วันวาเลนไทน์ใกล้เข้ามาแล้ว! สิ่งที่แบรนด์และนักการตลาดไม่ควรพลาด ก็คือการตักตวงโอกาสพิเศษจากเทศกาลแห่งความรักในการทำการตลาดนั่นเอง เพราะสำหรับผู้บริโภคแล้วคงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นไม่น้อย หากได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการตลาด และกลิ่นอายของวันแห่งความรักด้วยกันทั่วโลก ทาง RAiNMaker จึงได้สรุปเทรนด์การตลาดกับ Facebook มาให้แบรนด์นำไปประยุกต์ใช้ และทำความเข้าใจกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น!
Valentine’s Day Trends 2022 เป็นไกด์เทรนด์ทางการตลาดใหม่ที่ Facebook Marketplace ได้จัดทำขึ้นมา เพื่อให้เหล่าแบรนด์ และนักการตลาดทั้งหลายได้เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในเทศกาลวันแห่งความรัก เพราะนอกจากวันวาเลนไทน์จะเต็มไปด้วยความรักแล้ว การโน้มน้าวผู้บริโภคในช่วงเทศกาลก็เป็นสิ่งที่น่าหอมหวานสำหรับหลาย ๆ แบรนด์เช่นเดียวกัน
โดยจากผลสำรวจ ‘Top Online Valentine’s Day Searchs’ ของผู้บริโภค มีดังนี้
- Unique Valentine’s Day gifts
- Valentine’s Day gifts for him
- Valentine’s Day gifts for mom
- Valentine’s Day gifts for her
- Cute Valentine’s Day gift
ซึ่ง 5 จาก 10 อันดับแรกของการเสิร์ชหาของขวัญวันวาเลนไทน์แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคมีความต้องการของขวัญที่แปลกใหม่ และแตกต่างสำหรับคนที่รักในโอกาสพิเศษ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์แบบคนรัก และครอบครัว นอกจากนี้ยังพบบว่าของขวัญที่วางแผนจะซื้อให้กับคนรัก พวกเขานจะให้ความสำคัญกับของขวัญแบบเบสิคอยู่ โดยมีของหวานและช็อคโกแลตเป็นตัวเอกของวันวาเลนไทน์นั่นเอง
ดังนั้นสิ่งต่อไปที่แบรนด์ และนักการตลาดควรทำต่อไป คือการศึกษากลุ่มเป้าหมายของตัวเองให้เข้าใจว่าพวกเขาชอบอะไรในแบรนด์ของเรา เพื่อที่จะได้จัดหาโอกาสหรือราคาพิเศษมามอบให้พวกเขารู้สึกพิเศษไปด้วย แต่จะเริ่มอย่างไร RAiNMaker สรุปทิปมัดใจนักช้อปในวันแห่งความรักมาให้ที่นี่แล้ว!
ยกระดับการขายจากความเข้าใจ
รีวิว Top search ให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกพิเศษ
บางครั้งสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายของเราต้องการไม่ใช่แค่การได้ของตามที่ต้องการเท่านั้น แต่พวกเขาแค่ต้องการ ‘แบรนด์ที่เข้าใจ’ โดยเฉพาะการเข้าใจที่รู้ว่าพวกเขาชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร เพราะหากแบรนด์สามารถนำข้อมูล (Data) หรือพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายมาประยุกต์ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจ และสร้างความภักดี (Loyalty) ให้เหนียวแน่นขึ้นได้
แต่การที่มีข้อมูลเก็บไว้อย่างเดียวคงไม่พอ แต่แบรนด์ต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ด้วยว่านำความชอบ และพฤติกรรมจาก ‘Top research’ ของพวกเขามาใช้จริง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกพิเศษ และถูกเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
ยิ่งในโอกาสพิเศษอย่างวันวาเลนไทน์แล้ว จึงไม่ได้มีแค่ผู้บริโภคเท่านั้นที่ช้อปเพื่อคนที่รัก แต่แบรนด์ก็สามารถทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษระหว่างแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมายในวันแห่งความรักได้เหมือนกันนะ
โปรโมตอย่างรู้เขารู้เรา
รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายชอบอะไรก็เสิร์ฟแบบนั้น
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ไหน ๆ สิ่งที่พวกเขาชอบเหมือนกันแน่นอนก็คือคำว่า ‘Promotion’ และ ‘Sale’ ซึ่งเป็นคำที่สามารถดึงดูด และโน้มน้าวความสนใจแบรนด์ให้กับพวกเขาอย่างมาก
ฉะนั้นหน้าที่ของแบรนด์คือการเสิร์ฟในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายตั้งหน้าตั้งตารอคอย ไม่ว่าจะเป็นราคาพิเศษ โปรโมชันพิเศษ หรือไอเท็มที่เป็นลิมิเต็ดเฉพาะวันแห่งความรักเท่านั้น โดยย่าลืมหาคีย์เวิร์ดที่พวกเขาชอบหรือสนใจมาใช้ด้วย หากโปรโมตลงโซเชียลมีเดียก็ใส่แฮชแท็กเป็นของตัวเองเพื่อเพิ่มการมองเห็นได้เลย เพราะจะทำให้พวกเขาอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น รวมถึงสามารถตกกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้ด้วย
ดังนั้นวันวาเลนไทน์จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะในการสร้างสรรค์โปรโมชัน และราคาพิเศษต่าง ๆ ของแบรนด์ให้น่าตื่นเต้นมากขึ้น เพราะหากแบรนด์ของคุณสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ ในปีต่อ ๆ ไปแต่เทศกาลเดียวกัน พวกเขาก็จะรอคอยความพิเศษจากแบรนด์ของคุณแน่นอน
สวมบทนักโฆษณาแบบเล่าเรื่อง
เพราะการขายมีที่มาเสมอ
หากแบรนด์รู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายชอบอะไร หรืออยากได้ความประทับใจแบบไหน สิ่งต่อไปที่ควรสานต่อการขายให้มีคุณค่ากับพวกเขามากขึ้น คือ ‘การขายแบบเล่าเรื่อง’ เพราะไม่ว่าใครก็ชอบสิ่งที่มีเรื่องราว หรือมีความหมาย
เนื่องจากจะทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าของมันต้องมี หรือพลาดไม่ได้ เพราะเมื่อได้ซื้อมาแล้วมันจะไม่ได้เป็นแค่แบรนด์ ๆ หนึ่งที่มีเป็นของตัวเอง แต่มันอาจจะกลายเป็นความทรงจำระยะยาวที่เห็นเมื่อไหร่ก็นึกถึงเรื่องราวของแบรนด์ได้เสมอ
แต่การโฆษณาแบบเล่าเรื่องก็ต้องเลือกให้ดีว่าจะอิงกับเรื่องราวความจริงแค่ไหน หรือว่าจะทำให้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นพร้อมสร้างจินตนาการให้กลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงเรื่องเล่าที่ไม่มีแก่นสาร แต่ทำให้จดจำเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ก็มีเช่นกัน ขึ้นอยู่กับแบรนด์เลยว่าอยากจะนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์แบบไหน ขอแค่กล้าที่จะเล่าเรื่องในการขายให้มีกิมมิก และเป็นที่จดจำก็พอ
จากทิปเล็ก ๆ ทั้ง 3 ข้อบ่งบอกได้ว่าไม่ได้มีแค่ผู้บริโภคเท่านั้นที่อยากจะซื้อของให้คนที่รัก เพื่อที่จะได้รู้สึกเป็นที่รัก แต่หากแบรนด์เลือกที่จะทำการตลาดอย่างเข้าใจ ใส่ใจ และพร้อมที่จะใช้ข้อมูลที่มีมาประยุกต์กับการขาย และโฆษณาเพื่อมัดใจ แบรนด์ก็สามารถกลายเป็น ‘แบรนด์ที่รัก’ ของกลุ่มเป้าหมายได้เช่นเดียวกัน
ที่มา: Social Media Today