โมเดล Premium Content หรือการจ่ายเงินเพื่อให้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์รูปแบบพิเศษนอกเหนือจากที่เปิดให้อ่านหรือรับชมได้ฟรี เป็นหนึ่งในโมเดลการทำธุรกิจของหลาย ๆ Publisher ที่มีการสร้าง Pay Wall ขึ้นมา เช่นเว็บข่าว New York Times, WIRED, Bloomberg ต่าง ๆ ส่วนในไทยเราอาจจะยังไม่คุ้นชินกันมากนัก แต่ในต่างประเทศนั้นโมเดลนี้ค่อนข้างมีให้เห็นกันได้เยอะในเว็บข่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของ Video นั้น ถ้าถามว่า Revenue จากการทำคอนเทนต์ในรูปแบบนี้จะมาจากไหน เราก็อาจจะนึกถึงโมเดลแบบ Advertroial, Sponsorship ซึ่งในไทยมีเยอะมาก หรืออีกอย่างก็คือโฆษณา Pre roll, mid roll ต่าง ๆ แต่ล่าสุดทาง Facebook ได้เปิดตัวโมเดลการ Revenue กับคอนเทนต์ประเภทวิดีโอแบบใหม่ ในชื่อว่า Fan Subscriptions
สำหรับ Fan Subscription นั้นคือการสมัครรับข้อมูล แต่ต้องจ่ายเงินเป็นรายเดือนเพื่อให้เข้าถึงคอนเทนต์จากเพจ หรือ Publisher นั้น ๆ ซึ่งจะเป็นการจ่ายเงินให้กับ Publisher ไม่ได้ให้กับ Facebook แล้ว Facebook ก็ค่อยหัก % เอา ซึ่งจะต่างจากข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมีโมเดลแบบจ่ายเงินให้กับ Facebook แล้วไม่มีโฆษณา ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว Model นี้ น่าเวิร์คกว่าเยอะเพราะเป็นการที่ Publisher และผู้ชมได้มาเจอกันโดยตรง
โมเดลนี้ทาง Facebook ยังไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแต่เปิดหน้าเว็บไว้ให้เราไปรอรับข่าวสาร ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีข่าวจากทาง Digiday บอกว่าทาง YouTube เองก็ได้กำลังทดสอบฟีเจอร์ดังกล่าวเหมือนกัน เรียกว่า Channel memberships ซึ่งทาง Google ก็ได้เผยราคามาแล้วอยู่ที่ 0.99 เหรียญไปจนถึง 49.99 เหรียญ เรียกได้ว่ามีความกว้างของระดับราคามาก ในขณะที่ทาง Facebook ยังไม่ได้บอกราคาที่เราสามาถตั้งได้
ก่อนหน้านี้เราเคยเขียนบทความเรื่อง หรือว่าเราผิดเองที่ทำให้คนดู มองว่าคอนเทนต์ควรเป็นของฟรี ซึ่งบอกว่าความเข้าใจในเรื่อง Premium Publisher หรือผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ทำคอนเทนต์ดีจริง ๆ นั้นต้องการการสนับสนุนจากผู้ชมมากกว่าแค่โฆษณา โดยเราสามารถดูโมเดลของ Reader Payment ต่าง ๆ ได้ตามตัวอย่างด้านล่าง
- กลยุทธ์การทำ User Payment ของ The Telegraph หวังสมาชิก 10 ล้านคน
- เว็บข่าวการเมือง Politico โตถึง 135 ล้านบาทต่อปี เบื้องหลังวิธีคิด
- เว็บข่าวฝรั่งเศส ปรับ Design ยังไงให้กระตุ้นคนสมัครเสียเงินอ่านถึง 20%
- มาดูเว็บข่าวระดับโลก เขาคิดค่าสมัครสมาชิกกี่บาท แพงแค่ไหน ทำไมคนยอมจ่าย
จะพบว่า การลองนำโมเดลเหล่านี้มาใช้กับ Video นั้นมีความน่าสนใจมาก ถ้าวิเคราะห์กันถึงประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ จะกว้างกับหลายกลุ่มมาก โดยเฉพาะ คอร์สออนไลน์ต่าง ๆ ที่อาจจะไม่ต้องไปหา Platform อื่นแล้ว มาอยู่บน Facebook, YouTube ได้เลย ขายคอร์สกันบน Facebook, YouTube หรือการถ่ายทอดสดต่าง ๆ เช่นการแข่งกันกีฬา, ความบันเทิง ก็สามารถอยู่บน Facebook, YouTube ได้เลย
และอย่าลืมว่าโมเดลพวกนี้เกิดขึ้นแล้วกับ Platform เว็บ เช่น Google News Subscription หรือ Apple News+
แน่นอนว่าอีกไม่นาน แนวคิดเรื่อง Reader Payment จะมาแรงแบบจริงจัง ซึ่งก็คงสร้างประโยชน์ในระยะยาวตั้งแต่ในแง่ของ Publisher สามารถมีทุนในการทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรียก Like, Engagement และโฟกัสกับคอนเทนต์จริง ๆ เพราะรายได้มาจากคนดู ไม่ได้มาจากโฆษณา และจะช่วยภาพรวมของการสร้าง Quality Journalism ให้แข็งแกร่งขึ้น ไปสู่กับ Publisher ที่สนแต่ Like, Engagement แต่นำเสนอ Fake News ได้
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Rainmaker