ในยุคนี้ต้องยอมรับว่าหลายคนทำ Facebook Page (หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “เพจ”) เป็นจำนวนมาก แต่จะเห็นได้ว่าในยุคหลัง ๆ หลายเพจทำเนื้อหาที่กระตุ้นให้เกิดการถกเถียง แต่ไม่ใช่ในทางบวก แล้วไปในทางลบ หรือเป็นการสร้างคอนเทนต์ “ดราม่า” ขึ้นมามากขึ้น
และต้องยอมรับอีกว่า คอนเทนต์แนวนี้ยังได้รับความนิยมต่อผู้ติดตาม Social Media อยู่บ่อยครั้ง แต่คำถามคือ คอนเทนต์ดราม่าดีกับเพจจริงหรอ? หรือคอนเทนต์แนวไหนที่ทำแล้วจะดีจริง วันนี้เรามีข้อมูลหลาย ๆ ชุดที่วิเคราะห์ในหลายแง่มุมมาฝากกัน เพื่อหาคำตอบกันว่า “คอนเทนต์บนเพจแนวไหนที่คนให้การตอบรับดี?”
คนไทยและทั่วโลกชอบคอนเทนต์ที่ “ดีต่อใจ”
ข้อมูลจาก Wisesight ที่รวบรวมโพสต์จากเพจ 270 แบรนด์ในประเทศไทย ปี 2560 พบว่า ผู้ใช้ Facebook กดเลือกใช้การกด Like/Reactions มากที่สุดถึง 89 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อแยกดู Reactions (ไม่รวม Like) ที่คนไทยกดมากที่สุดในปี 2560 พบว่า คนไทย Love มากที่สุด (44%) รองลงมาคือกด Haha (21%)
ซึ่งข้อมูลนี้ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ หากดูข้อมูลของ Quintly ที่ได้วิเคราะห์ข้อมูล 44 ล้านโพสต์จาก 218,289 แบรนด์ทั่วโลก เป็นเวลา 4 เดือน (1 ม.ค. – 30 เม.ย. 62) พบว่าตัวเลข Reactions ก็จะพบว่าทั่วโลกมีการกด Reaction อย่าง Love (46.9%) และ Haha (34.1%) มากที่สุดเป็น 2 อันดับแรกเช่นกัน
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้เห็นว่า คอนเทนต์ที่คนไทยและคนทั่วโลกชอบเรื่องที่ “ดีต่อใจ” และ “ตลก” พอสมควร ดังนั้นการทำคอนเทนต์สองรูปแบบที่กล่าวไปข้างต้นอาจจะได้รับการตอบรับที่ดีกว่า
เรื่องสัตว์ได้รับ Reactions บน Facebook มากที่สุด
ข้อมูลจาก Quintly ที่ได้วิเคราะห์ข้อมูล 44 ล้านโพสต์จาก 218,289 แบรนด์ทั่วโลก เป็นเวลา 4 เดือน (1 ม.ค. – 30 เม.ย. 62) พบว่าตัวเลข Reactions ของโพสต์ประเภทสัตว์ มีคนกด Reactions มากถึง 14 ล้าน Reactions สะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์อย่างเรา ๆ ต่างตกอยู่แรงดึงดูดของคอนเทนต์สัตว์เลี้ยงที่น่ารักหรือตลก ถ้ามีตอนเทนต์แนว “ลูกลิงขี่หลังแม่หมู” เราจะไม่กดดูจริงๆ หรือ?
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยออกมาว่า มนุษย์มีความเห็นอกเห็นใจต่อสุนัขมากกว่ามนุษย์ด้วยกันเสียอีก คงเห็นได้จากเพื่อน ๆ ของเรา หรือแม้แต่คุณเองที่เวลาเจอสุนัขหรือแมวก็อยากจะลองเรียกให้มันเข้าหา หรือไม่ก็เข้าไปหาพวกมันเพื่อเล่นเสียเลย! จึงไม่แปลกที่การทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับเรื่องสัตว์จะได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ Facebook ที่ดีเสมอ
คอนเทนต์แนว “สร้างแรงบันดาลใจ” และ “ตลก” สร้าง Engagement ดีกว่า
Buffer ได้วิเคราะห์ 500 โพสต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเมื่อปี 2561 พบว่า คอนเทนต์ในหมวดสร้างแรงบันดาลใจ (Inspirational), ตลก (Funny) และ นำไปประยุกต์ใช้ได้จริง (Practical)
แต่ในปี 2560 ประเทศไทยนั้นมีโพสต์บน Social Media ที่เกี่ยวกับธุรกิจ (Business) นั้นมีถึง 30 ล้านข้อความ แต่ข้อความในฝั่งบันเทิง (Entertainment) นั้นมีสูงถึง 300 ล้านข้อความ (ห่างกันอยู่ 10 เท่าตัว)
ซึ่งเรื่องราวที่ถูกพูดถึงในปี 2560 สามอันดับ ประกอบด้วย เรื่องราวเกี่ยวกับศิลปินชาย (52 เปอร์เซ็นต์), เรื่องราวเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ (29.7 เปอร์เซ็นต์) และเรื่องราวเกี่ยวกับนักแสดง (5.9 เปอร์เซ็นต์) สะท้อนให้เห็นว่าในอีกมุมหนึ่งว่า ไทยอาจจะเหมาะกับการเล่นคอนเทนต์ดราม่าที่เกี่ยวกับ “นักแสดง” หรือ “ศิลปินชาย” มากกว่าการเล่นคอนเทนต์แนวอื่น ๆ
คอนเทนต์ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว คุณเข้าใจความต้องการของคนดูจริง ๆ หรือยัง
สุดท้ายเราอยากบอกว่า ข้อมูลที่ยกมานั้นเราเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะทำคอนเทนต์ “ดีต่อใจ”, “ตลก”, “จริงจัง”, “ดราม่า” หรือคอนเทนต์แนวไหนก็ตาม ทุกคอนเทนต์ที่ดีจริงมีโอกาสปังและส่งผลดีต่อเพจได้ทั้งหมด
แต่การทำคอนเทนต์ต้องทำคอนเทนต์ที่ดีในลักษณะใดลักษณะหนึ่งอาจจะยังไม่พอ เราอาาจะต้องทำคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและความสนใจของเราจริงๆ ด้วย โดยเราอาจจะดูได้จาก Facebook Analytics และ Facebook Audience Insights ประกอบก็ได้
ส่วนรายละเอียดการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจนั้นควรจะทำอย่างไร มาติดตามได้ที่งาน iCreator Conference 2019 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ติดตามรายละเอียด Speaker และช่องทางการจำหน่ายบัตรได้ในเร็ว ๆ นี้
ที่มา: buffer.com