ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงนี้กระแสของอะไรก็ตามที่เป็นแนวตั้งจะมาแรงมาก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็เริ่มต้นจากการที่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียบนมือถือเพิ่มมากขึ้นจนแทบจะเป็นช่องทางหลักของการเสพสื่อ ดังนั้นเราจะเห็นว่ามีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เป็นคอนเทนต์แนวตั้งมากมาย ทั้งบน Facebook, Snapchat และ Instagram
ในงาน F8 ที่ผ่านมา Facebook ได้ประกาศเพิ่ม API ที่ทำให้แต่ละแอพสามารถสร้าง Story แล้วนำมาแชร์ได้อัตโนมัติ โดยมี 2 แบรนด์ที่เป็น Partner หลักของฟีเจอร์นี้ได้แก่ GoPro และ Spotify โดยทั้งคู่จะมีการ integrate แอพเข้ากับ Instagram Story และสามารถสร้าง Story ได้เองโดยที่ไม่ต้องออกจากแอพเลย
โดยเฉพาะ GoPro แบรนด์กล้อง Action Camera ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้ใช้กล้อง GoPro ในการถ่ายบรรยากาศต่าง ๆ ที่แปลกตา และถ่ายทอดมุมมองใหม่ ๆ ออกมาสู่โลกนั้น เดิมทีมันถูกออกแบบมาเพื่อบันทึกวิดีโอแล้ว export ออกมาแชร์ภายหลังบน Facebook และ YouTube แต่ล่าสุด GoPro ได้พบว่าผู้ใช้งานได้มีพฤติกรรมการใช้งานใหม่ ๆ คือ ผู้ใช้งาน GoPro หมุนกล้อง GoPro ให้เป็นการถ่ายแนวตั้ง เพื่อให้สามารถนำวิดีโอลงใน Story ได้
ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอพ GoPro ที่เชื่อมต่อกล้อง GoPro เข้ากับ Smart Phone ของตัวเองกว่า 3.4 ล้านราย ในแอพ Quik ของ Go Pro ล่าสุดก็ได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานอัพโหลดคลิปที่ถ่ายผ่าน Go Pro ขึ้น Instagram Story ได้
จากการศึกษาของ IPG Media Lab พบว่า ใน ไตรมาสที่ 3 ของปี 2017 มีผู้อัพโหลด Story ของตัวเองบนแอพต่าง ๆ ตั้งแต่ Snapchat ไปจนถึง Instragram มากถึง 646 ล้าน Stories สรุปได้ว่าการใช้งาน Story นั้นเพิ่มสูงถึง 435% จากปีก่อน
Mark Zuckerberg ยังกล่าวว่า “ฟีเจอร์ Story นั้นเป็นวิธีการแชร์ที่ดีสำหรับการแชร์วิดีโอสั้น ๆ ให้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างวัน” ซึ่งหลายสำนักก็วิเคราะห์ตรงกันว่า ซักวัน Facebook อาจจะให้ความสำคัญกับ Story จนกลายมาเป็นฟีเจอร์หลักของ Facebook และ Instagram ก็ได้
อ้างอิง
How GoPro and Spotify are using Facebook Stories – Digiday