เป็นประจำที่ทุกปีนิตยสาร Time จะมีการจัดอันดับบุคลคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก 100 อันดับ ซึ่งทำมานานหลายสิบปี ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า List ของแต่ละปีนิยามของคำว่า “ทรงอิทธิพล” หรือ influential นั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะด้วยจากแนวคิดกระจายศูนย์กลางอำนาจ (decentralized) หรือการเปลี่ยนแปลงของสื่อ การที่สื่อดั้งเดิมหรือ Traditional Media ไม่ใช่กระแสหลักที่ควบคุมแนวคิดของคนบนโลกต่อไป
ท่ามกลางความน่าสนใจนี้ Edward Felsenthal บรรณาธิการบริหารของ TIME ได้ออกมาเล่าความเปลี่ยนแปลงและแนวคิดในการเลือกบุคคลที่ทรงอิทธิพลแห่งปี 2019 ซึ่ง TIME ได้ลงไว้ใน หน้าเว็บ TIME 100 และมีอีกหมวดก็คือ TIME 100 NEXT โดยเรื่องราวนี้ถูกเขียนไว้ในบทความ How We Chose the 2019 TIME 100 Next
TIME 100 NEXT คืออะไร
วิธีคิดของ Felsenthal บอกว่า ปกติแล้วในการจัดอันดับบุคคลที่ทรงอิทธิพลหรือ TIME 100 นั้นจะมีเหล่าบรรดาผู้นำโลก ศิลปินดาราระดับโลก หรือบุคคลที่มีอำนาจอยู่ใน List ด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้เรามองข้ามนิยามของคำว่า “ทรงอิทธิพล” ในอีกแบบ คือกลุ่มคนที่พุ่งทะยานขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้ จึงมาการจัดทำ TIME 100 NEXT ขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้ทำให้ TIME 100 NEXT ถูกแบ่งออกเป็นหลัก ๆ 5 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ Artists หรือศิลปิน Advocates เป็นผู้ที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างทั้งในแนวคิดและทางกฎหมาย Leaders ผู้นำหรือนักเคลื่อนไหว Phenoms ซึ่งในที่นี้หมายถึงผู้ที่มีพลังวิเศษบางอย่าง เช่นนักกีฬา นักร้องนักแสดง และ Innovators หรือนักนวัตกรรมที่สร้างสิ่งใหม่ ๆ
โดยรายชื่อของคนไทยที่ได้ก็คือ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ลิซ่า Blackpink (รวมในกลุ่ม Blackpink) และคุณกชกร วรอาคม ผู้ออกแบบอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สวนป๋วย 100 ปี
และบุคคลที่ถูกเลือกก็หลากหลายมาก ๆ ซึ่งก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องมีอายุน้อยหรือเป็น Young Geration อย่างเดียว อายุน้อยสุดคือ Alysa Liu นักเสก็ตน้ำแข็งอายุ 14 ปี และอายุมากที่สุดคือ Ayman Odeh นักการเมืองอิสราเอลอายุ 44 ปี
วิธีคัดเลือก TIME 100 NEXT นิยามใหม่ของคำว่ามีอิทธิพล
ดังนั้นย้อนกลับไปตอนแรกที่ Felsenthal บอกว่านิยามของการมีอิทธิพลเปลี่ยนไป แน่นอนว่า TIME 100 เดิมก็ยังมีอยู่ แต่ TIME 100 NEXT เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่เพิ่มขึ้นมาและโฟกัสไปยังกลุ่มคนที่มีวิธีการที่น่าทึ่งในการก้าวเข้ามามีอิทธิพลก็คือเอาผู้มีอิทธิพลนั่นแหละ รวมถึงจาก TIME 100 เองด้วยที่เคยได้ มาช่วยกันคัดเลือกโดยมุมมองของผู้มีอิทธิลพอีกที (เป็นวิธีการเลือกที่ฉลาดมาก)
Dan Macsai หนึ่งในผู้บริหาร TIME บอกว่า คนเหล่านี้ “กล้าที่จะท้าทายต่ออำนาจ และต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น”
หนึ่งในคำที่ถูกเอามานิยามด้วยก็คือ “100 rising stars who are shaping the future of business, entertainment, sports, politics, science, health and more.” หรือ 100 บุคคลที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของธุรกิจ วงการบันเทิง กีฬา การเมือง วิทยาศาสตร์ สุขภาพ และอื่น ๆ ทำให้เราจับทางได้ว่า TIME 100 NEXT นั้นมุ่งโฟกัสไปที่อนาคต มองล่วงหน้าไปยังสิ่งที่คนเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิด หรือนำทิศทางของเราไป
ดังนั้น TIME น่าจะมองว่า หนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการมองบุคคลที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงคือการมองไปยังอนาคตนั่นเอง และผู้คนเหล่านี้คือกำลังสำคัญในการผลักดันให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
เรียบเรียงโดย ทีมงาน RAiNMAKER