ใครเคยสงสัยมั้ย? ว่าทำไมเว็บไซต์ของเราไม่เคยติดอันดับการค้นหาในหน้าแรกเลย หากเราเจอปัญหาแบบนั้นแล้วไม่อยากเสียเงินให้กับการยิง Ads ลองหันมาทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะเห็นเว็บไซต์ของเราแบบ Organic มากขึ้น และพาเว็บไซต์ติดอันดับได้ด้วย
นอกจากการใช้เครื่องมือ SEO เข้ามาช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์ของเรา ยังสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์ Keyword เพื่อนำไปสู่การสร้างคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับ Keyword ตอบโจทย์อัลกอรึทึมที่จัดอันดับเว็บไซต์ของเราบน Search Engine ให้มองว่าเนื้อหาบนเว็บไซค์ของเรามีคุณภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการติดอันดับบนหน้าแรกนั่นเอง
วันนี้ RAiNMaker ได้รวม 9 Tools และ Plugins สำหรับมือใหม่ หรือคนที่ต้องการพัฒนาเว็บไซต์ได้ใช้กันฟรี ๆ! ดังนี้
- Ahrefs SEO Toolbar: เป็นเครื่องมือติดตามประสิทธิภาพอันดับ, ตรวจสอบ Organic Traffic และหาไอเดีย Keyword ที่คลอบคลุมสำหรับการทำ SEO ที่สุด รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์การทำ Backlink และเช็กความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ได้อีกด้วย ซึ่งเครื่องมือนี้สามารถใช้ฟรี และมีตัวเลือกเสียเงินให้เลือกใช้งานเพิ่มเติม
- Keyword Surfer: เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ Keyword โดยเฉพาะ เพื่อหาปริมาณการค้นหา และ Keyword ที่คล้ายกัน เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบได้ รวมถึงการคำนวณปริมาณการเข้าชม โดยประมาณของแต่ละโดเมน และราคาต่อการคลิกหนึ่งครั้ง (CPC) สำหรับ Keyword
- Redirect Path: นอกจากการพัฒนาเว็บไซต์ เราก็จะต้องตรวจข้อผิดพลาดของลิงก์ด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่องมือนี้จะช่วยแจ้งเตือนปัญหาทางเทคนิคให้กับเรา หากเรารันโปรแกรมแล้วเกิดข้อผิดพลาด จะมีการแจ้งเตือนสัญลักษณ์สีแดง และจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อลิงก์พร้อมใช้งานแล้ว
- SEO META in 1 CLICK: เป็นเครื่องมือเพื่อการปรับแต่ง On-Page SEO อย่าง Heading, Description, Title และการตั้งชื่อรูปภาพบนเว็บไซต์ รวมถึงสามารถเช็กการใส่ลิงก์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
- Textmagic: เป็นหนึ่งในเครื่องมือ SERP Preview Tool เพื่อให้เราสามารถเช็กการแสดงผลของหน้าเว็บไซต์บนหน้าหลักของ Search Engine จะช่วยให้เราสามารถเห็นภาพของ Title และ Description รวมถึง Keywoed ที่เราเลือกใช้ ว่าจะแสดงผลให้ผู้ใช้งานเห็นในรูปแบบไหน เพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีความโดดเด่นน่ากดคลิกเข้ามาดู
- SEO Broken Link Checker: ตัวช่วยตรวจสอบลิงก์เสีย หากไฮเปอร์ลิงก์ของเว็บไซต์ไม่สามารถกดต่อไปยังหน้าเว็บไซต์ปลายทางได้ ก็จะทำให้เราเสียโอกาสในการทำ Backlink เพราะฉะนั้นการแก้ไขลิงก์ให้ถูกต้องจะเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ของเราได้
- Google Keyword Planner: เครื่องมือที่ Keyword Research เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของแต่ละ Keyword ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการค้นหา (Search Volume) และระดับการแข่งขันของ Keyword แต่ละคำ ให้เราสามารถใช้ Keyword เพื่อเพิ่มอันดับหน้าเว็บไซต์ให้ติดอันดับแรก ๆ รวมถึงสามารถศึกษาคู่แข่งได้ เพียงแค่เราสมัครบัญชีของ Google Ads ก็สามารถใช้งาน Google Keyword Planner ได้ฟรี
- Google Search Console: เครื่องมือเพื่อศึกษาประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากเว็บไซต์ของเรา โดย Google จะรายงานยอดการเข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic และ Keyword ที่ผู้ใช้ใช้ในการค้นหา รวมถึงสามารถดูได้ว่าเว็บไซต์ไหนติด Backlink กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา ที่สำคัญเครื่องมือนี้ยังรองรับการแสดงผลบนโทรศัพท์อีกด้วย
- SEMRush: หากเราต้องการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทั้งฝั่งของเราเอง และฝั่งของคู่แข่ง เพื่อนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์ ซึ่งเราสามารถใช้ Keyword เพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้มากถึง 5 โดเมน รวมถึงสามารถติดตามอันดับของ Keyword ที่เราต้องการใช้อีกด้วย โดยเครื่องมือนี้จะสามารถใช้ได้ฟรี 14 วัน
จากเครื่องมือที่ได้กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างเครื่องมือเพื่อช่วยให้สามารถเพิ่ม Traffic เข้าถึงเว็บไซต์ แถมยังใช้งานได้ฟรี โดยไม่ต้องใช้งบในการโฆษณาเพิ่ม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำการตลาดในยุค Digital Marketing เพราะการทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับทำให้เว็บไซต์ของเราน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นให้กับธุรกิจของเรา
