สื่อใหญ่วิเคราะห์ Facebook อาจนำ Story มาเป็นฟีเจอร์หลักแทน Newsfeed

ฟีเจอร์ Story นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “Snapchat” Social Network ขวัญใจคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาตีตลาดกลุ่มวัยรุ่นอเมริกัน ก่อนที่จะเป็นที่นิยมในหลายประเทศ​ ทำให้ Instagram ต้องนำมาใช้

ในช่วงปีที่ผ่านมา Facebook ได้นำฟีเจอร์นี้เข้ามาใช้งาน และผู้ใช้งานบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟีเจอร์นี้มาจาก Snapchat อย่างไรก็ตามหลายสื่อก็ได้ทำการวิเคราะห์ว่า Story นั้นเป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างเหมาะกับธรรมชาติการเล่น Social Network ของคนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น

จากการที่หน้า Timeline กลายเป็นเหมือนเวทีที่ให้แต่ละคนโพสต์เรื่องราวของตัวเองให้โลกได้รับรู้ กลายเป็น Story ที่สามารถตั้งได้ว่าจะแชร์ให้กับใครได้รู้บ้าง เหมือนกับว่าคนเราต้องการกลับไปหาความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ได้อยากอยู่กลาง spotlight ดังเช่น Facebook

นอกจากนี้นโยบายปัจจุบันของ Facebook คือการเป็นพื้นที่สำหรับเพื่อนและครอบครัวมากขึ้น เพื่อกู้ภาพลักษณ์แห่งแพร่กระจายข่าวปลอม และการชี้นำทางการเมืองที่กำลังเป็นประเด็นมาในช่วงปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การลด Reach ของ Publisher และสำนักข่าวต่าง ๆ รวมถึงปรับการแสดงผลจากเพื่อนให้สูงถึง 96% จากเรื่องทั้งหมดที่แสดงบน Newsfeed

ปกติแล้วก่อนที่ Facebook จะทำการ Release ฟีเจอร์อะไรใหม่ออกมา Facebook จะมีการทดสอบก่อน

ทาง Tech Crunch ได้ออกมาวิเคราะห์ถึง 3 การทดสอบของ Facebook ที่เราสามารถทำนายได้เลยว่า Facebook จะนำ Feature นี้มาเป็นฟีเจอร์หลัก เหมือนกับที่ตอนนี้ Instagram ของบางคนได้กลายเป็นมีไว้สำหรับอัพ Story อย่างเดียวแล้ว (จากเดิมที่เน้นไปที่การโพสต์รูป)

  • เวลาที่เราจะกด Post Status สิ่งที่แสดงขึ้นมาคือภาพล่าสุดจากเครื่องของเรา ทำให้เราสามารถแชร์เรื่องราวล่าสุดได้โดยทันที Facebook อาจจะไม่ไปไกลถึงขั้นว่าเปิดมาแล้วเจอกล้องเลยเหมือน Snapchat เพราะว่าการที่ให้คนเลือกเรื่องที่จะแชร์ได้ ก็คือสิ่งที่ทำให้ Facebook แตกต่างจาก Snapchat (Snapchat เอาภาพมาแชร์ได้แต่จะดูออกว่าไม่ใช่ถ่ายสด ณ ตอนนั้น)
  • เวลาที่เราใช้ฟีเจอร์ AR ของ Facebook ถ่ายรูป เราจะสามารถใช้แชร์ไปยัง Story ได้ทันที เป็นค่าเริ่มต้นจากเดิมที่มีตัวเลือกอื่น ๆ เช่น ส่งให้เพื่อนหรือโพสเป็นภาพ (การทดสอบนี้เกิดขึ้นที่ สาธรณรัฐโดมินิกัน)
  • Facebook เลือกเอา Story มาโชว์เหนือ Newsfeed ใต้ช่อง Search อันนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก และเห็นได้ชัดว่า Facebook พยายามดัน Story อย่างจริงจัง
  • และอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทาง Tech Crunch รายงานมา (แต่ไม่ได้รวมไว้ในต้นข่าว) ก็คือ Facebook ได้ทดลองเพิ่มฟีเจอร์การสร้าง Story บน Desktop แล้วใบบางประเทศ ( ข่าวเก่า )

Tech Crunch ยังวิเคราะห์ต่ออีกว่า เดิมทีนั้น Facebook เกิดขึ้นมาในยุคของ Computer ก่อนที่จะมี iPhone ที่นำ Smartphone มาสู่ตลาด แต่ Snapchat เกิดขึ้นมาในยุค Smartphone Phone และ Application และพฤติกรรมของคนก็ใช้งานผ่าน Smart Phone เป็นอันดับหนึ่ง

จะสังเกตว่า Social Network สมัยใหม่จะเน้นบน Mobile หมด โดยเฉพาะ Snapchat ที่มีเฉพาะบนมือถือเท่านั้น

การที่ Facebook พยายามปรับตัวเองให้กลายเป็น Social Network ที่ Base-on Mobile จริง ๆ อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ Facebook ต้องทำ นอกจากการทำให้ Facebook กลายเป็นพื้นที่สำหรับเพื่อนและครอบครัวที่แท้จริงแล้ว

ด้วยเหตุนี้ในฐานะที่เป็น Publisher ก็คงต้องถามตัวเองว่าเราจะปรับตัวกันอย่างไรในช่วงนี้จะมี Trend ใหม่เข้ามาคือ Video แนวตั้ง ซึ่งก็มีพื้นฐานมาจากการที่ Brand พยายามมีตัวตนบน Snapchat ปัจจุบันเพจหลายเพจเริ่มมาสื่อสารผ่านทาง Facebook Story มากขึ้น ดังนั้นเราควรเริ่มต้นศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติของ Social Network ในยุคที่เรียกได้ว่าเป็นยุค Mobile Phone

สรุป Key สำคัญที่ได้จากข่าวนี้ก็คือ

  • Facebook จะพยายามทำตัวเป็น Social Network ที่ทันสมัยมากขึ้น โดยเปลี่ยนจากตัวอักษรและรูปภาพ กลายเป็นภาพจากกล้องในเหตุการณ์จริง ณ ตอนนั้น และ AR ก่อนหน้านี้ Mark Zuckerberg ได้บอกว่า Facebook มีแผนที่จะใช้ AR ในการโฆษณา ( อ้างอิงจาก Digiday )
  • Story และ AR Camera กำลังจะมาแรงมาก
  • Facebook จะมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมากขึ้น ส่วนคอนเทนต์จากแบรนด์อาจจะต้องปรับรูปแบบไปคล้ายกับแบรนด์บน Snapchat

ที่มา

3 tests show Facebook is determined to make Stories the default – Tech Crunch

Facebook won’t retreat from Stories as it adds desktop posting

Facebook is building a team to pitch its AR camera to UK advertisers – Digiday

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save