บาส อดีตมือกีต้าร์วงดนตรีป๊อบ Better Weather ที่ต่อยอดจากความฝันเที่ยวรอบโลก สู่การเป็นครีเอเตอร์สายท่องเที่ยวเปิดเพจทำช่อง YouTube ‘Go Went Go’ จากยุคแรกเริ่มของครีเอเตอร์ จนต่อยอดสร้างบริษัทเป็นอาชีพหลักในทุกวันนี้ พร้อมผู้ติดตามกว่าล้านคน
การทำคอนเทนต์ ในวันที่ครีเอเตอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย
บาสกล่าวว่าครีเอเตอร์ไม่สามารถใช้ความรู้ชุดเดิมในการทำเรียนรู้ หรือทำคอนเทนต์ได้ตลอด ยิ่งปัจจุบันที่โลกเปลี่ยนแปลงบนเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ครีเอเตอร์ต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เข้าใจผู้บริโภคมากที่สุด
เขาแชร์มุมมองว่าสิ่งสำคัญในการทำคอนเทนต์ในฉบับ Go Went Go คือ การเอาความชอบของตัวเองเป็นตัวตั้ง ควบคู่กับการศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค และดูว่าธรรมชาติของแต่ละแพลตฟอร์มเป็นอย่างไร เพื่อนำมาประกอบร่างเป็นคอนเทนต์ที่ดี
นอกจากนี้ บาสเสริมว่าคนที่มีความรู้หลากหลาย และปรับตัวได้เร็ว มีแนวโน้มที่จะเอาตัวรอดได้ดีในวันที่โลกเต็มไปด้วยครีเอเตอร์หน้าใหม่ ๆ รวมถึงควรนำสิ่งที่มีอยู่มาต่อยอดสร้างคุณค่าอะไรบางอย่างให้กับคนดู มากกว่าความบันเทิง ซึ่งต้องทำอยู่บนพื้นฐานความสุข และเป็นตัวเอง สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถทำงานได้ในระยะยาว
การปรับตัวสู่แพลตฟอร์มใหม่ ๆ
สำหรับบาสยังคงมองการปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่ ๆ เป็นเรื่องยาก แต่สุดท้ายแล้วคนเราก็หนีไม่พ้นการปรับตัว ควบคู่ไปกับการทดลองสิ่งใหม่ ๆ อาจจะเหนื่อยมากขึ้น แต่มันจะช่วยให้รู้ว่าอะไรดีไม่ดี เพื่อให้แต่ละคอนเทนต์ที่ทำออกมาเหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์มมากขึ้น สิ่งนี้เองก็จะช่วยเสริมให้เรามีจุดยืนที่แข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
แต่สิ่งที่บาสยึดมั่น และฝากเป็นข้อแนะนำให้สำหรับทุกคนคือ ถึงแม้แพลตฟอร์มใหม่ ๆ จะเป็นอีกทางเลือกที่ดี แต่ถ้าหากเราทำแล้วไม่มีความสุข หรือไม่เหมาะกับตัวเอง ก็ไม่ควรที่จะฝืนทำต่อไป
บทเรียนสำหรับครีเอเตอร์สายท่องเที่ยว
บาสเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในวงการครีเอเตอร์มาเป็นระยะเวลานาน ระหว่างทางจึงมีบทเรียนมากมายให้ได้เรียนรู้ ในฐานะครีเอเตอร์สายท่องเที่ยว สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดในวงการที่เขาอยากฝากถึงคือ เรื่องของการทำงานอย่างมืออาชีพ
หากให้คนอื่นมองมา อาจเกิดความคิดว่าครีเอเตอร์คงได้สิทธิพิเศษในการเที่ยว กิน หรือพักฟรีอยู่บ่อย ๆ แต่ในความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป บาสอธิบายเพิ่มเติมว่า ในวงการนี้ทุกฝ่ายคือการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
หลายคนอาจเห็นประเด็นดราม่าในวงการท่องเที่ยวอยู่บ้าง ทั้งการที่ครีเอเตอร์ออกพูดถึงสถานที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หรือแม้แต่สถานที่เอง ที่ออกมาพูดในเชิงลบถึงตัวครีเอเตอร์ก็ตาม นั่นเป็นเพราะความไม่เข้าใจกันนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตั้งความคาดหวัง และการร้องขอบางสิ่งกับอีกฝ่ายมากจนเกินไป หรือการไม่เคารพในการทำงงานของแต่ละฝ่าย
บาสอธิบายให้เห็นภาพง่ายขึ้นโดยการบอกว่า ทุกฝ่ายมีคุณค่าของตัวเอง อย่างครีเอเตอร์ก็มีชุดความคิดสร้างสรรค์ และค่าใช้จ่ายสำหรับการทำคอนเทนต์ ส่วนสถานที่เองก็มีค่าใช้จ่าย และมีคุณค่าในแบบของเขา ดังนั้นการจะนำคุณค่าของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนกัน มันก็ต้องมีความวิน-วินทั้งสองฝ่าย และการทำงานควรจะมาพร้อมการให้เกียรติ และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ร่วมกันได้อย่างสบายใจ
ในส่วนอื่น ๆ ของการทำงาน ครีเอเตอร์ควรรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ทั้งในการทำงานของตัวเอง และการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมไปถึงการปฏิบัติตัวต่อสถานที่ต่าง ๆ ที่ไปถ่ายทำ ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น
ครีเอเตอร์ต้องรับผิดชอบคนดูมากกว่าการแนะนำสถานที่เที่ยว อย่างการให้ข้อมูลไปถึงข้อควรระวังก่อนที่จะไปสถานที่นั้น ๆ รวมถึงคิดรับผิดชอบต่อเจ้าของสถานที่ ในกรณีที่หากโพสต์คอนเทนต์ไปแล้วมีคนไปตามเยอะมาก เขาจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง บาสจึงฝากให้ครีเอเตอร์ควรรวบรวมประสบการณ์เหล่านี้เป็นบทเรียนในการทำงานต่อไป
การทำงานร่วมกับแบรนด์
สิ่งแรกที่บาสพูดออกมาคือ ครีเอเตอร์ต้องชัดเจนตั้งแต่แรกในสิ่งที่ตัวเองทำได้และไม่ได้ ควรคุยข้อตกลงทุกอย่างให้ชัดเจนก่อนเริ่มงานทั้งหมด พร้อมหลักฐานกำกับ เนื่องจากยังมีหลายแบรนด์ที่ไม่เข้าใจครีเอเตอร์ และยังคิดว่าครีเอเตอร์เป็นเหมือนนักแสดงที่สามารถมอบบทบาทที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เขาเป็นให้
ซึ่งเมื่อทำแบบนั้นแล้วแบรนด์ก็จะไม่ได้ประโยชน์จากผู้ติดตามของครีเอเตอร์ เพราะฉะนั้นแบรนด์เองต้องมองหาครีเอเตอร์ที่สามารถเป็นตัวแทนได้ และต้องบอกจุดประสงค์ให้ชัดเจน ภายใต้การให้อิสระครีเอเตอร์ในการทำงาน เพื่อให้เขาเป็นตัวของตัวเอง บาสทิ้งท้ายว่าในการทำงานร่วมกันจะต้องได้ผลลัพธ์แบบวิน-วินทุกฝ่าย ทั้งแบรนด์ เอเจนซี ครีเอเตอร์ และคนดู ถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ