รายการจาก JSL และพาร์ทเนอร์ที่ร่วมงานกันมายาวนานอย่าง กิ๊ก ดู๋ หลุดผังช่อง 7 และส่อรอยร้าวมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี 61 จนล่าสุดถึงคราวแตกหัก รายการสุดท้ายที่เหลืออยู่อย่าง ‘กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง’ ย้ายไปช่อง PPTV งานนี้เกิดดราม่าทั้งในวงการทีวีและโลกโซเชียล ลองไปดูสรุปเหตุการณ์นี้กันว่าต้นทางของปัญหาและทางออกในครั้งนี้คืออะไร
จันทร์พันดาวหลุดผัง หลังขอลดค่าเช่าเวลาไม่สำเร็จ
JSL ทำเรื่องขอลดค่าเช่าเวลาไปเมื่อปี 59 เนื่องจากเวลา 5 ทุ่มเป็นต้นไปเป็นช่วงเวลาที่ขายโฆษณาได้ยาก และราคาไม่สูงเท่าช่วงหัวค่ำ เกณฑ์ที่ขอไปคือ 50% ซึ่งสถานีก็ผ่อนผันให้ แต่ลดให้ไม่ถึงตามที่ขอไป 27 ตุลาคม พ.ศ.2560 JSL ทำหนังสือขอคืนเวลารายการจันทร์พันดาว แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้นจึงมีผลทำให้จันทร์พันดาวหลุดผังในที่สุด โดยออกอากาศเทปสุดท้ายเมื่อวัน 8 ม.ค. 2561
ดู๋ สัญญา ยุติรายการ ที่นี่หมอชิต
หลังจากจันทร์พันดาวลาจอไปเพียง 2 เดือน คนดูทีวีก็มีอึ้งรอบ 2 เมื่ออยู่ๆ ที่นี่หมอชิต ที่ต้องเปิดมาเจอทุกคืนวันอาทิตย์ก็อันตรธานหายไปอีกรายการ โดยไม่เพียงรายการที่หายไป แต่บริษัทดีทอล์คผู้ผลิต ซึ่งคุณดู๋ สัญญาผู้เป็นพิธีกร ก็เป็นเจ้าของเองด้วยได้พับโครงการการผลิตรายการโทรทัศน์ไป เพราะมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของทีวีดิจิทัล แม้รายการจะได้คิวสัมภาษณ์ดาราระดับ A-List อยู่ตลอด แต่ยอดการขายโฆษณาก็ไม่ดีดังเดิม
ซูโม่ กิ๊ก โพสต์สเตตัสปิดรายการ เกมส์พันหน้าและร้องแลกไข่
22 กันยายน 2561 ในวันเกิดของคุณกิ๊กเอง คุณกิ๊กได้ออกมาโพสต์สเตตัสปิดรายการของทริปเปิ้ล ทู นั่นก็คือเกมส์พันหน้าและร้องแลกไข่ พร้อมขอบคุณทีมงานแบบเศร้าๆ สำหรับเกมส์พันหน้านั้นเป็นการรายการเกมส์โชว์ที่เป็นที่รักของผู้ชม เพราะเปิดโอกาสให้ทุกคนมาโชว์ความสามารถเพื่อแลกกับรางวัลที่ตนเองต้องการซึ่งต่างจากรายการเกมส์โชว์ทั่วๆไปที่เน้นไปทางเสี่ยงดวงเสียมากกว่า
‘กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง’ ย้ายช่องไป PPTV หลังช่อง 7 ปลดกลางอากาศ
20 พฤศจิกายน 2561 TV Digital Watch รายงานข่าวการย้ายช่องแบบฟ้าฝ่าของรายการระดับแม็กเน็ตอย่าง ‘กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง’ ว่าย้ายไป PPTV อีกรายการ หลังจากมีหลายรายการจากช่องต่างๆย้ายมา PPTV อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นข่าวช็อคเพราะ JSL เองทำงานผลิตรายการลงช่อง 7 ยาวนานมากว่า 32 ปี และรายการ ‘กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง’ ก็เรตติ้งดีมาตลอด แม้จะได้ผังเวลาในคืนวันอังคารก็ตาม โดยกำหนดเวลาที่รายการจะย้ายไปนั้นคือต้นปีหน้า แต่ทางช่อง 7 ยุติการออกอากาศในทันที ทั้งทีมีการบันทึกเทปไปแล้ว โดยระหว่างนี้ทางเพจแจ้งว่าสามารถรับชมได้ทาง Facebook Live และ LINE TV
ชาวเน็ตรุมจวก JSL ทรยศช่อง 7
หลังจากมีข่าว PPTV ดูดรายการดังมาจากช่องต่างๆตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการแบบที่ซื้อรูปแบบจากต่างประเทศมา แต่ไม่มีใครคาดคิดว่ารายการคู่บุญช่อง 7 อย่าง ‘กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง’ จะโดนดูดไปด้วยอีกราย ต่างคอมเมนต์กันไปในทางว่าโดนอำนาจเงินบ้าง โดนดึงจากผู้บริหารเก่าจากช่อง 7 ที่ย้ายไปอยู่ PPTV บ้าง ฝั่งพิธีกรอย่างคุณกิ๊กก็ออกมาโพสต์บนเฟสบุ๊กส่วนตัวถึงข่าวนี้ว่า “ตามนั้น…อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไป…ครับ” พร้อมคอมเมนต์ถึงสาเหตุหลักที่รายการย้ายช่องว่ามาจากปัญหาเรื่องค่าเช่ารายการ เช่นเดียวกับจันทร์พันดาว
JSL ออกโรงเคลียร์ ย้ายช่องครั้งนี้เป็นการหนีตายไม่ได้ทรยศ
6 ธันวาคม 2561 คุณจำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเคลียร์ทุกข้อสงสัยเหตุพารายการย้ายไป PPTV โดยประเด็นหลักคือเรื่องค่าเช่าเวลานั้นสูงเกินกว่าที่ขายโฆษณาได้ และได้มีการเจรจากับช่อง 7 มาโดยตลอดแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจึงหันไปพึ่ง PPTV ซึ่งมีวิธีการดำเนินงานที่ต่างออกไปจากช่อง 7
โดยคุณหน่อยได้อธิบายไว้ว่า “เราได้มีการพูดคุยกับทางพีพีทีวี โดยเป็นการคุยกันในแบบที่ไม่ได้ซีเรียสอะไรจริงจัง เราก็แจ้งเขาไปว่าเราลำบากนะ พีพีทีวีสนใจมั้ย เขาก็เสนอทางเลือกมา ข้อที่ 1 คือเช่าเวลาเขา ข้อที่สองคือทำไทม์แชร์ริ่งกัน และข้อที่ 3 ก็คือเรารับผลิตให้เขาไป โดยเขาเป็นผู้ลงทุนและเป็นผู้หาโฆษณา พอมาถึงประเด็นในข้อที่ 3 เป็นข้อที่ตอบโจทย์เราได้ทำให้เราหลุดพ้นจากวิกฤตตรงนี้ได้เพราะเราไม่ต้องไปขายโฆษณาแข่งกับสถานีเราแค่ทำรายการเราให้ดีที่สุดให้ได้เรตติ้งดีที่สุด”
ทั้งนี้ทิศทางของ JSL ในปีหน้านอกจากผลิตรายการและละครป้อนให้ PPTV และ True แล้วยังลุยเดินหน้าช่องทางออนไลน์อย่างเต็มกำลัง คุณหน่อยยังคงยืนยันว่า JSL ไม่ได้อยู่ในช่วงตกต่ำเพียงแต่ต้องหาช่องทางที่เหมาะสมกับการทำงานในยุคที่สื่อเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์และประเด็นต่างๆ ที่สะท้อนปัญหาเรื่องของรูปแบบการเช่าเวลาที่สถานีเก่าแก่ยังคงยึดถือปฏิบัติอยู่ ในขณะที่บริษัทโฆษณาเอเจนซี่ต่างๆมีทางเลือกเพิ่มขึ้นมากมาย อีกทางรอดที่ทำให้รายการโทรทัศน์อยู่ได้เห็นจะเป็นการขาย Advertorial ให้ได้อย่าง The Face และ Master Chef ควบคู่ไปกับการทำสื่อออนไลน์ให้แข่งแรง เพราะในหลักความเป็นจริงแล้วสื่อโทรทัศน์อาจไม่มีวันตาย แต่ที่จะตายก่อนคือเหล่าผู้จัดรายเล็กที่ต้องแข่งกับช่องเองเสียมากกว่า
ที่มา : positioningmag.com , pptvhd36.com
