทหลักในการทำงาน ทั้งลดขั้นตอนการทำงาน และขยายรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น ไม่มีข้อจำกัดด้านระยะทาง ขณะเดียวกันพนักงานจำนวนมากที่ทำงานจากที่บ้านก็กำลังเผชิญปัญหาด้านสุขภาพจิตและภาวะหมดไฟในการทำงาน

ขณะเดียวกันการทำงานออนไลน์ก็ลดทอนปฎิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ส่งผลให้พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านกำลังเผชิญปัญหาด้านสุขภาพจิตและภาวะหมดไฟในการทำงาน หลายคนจึงกำลังมองหาวิธีเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทำงาน

กระแส Digital Nomad ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

เทคโนโลยีที่เพียบพร้อมเปิดโอกาสให้คนยุคดิจิทัลสามารถไปทำงานตามคาเฟ่ ชายหาด หรือตามหัวเมืองต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเลือกสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง อีกทั้งยังได้ท่องเที่ยวและสำรวจพื้นที่ต่างๆ นอกเหนือจากบ้านและออฟฟิศ

ซึ่งตรงกับคำจำกัดความของ Digital Nomad หรือคนทำงานยุคดิจิทัลและใช้ชีวิตในรูปแบบไร้ออฟฟิศ ใช้เพียงอินเทอร์เน็ตกับแล็ปท็อปหรือสมาร์ทโฟนก็สามารถทำงานได้จากทุกมุมของโลก 

จากผลการศึกษาพบว่า 42% ของ Digital Nomad เป็นชาวมิลเลนเนียล (อายุระหว่าง 25-40 ปี) ซึ่งประกอบอาชีพหลากหลายตั้งแต่วิศวกร นักออกแบบ ครีเอทีฟ ไปจนถึงนักการตลาด ร้อยละ 21% เป็นพนักงานบริษัท 5% เป็นที่ปรึกษา และ 33% เป็นประกอบธุรกิจส่วนตัว

ในมุมของบริษัทการเปิดโอกาสให้พนักงานเป็น Digital Nomad จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงาน ไม่เกิดความเบื่อหน่าย ลดระดับความเครียดโดยไม่ต้องลางาน อีกทั้งยังได้เพิ่มประสบการณ์ในชีวิตส่วนตัวเมื่อพบปะผู้คน วัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป กลายเป็นแรงจูงใจในการดึงดูดพนักงานใหม่และรักษาพนักงานเดิมได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ต้องคำนึงด้วยว่าไม่ใช่ทุกงาน ทุกตำแหน่งที่สามารถเป็น Digital Nomad ได้ โดยเฉพาะงานบริการและงานที่ต้องใช้ด้านกายภาพ  และไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการทำงานนอกสถานที่ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง ที่พัก รวมถึงความพร้อมของอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อโรคระบาดทำให้คนทำงานขาดปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน แต่ก็เปิดโอกาสให้คนยุคดิจิทัลได้ลองใช้ไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ไม่ต้องอยู่ในออฟฟิศ 8 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ และอีกหลายชั่วโมงสำหรับการเดินทางไปกลับ 

เชื่อว่าในอนาคตเมื่อตำแหน่งงานที่มีความยืดหยุ่น และสามารถตอบโจทย์การไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลจะกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคนรุ่นใหม่ เพราะเมื่อมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อ้างอิง

projectuntethered

Creative Thailand

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save