จากที่เฟซบุ๊กได้ประกาศขยายโปรแกรม Community Manager เพิ่มหลายภาษา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีภาษาไทยด้วย เพื่อต้องการสนับสนุนให้ผู้คนได้เข้าถึงทักษะความรู้ในเรื่องของแนวทางปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการชุมชนออนไลน์ (Community Manager) ได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยโปรแกรมเวอร์ชันภาษาไทยได้เปิดให้ใช้ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 เป็นต้นไป
แต่พูดถึงหลักสูตรออนไลน์ Community Manager หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจดีว่าความสำคัญของผู้จัดการชุมชนคืออะไร ทำไมต้องมี และจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อไปสอบวัดผลให้มีใบรับรอง วันนี้ RAiNMaker จะมาอธิบายให้หายสงสัยกันค่ะ
ความสำคัญของ Community Manager
เนื่องจากในปัจจุบันเฟซบุ๊กเล็งเห็นถึงความสำคัญของชุมชนออนไลน์ หรือ Community มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สังเกตจากการที่ทางเฟซบุ๊กได้ลดยอดการเข้าถึงโพสต์ลง และมีการเพิ่มการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกลุ่มเข้ามาในกล่องแจ้งเตือน รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ อีกมากมายภายในกลุ่ม
ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยผลักดันชุมชนออนไลน์ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อสร้างความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วม และสื่อสารกับคนอื่นๆ ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันได้ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชุมชนเลยก็คือ ‘ผู้จัดการชุมชนออนไลน์’ หรือ Community Manager นั่นเองที่เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยสร้าง และรักษาชุมชนเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน คอยพัฒนากลยุทธ์เพื่อให้ชุมชนสามารถเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ และวัดผลความสำเร็จของชุมชน
ซึ่งทางเฟซบุ๊กก็ได้เปิดตัวโปรแกรม Certified Community Manager ไปตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา แต่มีแค่รูปแบบภาษาอังกฤษเท่านั้น จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาก็ได้ประกาศว่าโปรแกรมการสร้างชุมชน ที่รวมถึงคอร์สคอร์สออนไลน์เกี่ยวกับการจัดการชุมชน ผ่าน Facebook Blueprint จะมีหลากหลายภาษามากขึ้น ทั้งภาษาอารบิก ฝรั่งเศส เยอรมัน อินโดนีเซีย โปรตุเกส สเปน รวมถึงไทยด้วย นับเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงหลักสูตรได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ในอนาคตการมีทักษะะในการสร้าง และดูแลชุมชนก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น หากการใครที่มีทักษะในการจัดการชุมชนออนไลน์ หรือมีใบรับรองจากเฟซบุ๊กอยู่ในเรซูเม หรือใบสมัครงานก็อาจเป็นประโยชน์มากขึ้นก็ได้
ในหลักสูตรมีอะไรบ้าง?
หลักสูตรจะครอบคลุมเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการสร้างและดูแลชุมชนออนไลน์ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทักษะในการควบคุม และกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมในชุมชน โดยหลักสูตรในแต่ละหัวข้อจะให้ความรู้ในแต่ละขั้นตอนและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชุมชนของตัวเองได้ รวมถึงสามารถดึงดูดความสนใจ ขยาย และรักษาชุมชนออนไลน์ให้เดินทางบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด
โดยในหลักสูตรจะแบ่งบทเรียนออกเป็น 5 บทหลักๆ ด้วยกัน ดังนี้
- กำหนดนิยามและสร้างชุมชน
- พัฒนากลยุทธ์สำหรับชุมชนและกระบวนการ
- ทำการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับเนื้อหาสำหรับชุมชน
- มีส่วนร่วมและควบคุมชุมชน
- วัดผลและวิเคราะห์ความสำเร็จของชุมชน
วิธีการเรียนสามารถทำได้ง่ายๆ โดยเรียนบนออนไลน์ ล็อกอินผ่านเฟซบุ๊กได้เลย และในทุกๆ บทเรียนจะมีลิงก์แทรกเพื่ออธิบายรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมจากบทเรียน รวมถึงมีคำถามท้ายบทเพื่อเป็นตัววัดความเข้าใจให้ลองทำ ที่สำคัญทางเฟซบุ๊กจะมีระแบบการ Tracking เพื่อดูว่าเราเรียนอะไรไปบ้าง เมื่อเรียนจบแต่ละบทจะมีเครื่องหมายติ๊กถูกเช็กว่าเรียนจบบทนี้แล้ว และจะระบุวันที่เรียนจบของแต่ละบทไว้อีกด้วย
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดหลักสูตรได้ที่ : หลักสูตรออนไลน์สำหรับผู้จัดการชุมชน Facebook
มี Pre-test ให้ทดลองทำ
ข้อดีของหลักสูตรนี้คือจะมีแบบทดสอบให้ลองทำจำนวน 30 ข้อด้วยกัน เมื่อทำเสร็จปุ๊บก็จะรู้คะแนนปั๊บ นอกจากจะมีเฉลยอย่างละเอียด แล้วยังมีการวิเคราะห์จากผลคะแนนเพื่อแนะนำว่าเราควรเรียนรู้ในบทไหนเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งก็จะทำให้รู้ว่าเราควรทบทวนบทไหนมากเป็นพิเศษนั่นเอง
สามารถเข้าไปลองทำแบบทดสอบได้ที่ : แบบทดสอบผู้จัดการชุมชน Facebook
สมัครสอบยังไง? สอบที่ไหนได้บ้าง?
แน่นอนว่าภาษาไทยนั้นครอบคลุมมาจนถึงข้อสอบเช่นเดียวกัน แต่ข้อสอบจริงจะมีจำนวนข้อมากกว่าแบบทดสอบ คือ มีทั้งหมด 60 ข้อ และมีเวลาในการทำข้อสอบ 120 นาที โดยผู้สอบสามารถเลือกได้ว่าจะสอบผ่านระบบออนไลน์ หรือไปสอบที่สนามสอบก็ได้ ซึ่งสนามสอบในประเทศไทยอยู่ที่ Pearson Professional Centers ตั้งอยู่ที่ตึก Bangkok Business Building สุขุมวิท 21
สำหรับใครที่สะดวกสอบออนไลน์สามารถเข้าไปดูกระบวนการ และนโยบายในการสอบ รวมถึงวิธีการจอง และการสมัครสอบได้ที่ : ภาพรวมของกระบวนการสอบ
ความพิเศษของการสอบ คือ เมื่อใครที่สอบผ่านจะได้ Digital Badge ที่สามารถตรวจสอบได้ผ่าน Acclaim ซึ่งเป็นระบบส่งเครื่องหมายเพื่อเป็นการยืนยัน ซึ่งสามารถนำไปใส่ในพอร์ต หรือเรซูเม่ได้เลย โดยตัวรับรองนี้จะมีอายุ 1 ปีด้วยกัน หากใกล้จะหมดอายุสามารถไปสอบก่อนวันหมดอายุเพื่อต่ออายุได้ ในกรณีที่ไม่ผ่านการทดสอบ จะมีสิทธิ์ทำข้อสอบใหม่หลังจากการสอบผ่านไป 5 วัน