จากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทั้งเรื่องการขึ้นศาลของพี่มาร์คไปจนถึงบริการออนไลน์หลายเจ้าทำข้อมูลหลุดแล้วหลุดอีก ทำให้หลายคนเริ่มเข้าใจและมาใส่ใจในเรื่องของ privacy มากขึ้น
หลายคนคงทราบเรื่องราวของ Facebook กันมาบ้างแล้ว สำหรับฟีเจอร์ Clear History ซึ่งที่ผ่านมา Facebook เก็บข้อมูลเราไว้ตั้งแต่ Day 1 ของการสมัครบัญชี ซึ่งผู้ใช้ไม่สามารถกดลบประวัติของตัวเองได้
ใครที่ยังไม่ได้ตามเรื่องนี้ ลองอ่านจากโพสต์นี้ได้ครับ Facebook เผย ฟีเจอร์ Clear History จะมาเดือนหน้า พร้อมเตือนว่าอาจกระทบต่อการโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมาย
ในบทความนี้เรามาคุยกันในส่วนของ Google กันบ้าง ที่เป็นผู้ให้บริการออนไลน์หลายอย่าง ตั้งแต่ Search Engine, E-Mail, Cloud Storage และอีกมากมาย
ซึ่งคนทำงานบนโลกออนไลน์ในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าต้องใช้บริการของ Google กันทุกคน (หลายคนเข้า Facebook โดยการ seach ผ่าน Google) และแน่นอนว่า Google เองก็เก็บข้อมูลของผู้ใช้เช่นกัน
Google มีข้อมูลอะไรจากเราบ้าง
ข้อมูลที่ Google มีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือข้อมูลที่เราเป็นคนใส่เอง และข้อมูลที่ได้จากการ track activity ในชีวิตประจำวัน
1) Personal Info
ผู้ใช้ที่มีบัญชีของ Google ทุกคน จะมีหน้า Dashboard ที่เอาไว้สำหรับจัดการข้อมูลได้ โดยเข้าไปที่ Google Account ในส่วนของ Personal Info ที่เข้าจากเมนูด้านซ้าย เราสามารถดูได้ว่าเคยใส่ข้อมูลอะไรไว้ใน account บ้าง
รวมไปถึงในส่วนของหน้าที่จำลองให้ดูว่า ถ้าคนอื่นเข้ามาส่องเรา เค้าจะเห็นข้อมูลอะไรบ้าง (ในภาพตัวอย่างผมใส่ข้อมูลใน Account ไว้น้อยมาก)
2) Activity Tracking
ในส่วนของข้อมูลที่ track จาก activity ตั้งแต่การเข้าเว็บไซต์ การใช้แผนที่นำทาง ไปจนถึง history ต่างๆ ที่ทำผ่าน Google Service จะถูกเก็บไว้ทั้งหมด โดยเราสามารถเข้าไปดูได้ว่าเปิดให้ Google เก็บอะไรไปบ้างที่หน้า Data & personalisation
แล้วเราจัดการอะไรกับข้อมูลได้บ้าง?
ในส่วนของ Data & personalisation จะมีเมนู Privacy Check-up ที่สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของการเก็บข้อมูลต่างๆ ว่าเก็บอะไรเอาไว้บ้าง และนำข้อมูลในส่วนนี้ไปทำประโยชน์ให้เราอย่างไร
ตัวอย่างเช่น การบันทึก Web & App Activity ที่ทาง Google จะนำข้อมูลการค้นหาเพื่อคาดเดาว่าเราสนใจอะไร หรือกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน เพื่อที่จะได้เสิร์ฟข้อมูลให้ตรงกับที่เราต้องการและรวดเร็วมากขึ้น
สมมติเรากำลังค้นหาร้านอาหารด้วยโทรศัพท์ขณะขับรถ ข้อมูลที่ปรากฏก็อาจจะเป็นร้านอาหารที่อยู่ใน route การเดินทางที่เราเคยหาข้อมูลเมื่อวาน ชีวิตก็จะสะดวกขึ้นมาอีกหน่อยนึง
ข้อมูล Activity ทั้งหมดที่ Google เก็บไว้ เราสามารถจัดการได้ ตั้งแต่ปิดเพื่อไม่ให้เก็บ Activity, ตั้งเวลาเพื่อลบข้อมูลหลังจากเวลาผ่านไปตามระยะเวลาที่เราต้องการ
นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมด หรือเลือกที่จะกดลบทั้งหมดครั้งเดียวเลยก็ได้ ในหน้าของ Data & personalisation
หมั่นตรวจสอบข้อมูลของตัวเองบนโลกออนไลน์
เราทำคอนเทนต์และยิงโฆษณาโดยอิงจาก interest ของคนเป็นหลัก ซึ่งการเข้าถึงผู้คนบนโลกออนไลน์มันคือการนำข้อมูลของคนอื่นเป็นจุดสังเกตในการส่งสารโดยเฉพาะเรื่องของโฆษณา แต่ละ platform เองก็แข่งกันเก็บข้อมูลผู้ใช้ และบอกกับผู้ที่ลงโฆษณาว่าฉันยิงโฆษณาแม่นมาก
การนำข้อมูลไปอยู่บนโลกออนไลน์เป็นเหมือนดาบสองคม นั่นคือการทำให้ชีวิตเราโคตรสะดวกสบาย โดยการแลกมากับการฝากชีวิตและข้อมูลไว้กับผู้ให้บริการ
สิ่งที่อยากจะบอกคือ ในวันที่ทุกคนแฮปปี้กับความรวดเร็วกับชีวิต ติดการกดปุ่ม Next รัวๆ เราต้องรู้เท่าทันและใช้งานมันให้เป็น รู้ว่าถูกเก็บข้อมูลอะไร และฝากข้อมูลเอาไว้เพียงเท่าที่เราจะใช้มันอย่างจำเป็นเท่านั้น