เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นวันที่ Facebook มีอายุครบรอบ 20 ปีแล้ว! ซึ่งแน่นอนว่าใครหลาย ๆ คนต่างก็เติบโตมาพร้อมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสีน้ำเงินที่ค้นตา และซีอีโออย่าง Mark Zuckerberg ก็ได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ตัวเอง ย้อนไปสมัยเมื่อ Meta ยังถูกเรียกว่า “TheFacebook” อยู่
จาก TheFacebook แหล่งรวมข้อมูลนักศึกษาของมหาลัยที่สร้างโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 4 คน อย่าง Mark Zuckerberg, Dustin Moskovitz, Chris Hughes และ Eduardo Saverin แล้วขยายไปยังมหาลัยอื่น ๆ
จนกลายมาเป็น Facebook แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยุคบุกเบิกที่โพสต์รูปภาพ มีหน้าฟีดเพื่ออัปเดตไทม์ไลน์ชีวิตของเหล่าเพื่อน และครอบครัว ก็มีปุ่ม Reaction อย่างปุ่มไลก์ จนกลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบเต็มตัว ให้คนได้เชื่อมต่อถึงกัน
แถมยังมีภาพยนตร์เล่าถึงความเป็นมาของ Facebook อย่าง The Social Network มาให้รับชมกันว่ากว่าจะมาเป็น Facebook นั้นทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน และธุรกิจมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
และก็มาถึงยุคที่ Facebook เข้าซื้อ Instagram และ WhatsApp พร้อมเข้าสู่ตลาดหุ้น และเริ่มเข้าสู่ตลาดโลก VR โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Meta Platform” สะท้อนวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะเน้นไปทาง Metaverse มากขึ้น แม้จะช่วงที่ต้องปลดพนักงานครั้งใหญ่ และในปีที่ครบรอบ 20 ปี Meta ก็สร้างสถิติมูลค่ากิจการใหม่ถึง 1.22 ล้านล้านดอลลาร์
แต่ก็วันครบรอบ 20 ปีของ Meta ในปีนี้ก็ไม่ได้มีแค่เรื่องที่น่าฉลองเท่านั้น เพราะ Mark Zuckerberg ต้องมีการจัดการ และป้องกันเยาวชนกับโลกโซเชียลมีเดียที่ดีกว่านี้ เช่นเดียวกับผู้บริหารของแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง TikTok, Snap, X และ Discord
ต้องเผชิญกับการไต่สวนของวุฒิสภาสหรัฐฯ ณ ชั้นศาลเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา กับปัญหาจากสิ่งที่ตัวเองสร้างเพราะมีหลายครอบครัวที่พบว่าลูก ๆ ของพวกเขากลายเป็นเหยื่อทางโซเชียลมีเดีย และ Social Harassment โดยที่ Meta หรือ Facebook ถูกครหามานาน และไม่ได้มีการแก้ไขจนปัญหาที่บ่มเพาะเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงมากขึ้น
ซึ่งคงต้องรอดูต่อไปว่าการขอโทษต่อหน้าสาธารณะ และแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าชั้นศาลครั้งนี้จะเพียงพอต่อการแก้ไขให้ผลกระทบลดลงได้หรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่ Facebook แต่ทั้ง TikTok, Snap, X และ Discord ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ก็ส่งผลกระทบต่อเยาวชนไม่ต่างกัน